1.ผลกระทบรุนแรงที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเปิดเหมือง

- ผลกระทบต่อพื้นที่ป่า ประมาณ 3,500 ไร่ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นป่าชั้น 1 A และพื้นที่ทำการเกษตร พื้นที่ป่าชุมชนซึ่งเป็นแหล่งอาหาร รวมถึงพืชสมุนไพรที่หายากของชุมชน

- มลพิษทางเสียง การสั่นสะเทือน ฝุ่นละอองที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อันเกิดจากการเปิดหน้าดิน ระเบิดหน้าดิน ระเบิดชั้นถ่านหิน การขนถ่านหิน

- ผลกระทบจากกลิ่นที่เกิดจากการสันดาปของถ่านหิน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่อันตรายต่อ คน สัตว์ และพืช

-  ผลกระทบต่อแหล่งน้ำ ซึ่งการทำเหมืองจะต้องใช้น้ำปริมาณมากในกิจกรรมเหมืองแร่ และในโครงการพัฒนาเหมืองลิกไนต์เวียงแหงได้กำหนดสร้างเขื่อนเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ที่บ้านห้วยไคร้ซึ่งจะมีผลกระทบต่อชาวบ้านทั้งในการอุปโภค บริโภค ทั้งนี้ยังอาจเกิดผลกระทบจากการพังทลายของหน้าดินและการไหลบ่าของน้ำอันเกิดจากการเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำ และการแย่งน้ำของคนในชุมชนในอนาคต

2.ผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชนชาวบ้าน อ.เวียงแหงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายพอเพียง

เป็นชุมชนที่เอื้อเฟื้อ  ช่วยเหลือกันมาโดยตลอด แต่เมื่อมีโครงการดังกล่าวเข้ามาก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่ไว้วางใจกัน ขาดความสามัคคีในหมู่คณะซึ่งอาจนำไปสู้ปัญหาสังคมในอนาคต

3.กระบวนการทำการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมไม่โปร่งใส

การทำการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมไม่โปร่งใส ชาวบ้านไม่มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล ไม่ใช่ข้อมูลที่เก็บในพื้นที่จริง เกิดจากการคาดคะเน คาดการณ์โดยเฉพาะข้อมูลด้านทรัพยากร บางครั้งใช้กลไกลรัฐข่มขู่คุกคามชาวบ้าน การทำการศึกษาผลกระกระทบยังไม่ครอบคลุมผลกระทบทางด้านสังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ อาชีพและรายได้ของชุมชน

จากเหตุผลดังกล่าว ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ชมรมองค์กรปกครองท้องถิ่นอำเภอเวียงแหง เครือข่ายทรัพยากรลุ่มน้ำแตงตอนบน และชาวบ้านที่คัดค้านทุกคน ขอให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ได้ยุติโครงการดังกล่าว หากไม่ยุติ พวกเราจะเคลื่อนไหวต่อสู้คัดค้านเพื่อปกป้องวิถีชีวิต ทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า และความสมบูรณ์ของแผ่นดินเวียงแหงจนถึงที่สุด

จึงเรียนมาเพื่อทราบ