วรรษมน อุณอนันต์
25 มิ.ย. 50 จะมีสักกี่คนที่ตระหนักรู้ถึงความโหดร้ายของสงคราม ซึ่งเกิดขึ้นในยุคสมัยที่เราเรียกว่า "โลกาภิวัฒน์" ที่ซึ่งผู้คนอยู่กัีนอย่างไร้พรมแดน สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างง่ายดาย รับรู้ความสุข ความเหงา ความเศร้า และความเปล่าเปลี่ยว ของกันและกัน ทว่าคนไทยยังมีการรับรู้อันน้อยนิด ถึงความตระหนักรู้ และการเข้าถึง ความโหดร้าย ป่าเถื่อน ความหดหู่ของชีวิต ของประชาชนชาวพม่า เพื่อนบ้านผู้ซึ่งอยู่ในดินแดนใกล้ชิดติดต่อกันกับเรา ทำไมเราถึงไม่ได้รับรู้เรื่องราวของพวกเขาเหมือนกับที่เรารับรู้ข่าวสารจากอีกซีกโลกหนึ่ง เป็นเพราะว่าเราใส่ใจ สนใจ ปัญหาเหล่านี้น้อยเกินไป หรือเป็นเพราะว่าชาวพม่าเองไม่สามารถสื่อสารกับพวกเราได้?
สิบโมงเช้าของวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน 2550 เนื่องด้วยโอกาสของวันต่อต้านการทารุณกรรมขององค์การสหประชาชาติ (the UN International Day in Support of Victims of Torture) คณะรัฐบาลพลัดถิ่นของพม่า (the National Coalition Government of the Union of Burma - NCGUB) ได้ทำการเผยแพร่รายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในพม่า ช่วงปี2549/2006 ที่สมาคมนักข่าวต่างประเทศ ประเทศไทย (The Foreign Correspondent"s Club of Thailand - FCCT)
พร้อมทั้งมีการฉายวีดีโอเรื่อง "Shoot on Sight" จากองค์กร Burma Issues ซึ่งเป็นการถ่ายทำเรื่องราวของชนกลุ่มน้อยชาวพม่าในรัฐกะเหรี่ยงผู้ซึ่งกำลังถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐาน อัีนมีสาเหตุมาจากการโจมตีของทหารพม่า ที่กระทำมาอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลาประมาณสองปีแล้ว (ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2547) และในขณะนี้ได้มีผู้ลี้ภัยจำนวนมากหลบหนีเข้่ามาในประเทศไทย และอีกจำนวนมากที่ยังคงซ่อนอยู่ในป่า กลายเป็นผู้ลี้ภัยภายใน หรือ Internally Displaced Persons (IDPs) ซึ่งพวกเขาต้องพบเจอกับสภาพการใช้ชีวิตที่ไม่มีความปลอดภัยและพบเจอกับความยากลำบากในการอยู่รอดไปวันๆด้วย
รายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในพม่าปีนี้ ยังคงแสดงให้เห็นถึงการละเมิดสิทธิในพม่าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีความโหดร้ายมากขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ทั้งการถูกบังคับใช้แรงงาน สร้างถนน สร้างป้อมทหาร บังคับข่มขืน การมีทหารเด็ก การทรมานชาวบ้านด้วยวิธีการต่างๆ เหยียดหยามชาติพันธุ์ และถูกบังคับย้ายถิ่นฐานเข้าไปในศูนย์พักพิงชั่วคราว อันจะเป็นการง่ายต่อทหารพม่าที่จะควบคุมชนกลุ่มน้อยเหล่านี้
ทั้งหมดนี้ทำให้ฝ่ายที่พยายามต่อต้านรัฐบาลไม่สามารถที่จะทำการประสานงานร่วมกันได้ เพราะถูกกดดันและบังคับจากเจ้าหน้าที่รัฐต่างๆนานา ส่งผลให้ขบวนการต่อต้านรัฐบาลอ่อนแอลง จากรายงานดังกล่าว ผู้กระทำผิดล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจ ทหาร หรือแม้แต่กลุ่มการเมืองที่ไ้ด้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทหาร (เช่น องค์กร
แม้จะมีการกดดันจากชุมชนระหว่างประเทศ องค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ แต่รัฐบาลททหารพม่านั้นกลับเพิกเฉยและไม่ใส่ใจต่อเสียงเพรียกร้องเหล่านั้น ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในพม่าขององค์กรสหประชาชาติ (UN Special Rapporteur on the situation of human rights in Myanmar) ถูกปฎิเสธจากรัฐบาลทหารไม่ให้เข้าประเทศพม่าตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา นอกจากนั้นในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติเมื่อเดือนมกราคม 2550 มติการแก้ไขปัญหาพม่า (The UN draft Resolution on
ทั้งนี้ ดร.
พม่าซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกของอาเซียน ทำให้สมาชิกประเทศอื่นๆ จึงต้องมีบทบาทสำคัญในการให้ช่วยกดดันรัฐบาลทหารและผลักให้ประเด็นพม่า เป็นที่ตระหนักรับรู้ของประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทย ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาของพม่าโดยตรงควรเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ประเทศสมาชิกอื่นๆของอาเซียนหันมาให้ความสนใจและ มีการร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างยิ่งจริงจัง และจริงใจ มากกว่าที่เคยเป็นมา
"Together we are and we continue to make different, stay with us" -- Saw Taw Nay Htoo, Karen Activist
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)