เครือข่ายทรัพยากรอีสานขู่ลุกฮือ หากปิดเขื่อนปากมูน

เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน เตือน คมช. หยุดเอากระบอกปืนปล้นทรัพยากร ฟ้องประชาชน ปิดเขื่อนไม่พิจารณาข้อดีข้อเสีย ไม่ดูงานวิจัย ดูแต่ใครพวกใคร ทั้งๆ ที่กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบไม่ฝักใฝ่การเมืองเพียงแต่ไม่เห็นงามกับรัฐประหาร ขู่ลุกฮือไล่ คมช.

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่23 มิถุนายน 2550 เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน ออกแถลงการณ์หลังจาก ครม. กลับมติ ปิดเขื่อนปากมูนตามการล้อบบี้ของ กอ.รมน. และคมช. โดยแถลงการณ์ที่ใช้ชื่อว่าแถลงการณ์เตือย คมช. "หากปิดเขื่อนปากมูนวันใด องค์กรประชาชนพร้อมฮือขับไล่ คมช." ระบุว่า

 

รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 29 พฤษภาคม 2550 ให้ "เปิดเขื่อนปากมูน 4 เดือน" ตามมติ ครม. ของรัฐบาลเดิม แต่แล้วกลับมีการแทรกแซงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) โดยการชี้นำของพลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง และ กฟผ. ให้ออกมติคณะรัฐมนตรี 12 มิถุนายน 2550 เพื่อเปลี่ยนมติ ครม. ที่เพิ่งตัดสินใจผ่านมาเพียง 2 สัปดาห์ ให้ "ปิดเขื่อนปากมูนถาวร" เพื่อกักน้ำในการผลิตกระแสไฟฟ้า และเพื่อกักน้ำไว้เพื่อการเกษตรสำหรับเกษตรกรท้ายน้ำ

"การที่ คมช. มอบหมายให้ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ผ่านกลไก กอ.รมน. ซึ่งไปเคลื่อนไหวมวลชนเพื่อรวบรวมรายชื่อชาวบ้านเพื่ออ้างว่าเป็นประชามติจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ทำให้เปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีแบบพลิกลิ้น ด้วยหวังแยกสลายและทำลายล้างสมัชชาคนจนที่เป็นกลุ่มพลังมวลชนสำคัญในอีสาน เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีสานถือว่าเป็นมติอัปยศภายใต้การชี้นำของทหารที่กำลังหลงใหลมัวเมาในอำนาจ มิได้ใช้ความรู้ทางวิชาการเรื่องนิเวศน์แม่น้ำมูน การอพยพของปลาจากแม่น้ำโขงมาเป็นเหตุผล แต่ใช้เหตุผลทางการเมืองและการทหาร เพราะสถานการณ์ที่กำลังคุกรุ่น รัฐบาลทหารต้องการแยกขาวแยกดำแบ่งประชาชนออกเป็นแค่สองฝ่ายคือ "เอาทักษิณ หรือเอา คมช."

 

"จากประวัติศาสตร์การต่อสู้ที่ยาวนานของพี่น้องสมัชชาคนจน จากปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนต่าง ๆ ในอีสาน และกรณีปัญหาด้านทรัพยากรอื่น ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มพลังประชาชนที่ไม่ข้องเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางการเมือง แต่มุ่งหวังเพียงแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตที่เกิดขึ้น ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในทรัพยากรธรรมชาติ ในน้ำ ในปลา ป่าไม้ แผ่นดิน และแร่ธาตุ เครือข่ายทรัพยากรฯ ขอยืนยันในอุดมการณ์ที่ชัดเจนคือก่อตั้งและดำรงอยู่เพื่อที่จะรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นกลุ่มชาวบ้านที่กำลังเผชิญอยู่กับปัญหา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งรวมตัวกันเป็นองค์กรเครือข่ายที่สนับสนุนการทำงานเคลื่อนไหวร่วมกันมาตลอดเวลา

 

"การที่ คมช. บังคับให้มีมติ ครม. ปิดเขื่อนปากมูลถาวรครั้งนี้ ถือว่าเป็นการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ของรัฐบาลทหาร ไม่ต่างไปจากวิธีการ "ใช้ปืนจ่อหัวชาวบ้าน" บังคับให้มีการปิดเขื่อนปากมูลถาวร ปิดชีพจรแห่งแม่น้ำมูล ปิดทางเดินของปลา และปล้นคร่าเอาเครื่องมือประมงที่เตรียมพร้อมสำหรับคืนสู่แม่น้ำของเหล่าชาวประมง เครือข่ายทรัพยากรฯ ไม่อาจทนนิ่งอยู่ได้ เพราะวันนี้เมื่อ คมช. ลงมือทำร้ายสมัชชาคนจน ก็แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลทหารพร้อมที่จะใช้ปืนชี้นำการแก้ปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศเช่นกัน จึงได้ออกแถลงการณ์เตือน คมช. หากไม่เร่งแก้ไขมติ ครม. 12 มิถุนายน 2550 ที่กำลังจะบังคับให้ปิดเขื่อนปากมูลถาวร ฟางเส้นสุดท้ายระหว่างรัฐบาลทหารและเครือข่ายประชาชนอีสานก็ขาดลง เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศก็พร้อมจะลุกฮือขับไล่ คมช. ทันที" แถลงการณ์ ระบุ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท