Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2550 เวลา 14.05 น. ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง (มร.) หัวหมาก กรุงเทพฯ นายสิกขนันท์ หนูเล็ก นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง (อศ.มร.) พร้อมกลุ่ม สมาชิก อ.ศ.มร. จำนวน 10 คนได้อ่านแถลงการณ์แสดงจุด ยืน อศ.มร.ต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองปัจจุบัน ใจความว่า ในท่ามกลางสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มที่อ้างว่าเป็นแนวร่วม ประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ได้มีความพยายามที่จะอภิปรายหรือเชื่อมโยงเอาภาพนัก ศึกษามร.เข้าไปเสริมสร้างความชอบธรรมในการโค่นล้มฝ่ายตรงข้าม อศ.มร.ในฐานะตัวแทนที่มาจากความไว้วางใจของเพื่อนชาวรามและใน ฐานะที่เป็นองค์กรนักศึกษาที่ยืนหยัดเคียงข้างผลประโยชน์ของประเทศชาติและ ประชาชนมาโดยตลอดขอแถลงถึงเจตนารมณ์และจุดยืน ดังนี้


1. อศ.มร.ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่เห็นด้วยในการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพราะเป็นวิธีการที่อยู่ตรงข้ามกับกระบวนการประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง แต่ภายหลังการยึดอำนาจแล้วคณะผู้ยึดอำนาจก็ยืนยันจะคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุดและเห็นว่าขณะนี้ก็ยังอยู่ในแนวทางที่เคยให้สัญญา


2.ไม่เห็นด้วยกับจุดยืนและแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการเพราะการรวมเอากลุ่มคนหลากหลายพื้นฐานมารวมกันเพื่อเป้าหมายที่ ไม่แน่ชัดว่าเป็นอุดมการณ์ประชาธิปไตยแท้จริงหรือไม่ และเป็นเรื่องอันตรายในการจัดการชุมนุมและสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงได้ทุกขณะและจากการสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด


อศ.มร.เห็นว่าการเคลื่อนไหวฝ่ายต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นี้พบว่า นอกจากไม่พยายามควบคุมการชุมนุมให้เป็นระบบหรือมีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ทางความคิดความอ่านแล้ว ตรงกันข้ามทุกแนวทางของฝ่ายต่อต้าน มีแต่การพยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้าให้เกิดการปะทะและยั่วยุให้เกิดความรุนแรงตลอดเวลา อีกทั้งแม้ภาพใหญ่จะพยายามบอกว่าเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ แต่สังคมทั่วไปทราบดีว่านี่เป็นฝ่ายของคนรักทักษิณ และกลายเป็นว่า มุ่งล้มทหารเพื่อเอาทักษิณกลับมา ซึ่งไม่ได้ตอบโจทย์ใดๆ ที่เป็นปัญหาทางการเมืองอันนำสังคมเราย้อนไปสู่วังวนก่อนการยึดอำนาจ


3.อศ.มร.ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบและทุกมิติไม่ว่าจะเกิดจากฝ่ายใดก็ตาม เช่น การจัดภาคเวทีเพื่อแสดงความคิดเห็นให้ภาคประชาชนควรที่ จะเปิดกว้างให้ทุกภาคฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นไม่ใช่จะใช้ความ รุนแรงกับฝ่ายที่คิดว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้าม อย่างกรณีเหตุการณ์คืนวัน ที่ 9 มิถุนายน 2500 สะท้อนให้เห็น เจตนาและแนวโน้มการใช้ความรุนแรงที่ไม่อาจรับได้เพราะไม่ใช่วิถีทางของปัญญาชน และ


4.อศ.มร.ขอยืนยันกับประชาชนได้ว่าจะยืนหยัดเคียงข้างคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้มาโดยตลอด เมื่อสังคมไม่ต้องการเห็นบ้านเมืองบอบช้ำมากไปกว่านี้ อศ.มร.จึงไม่อาจเคลื่อนไหวใดๆ ที่เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ แต่จะมีการเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเฝ้าจับตาดูการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลชุดนี้ การร่างรัฐธรรมนูญรวมทั้งพฤติกรรมต่างๆ ของผู้มีอำนาจโดยขอยืนยันว่ากับพี่น้องประชาชนว่า เมื่อใดที่พบเห็นการบิดเบือนจากเจตนาเดิมในการยึดอำนาจ แต่กลับมุ่งสมคบคิดในการสืบทอดอำนาจไม่เร่งคืนอำนาจกลับให้ประชาชนโดยเร็ว ถึงวันนั้น อศ.มร.จะออกมาอยู่ ทัพหน้าร่วมกับประชาชนต่อสู้กับคณะนายทหารแน่นอน และหากสิ้นปีนี้ไม่มีการเลือกตั้งจะมีการรวมพลังที่รามคำแหงแน่นอน


"การชุมนุมของม็อบพีทีวี ที่ได้เปลี่ยนมาเป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ได้มีการพูดในที่ชุมนุมเมื่อวันอังคารที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมาว่าจะมีนักศึกษา มร.ไปร่วมชุมนุมด้วย 3,000 คน นั้น ผมก็ได้ตรวจสอบแล้วและยอมรับว่ามีนักศึกษามร.ไปร่วมเพียง 150 คนเท่านั้น และยังทราบว่าคนที่ไปร่วมก็เป็นนักศึกษาสังกัดพรรคศรัทธาธรรม ที่เป็นพรรคเก่าของนายจตุพร พรหมพันธ์ สมัยเป็นนักศึกษามร. ผมจึงอยากขอร้องนักศึกษา มร.ที่ไปร่วมชุมนุม ว่าหากจะไปก็ขอให้ไปในนามส่วนตัวไม่ควรเอาชื่อ ม.รามคำแหง ไปแอบอ้างในการทำมาหากิน และอยากฝากถึงแกนนำผู้ชุมนุมว่า อย่าทำร้ายหรือพานักศึกษา ประชาชน หรือรุ่นน้องไปร่วมชุมนุม เพราะหากคุณทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้นเท่ากับคุณพานักศึกษา ประชาชน หรือรุ่นน้องไปตาย และขอยืนยันว่าอศ.มร.ไม่เคยไปร่วมกับกลุ่มพีทีวี หรือฝักใฝ่กลุ่มใด" นายกอศ.มร. กล่าว


นายสิกขนันท์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้อศ.มร.กำลังรณรงค์ให้นักศึกษามร.ออกมาให้ ความสำคัญกับเหตุการณ์ในบ้านเมือง และผมก็กำลังร่วมกับเพื่อนๆ นักศึกษา อีก 6 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร กลุ่ม มหาวิทยาลัยราชมงคลและมหาวิทยาลัยรังสิตจะตั้งกลุ่ม "หัวกะทิ" ขึ้นมาเพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางให้นักศึกษาเตรียม ความพร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น


 


ที่มา: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net