ประชาไท - 16 มิ.ย.50 หลังจากประชาชนประมาณ 7,000 คนเดินทางไปร่วมชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวง และฝนได้ตกลงมาอย่างหนักในช่วง 20.00 น. ทำให้ประชาชนบางส่วนทยอยกลับบ้น แต่คนส่วนใหญ่ยังคงปักหลักชุมนุมต่อไป จนกระทั่งแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปก. ขึ้นเวทีปราศรัยประกาศว่า วันนี้จะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปยังกองทัพบกดังเช่นอาทิตย์ที่แล้ว

นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่ม นปก. กล่าวว่า แนวทางการต่อสู้แบบสันติวิธีได้รับพิสูจน์ด้วยการเดินขบวนครั้งที่แล้วที่เดินไปกองทัพบกแล้วกลับมาสนามหลวงอย่างสันติ จึงทำให้รู้ว่าแนวทางนี้คือแนวทางแห่งชัยชนะ ส่วนชัยชนะขั้นที่สองคือแม้การชุมนุมในวันนี้มีฝนตกลงมาประชาชนก็ไม่หนีไปไหน ภาพเหล่านี้จะเผยแพร่ออกไปทางหนังสือพิมพ์ทุกฉบับและโทรทัศน์ทุกช่อง และชัยชนะขั้นที่สามคือ ขณะนี้ต่างจังหวัดกำลังจัดตั้งองค์กรแนวร่วมคิดว่าไม่เกินวันที่ 24 มิถุนายนนี้จะได้องค์กรแนวร่วมครอบคลุมทั้งประเทศ

นายวีระกล่าวต่อว่า อีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่มีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมในคืนนี้ เนื่องจากมีการแจ้งว่ากลุ่มผู้มีอำนาจได้เตรียมคนไว้ที่ลานพระบรมรูปฯ ราว 2,000 คน เพื่อคอยก่อกวนให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบ ทางแกนนำจึงตัดสินใจปราศรัยที่ท้องสนามหลวงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้การปราบเผด็จการและการสร้างประชาธิปไตยเป็นสิ่งต้องทำ แต่โอกาสที่จะชนะเผด็จการในขั้นเด็ดขาดนั้นยังมี แกนนำทุกคนประกาศอุทิศชีวิต ไม่ทิ้งหน้าที่ และจะนำชัยชนะมาโดยไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย เป็นชัยชนะที่ขาวสะอาด ยั่งยืน เพราะการชุมนุมที่เคยได้รับชัยชนะ มีการตายเกิดขึ้นทั้ง 3 ครั้งในประวัติศาสตร์ไทย และเพียงปีเดียวเผด็จการก็กลับมายึดอำนาจได้อีก

นายวีระยังได้ประกาศว่า กองทัพทั้งกองทัพมิใช่ศัตรูของประชาชน แต่มีเพียง 2 คนคือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ที่เป็นศัตรูที่ประชาชนอย่างแท้จริง และ 7 วันหลังจากนี้จะให้โอกาสคนใมนกองทัพจัดการกันเองว่าจะเอา 2 คนนี้ออกโดยวิธีใดเพื่อให้กองทัพทั้งกองทัพพ้นมลทิน อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่าวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.) จะมีการชุมนุมอีกภายใต้แนวทางเดิมคือ 1.ไม่รุนแรง 2.ไม่โกรธ 3.ไม่ตอบโต้