"นพดล" ระบุ "ทักษิณ" พร้อมเดินทางกลับมาสู้คดี พร้อมลงการเมืองเร็วๆ นี้

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีคำสั่งตั้งทีมทนายต่อสู้และฟ้องร้องทั้งแพ่งและอาญา คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) ให้ถึงที่สุด

 

โดยทีมทนายกำลังร่างคำฟ้อง คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์นี้ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ มีความเป็นไปได้ที่จะเดินทางกลับมายังประเทศไทยในเร็วๆ นี้ โดยไม่ต้องขออนุญาตคมช. ภายใน 1-2 วันนี้จะรู้วันและเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับ

 

ขณะเดียวกัน มีความเป็นไปได้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาต่อสู้ทางการเมืองในฐานะผู้เล่น ไม่ใช่ผู้นั่งชม ภายหลังจากถูกกระทำจาก คมช.กลั่นแกล้งทุกรูปแบบ ซึ่งก็ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงเวลาที่จะต้องสู้เพื่อความยุติธรรม

 

ด้านเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ เสนอเพิ่มเติมว่า นายนพดลแถลงว่า พูดคุยกับอดีตนายกฯ ใน 5 ประเด็นคือ

 

1.แม้พรรคไทยรักไทยจะถูกตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรค แต่สมาชิกพรรคก็ยังคงเป็นปึกแผ่น แม้มีคนบางกลุ่มอยากทำลายพรรคไทยรักไทย และระบุว่ามีการส่งท่อนำเลี้ยงจาก พ.ต.ท.ทักษิณให้กับม็อบที่ท้องสนามหลวงจึงพยายามจะตัดท่อน้ำเลี้ยง ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย ละเมิดหลักนิติธรรม และไร้คุณธรรม ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณรู้สึกว่ามีความพยายามที่จะให้ประชาชนไปสนับสนุนพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ใช่พรรคไทยรักไทย ด้วยการสร้างความอ่อนแอให้พรรคไทยรักไทยมากที่สุด

 

2.หลังจากที่มีการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. พ.ต.ท.ทักษิณประกาศมาตลอดว่าจะวางมือทางการเมือง พูดชัดเจนว่าจะไปสอนหนังสือ และทำงานด้านสาธารณกุศล แต่หลังจากนั้นมีการถอนพาสปอร์ตทูตก่อนที่จะมีการอายัดทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษิณจึงฝากถามว่า อยากให้ท่านกลับสู่การเมืองใช่หรือไม่ เพราะขณะนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อครอบครัว เมื่อเข้าตาจน ทุกคนก็ต้องหาทางต่อสู้ สิทธิความเป็นคนไทย และสิทธิในการเคลื่อนไหวของท่านก็มี

 

3. ที่ได้พูดคุยกันคือ คำสั่งอายัดทรัพย์ที่ไร้คุณธรรม ไม่เป็นธรรม และขัดต่อหลักกฎหมาย กรณีของซีทีเอ็กซ์ หวยบนดิน และทุจริตกล้ายาง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของคตส. มีเพียงคดีที่ดินรัชดาเท่านั้นที่มีข้อสรุปแล้ว เรื่องส่วนใหญ่ยังไม่มีข้อสรุปเลย ถือเป็นการสันนิษฐานให้ผิดไว้ก่อนแล้วค่อยมาพิสูจน์กันใช่หรือไม่ เพราะหลักฐานถือว่าไม่เพียงพอ เป็นการเหวี่ยงแห หาเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณอย่างถึงที่สุด

 

4.ข้อหาร่ำรวยผิดปกตินั้น ยืนยันว่าท่านร่ำรวยเป็นปกติ ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็นปกติ หากดูจากปี 2536 ดัชนีอยู่ที่ 1,400 หุ้น กลุ่มชินทีราคาพาร์ 143 บาท ต่อมาปี 2541 หลังวิกฤตเศรษฐกิจ ราคาพาร์เหลือ 1 บาท และในปี 2549 ราคาพาร์อยู่ที่ 49 บาท ดังนั้นจะเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นไปตามราคาตลาด ไม่มีอะไรที่จะไปทำให้ราคาหุ้นขึ้นจนร่ำรวยผิดปกติได้ มี 3-4 โครงการที่คตส.ไม่ได้ตรวจสอบ แต่กลับเอามาอ้าง เป็นการกล่าวหา บิดเบือนข้อมูล พยายามเด็ดปีกพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ให้มีความสะดวกสบาย โดยอ้างว่าทำให้รัฐเสียหาย

 

อย่างไรก็ตาม การที่พ.ต.ท.ทักษิณขายหุ้นให้เทมาเส็กโดยผ่านบุตรนั้น เพราะกลัวจะโดนข้อกล่าวว่าเตรียมนำทรัพย์สินออกไปนอกประเทศ ทั้งที่ความจริงแล้วก็สามารถขายให้เทมาเส็กโดยตรงได้ ถือเป็นเจตนาดีแต่ผลที่ออกมาก็เป็นอย่างที่เห็น

 

5. นายนพดลกล่าวว่า จะกลั่นแกล้งเอาผิดพ.ต.ท.ทักษิณไปอีกนานแค่ไหน พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้นำประเทศมา 4-5 ปี ไม่เชื่อว่าคนจะชั่วบริสุทธิ์หรือดีบริสุทธิ์ได้ ย่อมต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เมื่อก่อนคนจนไม่มีเงิน หลายโครงการที่ช่วยเหลือประชาชนเกิดขึ้นได้เพราะใคร ด้วยสติปัญญาของคมช.สามารถทำแบบนั้นได้หรือไม่ คมช.ต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ แต่จากการกระทำ ผมยังรู้สึกเจ็บปวดแทน แม้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะถูกยึดทรัพย์จนไม่มีเงินจ้างทนาย ผมก็ยินดีที่จะทำให้ฟรี เพราะเงินทองสำคัญน้อยกว่าการทำเพื่อรักษาชื่อเสียงวิชาชีพ

 

 

ที่มา : เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น, ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท