การเมือง

 

 

ครม.พิจารณายกเลิกประกาศคปค.ฉบับที่ 15/ 3 เรื่องตั้งพรรคการเมือง

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายธีรภัทร์ เสรีสังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในวันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.นี้ คณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างรัฐบาลกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะหารือร่วมกันหลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบยกเลิกประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 วรรค 2 เรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง และจะเสนอให้สนช.พิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน 3 วาระรวดในวันที่ 20 หรือ 21 มิ.ย.นี้

 

 

"ไพบูลย์"โทษสื่อ ตีข่าวเกาเหลาอารีย์เอง ยันไม่ได้ขัดแย้ง

เว็บไซต์แนวหน้า - นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวก่อนการประชุมครม. ยืนยันความขัดแย้งกับกระทรวงมหาดไทยในเรื่องร่างพรบ.สภาองค์กรชุมชนว่า ตนได้คุยกับนายอารีย์และได้มีการปรึกษาหารือร่วมกัน จึงขอยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกัน เพียงแต่ความเห็นยังไม่ลงตัวเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้จะได้มีการปรึกษาเพื่อมีความเห็นร่วมกันในระดับต่างๆ ต่อไป อีกทั้งรัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวงก็ไม่ได้มีการกล่าวหาซึ่งกันและกันตามที่สื่อเสนอ ทั้งนี้ตนเสียดายที่สื่อมวลชนไปตีแผ่ในมุมมองความขัดแย้ง อย่างไรก็ตามการประชุมครม.วันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่นั้นตนคิดว่าเรื่องนี้จะมีจังหวะซึ่งต้องเดินไปตามจังหวะ ส่วนจะต้องชะลอเรื่องนี้ออกไปก่อนหรือไม่นั้นก็จะต้องมีการหารือกันก่อน

 

นปก.ทำพิธีเผา และอ่านคำสาปแช่งรัฐธรรมจำลอง

ไอ.เอ็น.เอ็น.- นายแพทย์เหวง  โตจิราการ แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) เป็นตัวแทนในพิธีเผาและอ่านคำสาปแช่งรัฐธรรมนูญจำลอง โดยมีแกนนำทั้ง 7 คน ของ นปก.ร่วมในพิธี ซึ่งอ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเป็นฉบับเผด็จการของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และ นาวาอากาศตรีประสงค์ สุ่นศิริ ประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมกล่าวโจมตีรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวว่า เป็นรัฐธรรมนูญปีศาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย โดยมีการเผาพริกไปพร้อมกับรัฐธรรมนูญจำลองดังกล่าวด้วย

 

 

ครม.อนุมัติร่างกฎหมายประชามติ

ไอ.เอ็น.เอ็น. - นพ.พลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ตามการเสนอของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว จากนั้นจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ต่อไป

 

 

จรัญ ยืนยันมีหลักฐานเสนอเงินให้ตุลาการ รธน.

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายจรัญ  ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ยืนยันว่ามีการเสนอจ่ายเงินให้ตุลาการรัฐธรรมนูญ 2 ท่าน เพื่อวิ่งเต้นคดียุบพรรคการเมืองจริง แต่ตุลาการรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ท่านปฏิเสธ ตนไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเป็นตุลาการรัฐธรรมนูญจากศาลฎีกาหรือศาลปกครอง  สำหรับตุลาการรัฐธรรมที่ออกมาปฏิเสธ ก็แสดงว่าไม่เกี่ยวกับบุคคลนั้น

 

"ผมมีหลักฐานชัดเจนมากกว่าคำบอกเล่า เป็นหนังสือลายมือ  ผมอยากเปิดเผยให้ดู แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของข้อมูล  แต่การเสนอสินบนเป็นความผิดทางอาญา บุคคลที่ถูกเสนอเงินเป็นผู้เสียหายโดยตรงสามารถเริ่มต้นดำเนินคดีได้ และเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็สามารถดำเนินคดีได้เช่นกัน ในหลักฐานที่ผมมี ไม่ระบุตัวเลขจำนวนเงินชัดเจน แต่ยืนยันว่าหนังสือที่เขียนด้วยลายมือพร้อมลายเซ็นต์ ระบุวันที่ ชัดเจน ได้มาจากตุลาการรัฐธรรมนูญที่ได้รับข้อเสนอจริง " นายจรัญกล่าว

 

รายงานข่าวแจ้งในรายละเอียดของหนังสือฉบับดังกล่าว ระบุว่า "นิติศาสตร์รุ่น 09 อ้างว่า ภรรยาเป็นหนี้บุญคุณ หญิงอ้อ

 

 

คนรากหญ้าชี้ เครียด และอึดอัด

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - หลังจากที่ คตส.ประกาศอายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นายพรหมศักดิ์ แสนโพธิ์ ประธานสหพันธ์ประชาชนรากหญ้าเครือข่ายภาคเหนือ  เปิดเผยว่า  ยืนยันว่า คงไม่เคลื่อนไหวในลักษณะของการชุมนุมหรือประท้วง และที่มีชาวบ้านบางกลุ่มเดินทางไปชุมนุมร่วมกับพีทีวีที่กรุงเทพฯ ก็เป็นการเดินทางไปส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับสหพันธ์ประชาชนคนรากหญ้าฯแต่อย่างใด กลุ่มคนที่เดินทางไป บอกถึงเหตุผลว่า สาเหตุที่ต้องไปประท้วงร่วมกับกลุ่มพีทีวี เพราะทนไม่ไหว เนื่องจากเวลานี้ประกอบอาชีพหรือค้าขายค่อนข้างฝืดเคือง ไม่เหมือนเมื่อก่อน โดยกลุ่มดังกล่าว จะเดินทางไปในช่วงค่ำของวันศุกร์ และจะกลับมาวันอาทิตย์ หรือวันจันทร์

 

"ก่อนวันที่ศาลตัดสินคดียุบพรรค ผมถูกสะกดรอยตามตลอดเวลา และเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็ถูกทหารเข้ามาควบคุมตัวพร้อมกับนายพรชัย อรรถปรียางกูร อดีต ส.ส.เขต 5 จ.เชียงใหม่พรรคไทยรักไทย ขณะทำกิจกรรมในงานถนนคนเดินของ อ.สันกำแพง จนรู้สึกเครียดและอึดอัด แม้ก่อนหน้านี้ ผมเคยชี้แจงว่า จะไม่เคลื่อนไหวใดๆก็ตาม" นายพรหมศักดิ์ กล่าว

 

 

นายกฯ ยืนยันให้ความปลอดภัยและความเป็นธรรมแก่พ.ต.ท.ทักษิณ หากเดินทางกลับประเทศ

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีสิทธิ์ที่จะเดินทางกลับประเทศเพื่อชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กรณีที่ถูกอายัดทรัพย์สิน โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แต่ต้องแจ้งให้คตส.ทราบ พร้อมรับปากดูแลความปลอดภัยพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะคนไทย และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมในการตรวจสอบ โดยจะให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า ไม่กังวลกับสถานการณ์การชุมนุมเคลื่อนไหว หลังการเดินทางกลับของพ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงมติของคตส.ที่มีการอายัดทรัพย์สินพ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา เพราะเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจและไม่ต้องการให้เกิดผลเสียหายต่อประเทศ

 

 

อภิสิทธิ์ เห็นพ้องอายัดทรัพย์ ทักษิณ ตาม กม.

ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีคำสั่งอายัดทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัวว่า เชื่อว่าเป็นกระบวนการเป็นไปตามขั้นตอน ที่ได้มีการพูดกันมานานแล้ว ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ  ก็มีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ชี้แจงได้ตามกฎหมาย พร้อมฝากไปถึงคนที่อาจนำกรณีดังกล่าวเป็นเงื่อนไขในการสร้างความรุนแรง และอยากให้มองบ้านเมืองเป็นหลัก โดยอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นศูนย์กลาง เพื่อสร้างเงื่อนไขสร้างความแตกแยกให้มากขึ้นกว่านี้โดยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

 

อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เชื่อว่า การสั่งอายัดทรัพย์ในช่วงเวลานี้ จะเป็นการเติมเชื้อความรุนแรงเพราะเห็นว่า เป็นไปตามการประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

 

หน.พรรค ปชป.เผย ศุภชัย สงวนท่าที

ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงการหารือร่วมกับ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรืออังก์ถัดว่า ได้พูดคุยและวิเคราะห์ในสถานการณ์ทุกเรื่อง โดยเน้นในเรื่องเศรษฐกิจมากกว่าการเมือง ซึ่งดร.ศุภชัยระบุว่า ยินดีให้คำปรึกษา แต่ยังมีภาระหน้าที่กับอังก์ถัดถึง 2 ปี ซึ่งนายอภิสิทธิ์เห็นว่า ช่วงระยะเวลา 2 ปี ถือว่ายาวนานมากทางการเมือง และไม่สามารถคาดเดาว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอีกบ้าง ซึ่งก็ไม่ได้คาดคั้นให้ ดร.ศุภชัย กลับมาเล่นการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์

 

 

สุทินเตรียมร้องยูเอ็นดูแลการเลือกตั้ง

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายสุทิน คลังแสง สมาชิกกลุ่มไทยรักไทย กล่าวถึงคตส.มีมติอายัดทรัพย์สินพ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวว่า แม้จะรู้เจตนาของรัฐบาลและคมช.ที่ต้องการทำลายพ.ต.ท.ทักษิณและพรรคไทยรักไทย แต่คิดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีการที่เลวร้าย กระทบต่อความรู้สึกคนทั้งประเทศรุนแรงเช่นนี้ การชำระแค้นด้วยวิธีนี้ถือเป็นความคิดที่ผิด เพราะจะยิ่งทำให้ม็อบรุนแรงและเพิ่มจำนวนมากขึ้น แค่การยุบพรรคด้วยวิธีไม่เป็นธรรม ก็สร้างความร้าวลึกในใจประชาชน และแบ่งแยกคนในประเทศออกเป็นสองฝ่าย

 

ทั้งนี้การซ้ำเติมด้วยการอายัดโดยคณะบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือและไม่ชอบด้วยหลักนิติธรรม ยิ่งเป็นการผลักประชาชนไปรวมกันที่ท้องสนาม เกรงว่าจะเกิดเหตุล้างแค้นกันระหว่างคนสองฝ่าย เหมือนกรณีกลุ่มทมิฬกับสิงหลในประเทศศรีลังกา ขณะเดียวกันจะมีคนไทยกลุ่มหนึ่งไปพึ่งขอความเป็นธรรมจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์กรนิรโทษกรรมสากล และองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หากการเลือกตั้งครั้งหน้ายังอยู่ภายใต้รัฐบาลและคมช.ชุดนี้ เราจะพึ่งสหประชาชาติ ให้เข้ามาช่วยดูแลการเลือกตั้ง เพื่อขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับกระบวนการได้คืนประชาธิปไตยและให้การเลือกตั้งเกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม

 

 

เผยพระพรหมคุณาภรณ์ ไม่ชี้ขาดเรื่องบัญญัติพุทธในรธน.

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายวรเดช อมรวรพิพัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา จริยธรรมศิลปะและวัฒนธรรม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงข่าวว่า จะยื่นหนังสือต่อนายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อแจ้งผลการประสานงานกับมหาเถรสมาคมและพระเถระผู้ใหญ่ในเรื่องเกี่ยวกับการบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในร่างรัฐธรรมนูญ

 

โดยขอแจ้งว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคมลงมติรับทราบและขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) มีลิขิตถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พ.ค.50 มีใจความชัดเจนขอสนับสนุนให้มีมาตราว่าด้วยพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติลงในรัฐธรรมนูญ

 

นายวรเดชกล่าวอีกว่า มีสสร.คนหนึ่งที่ไปพบพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) แล้วกลับมาแจ้งกับสสร.ทั้งในที่ประชุมนอกรอบและที่ประชุมใหญ่ว่า ท่านมีความเห็นให้ชาวพุทธควรถอยในเรื่องนี้ ซึ่งตนก็ได้เดินทางไปพบกับพระพรหมคุณาภรณ์ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าไม่ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้

 

นายวรเดชนำเอกสารฉบับหนึ่ง มีใจความว่า บุคคลใดที่นำความเห็นไปอ้างในสภาหรือในที่ใดมิได้ว่า ในการบัญญัติเรื่องพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญนั้น พระพรหมคุณาภรณ์มีความเห็นว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะพระพรหมคุณาภรณ์ได้พูดและเขียนไว้ชัดเจนแล้วว่า ไม่ให้ความเห็นให้ แต่ความรู้ถ้าจะบอกว่าให้ความเห็นก็บอกเพียงว่าผู้ใหญ่ของสภาร่างรัฐธรรมนูญควรพบปะพูดจากับผู้ใหญ่ของฝ่ายที่เรียกร้องด้วยท่าทีที่เป็นมิตรและรวมกันคิดแก้ปัญหา พร้อมกันนี้นายวรเดชได้นำข้อความลงลายมือชื่อพระพรหมคุณาภรณ์ มาแจกกับผู้สื่อข่าวด้วย

 

นายวรเดช กล่าวอีกว่า หากยังมีความขัดแย้ง ตนเชื่อว่าจะเกิดการปะทะและรุนแรง ตนพยายามบอกกับประธานสสร.ว่า กรรมาธิการศาสนาฯ ได้ทำการบ้านให้สสร.แล้ว แต่ไม่ได้รับความสนใจหากมีเรื่องขึ้นมาแล้วมีคนบุกเข้ามาเผารัฐสภา สสร.ทั้ง 100 คนต้องรับผิดชอบ

 

"ผมไม่ได้ขู่ แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เที่ยวนี้มีอะไรลุกเป็นไฟแน่พระท่านตรึงกำลังไว้หมดแล้ว ถ้ามีอะไรสสร. 100 คน ต้องรับผิดชอบถ้าเป็นศาสนาอื่นไม่รอจนถึงขนาดนี้เขาเผารัฐสภาไปแล้ว" นายวรเดช กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น. พระธนพลบุญเกิด จากจังหวัดอ่างทอง หนึ่งในพระสงฆ์ 15 รูปที่ประกาศอดอาหารอยู่บริเวณรัฐสภาวนารามได้เป็นลมหมดสติจนต้องนำส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ซึ่งเหตุเนื่องมาจากอ่อนเพลียไม่ได้ฉันอาหารมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วจึงทำให้ร่างกายอ่อนแอและเนื่องจากอากาศบริเวณหน้ารัฐสภาร้อนจัด

 

 

 

เศรษฐกิจ

 

 

ก.เกษตรใช้งบ 20 ล้านแก้ปัญหาราคาหมูตกต่ำ

ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายธีระ สูตะบุตร รมว.เกษตรฯ เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2550 การผลิตสินค้าปศุสัตว์ส่วนใหญ่ขยายตัวเพิ่มเฉลี่ยร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2549 ส่งผลให้ราคาสินค้าปศุสัตว์โดยรวมปรับตัวลดลง โดยเฉพาะราคาสุกรปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2549 เนื่องจากแหล่งผลิตสุกรที่สำคัญขยายกำลังการผลิตมากขึ้น ทำให้มีปริมาณผลผลิตเพิ่มสูงกว่าความต้องการบริโภคภายในประเทศ ประกอบกับประเทศไทยไม่สามารถส่งออกเนื้อสุกรไปยังต่างประเทศได้

 

ส่วนการแก้ไขปัญหาราคาสุกรนั้น คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรจะอนุมัติงบประมาณจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการซื้อสุกรจำนวน 2 แสนตัว ไปทำหมูหัน นอกจากนี้คณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ หรือ Pig Board ยังขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ปลดระวางแม่สุกรเร็วขึ้น จากปลดระวางที่คอกที่ 6 เปลี่ยนเป็นคอกที่ 5 รวมทั้งในแต่ละคอกสุกร 1 ตัวจะนำไปทำแม่พันธุ์ เพื่อตัดวงจรลูกสุกรในระบบ คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณสุกรในตลาดได้ร้อยละ 13 และจะทำให้ราคาสุกรปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

 

 

 

ต่างประเทศ

 

 

ยูเอ็นเตือนตะวันออกกลางจ่อเข้าสงคราม

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายเทอร์เจ โรเอ็ด-ลาร์เซน ผู้แทนกิจการตะวันออกกลางของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกมาเตือนเมื่อวันจันทร์ (11 มิ.ย.) เกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยระบุว่า ภูมิภาคดังกล่าวเผชิญความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามอย่างเต็มรูปแบบ หากเหตุรุนแรงที่เกิดในปัจจุบันไม่ได้รับการแก้ไข หรือใช้ช่องทางทูตนำสันติภาพกลับสู่ภูมิภาค

 

ผู้แทนยูเอ็นเปิดเผยด้วยว่า ไม่กี่ปีที่ผ่านมาสภาพการเมืองภูมิศาสตร์ในตะวันออกกลางได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากช่วงหลายสิบปีที่ศูนย์กลางความขัดแย้งอยู่ที่ปัญหาระหว่างอิสราเอลกับชาติอาหรับ แต่ปัจจุบันตะวันออกกลางกำลังความขัดแย้ง 4 เรื่องใหญ่ซึ่งมีแรงขับเคลื่อนเป็นเอกเทศ ได้แก่ เรื่องอิรัก เรื่องอิหร่าน เรื่องซีเรีย-เลบานอน และเรื่อง ปาเลสไตน์-อิสราเอล

 

"ปรากฎการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นดูเหมือนมีความเกี่ยวพันธ์กันอย่างเต็มที่ ทำให้แก้ได้ยากมาก และอาจเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแก้ปัญหาหนึ่งโดยไม่แก้ปัญหาที่เหลือ" นายลาร์เซนกล่าวหลังเสร็จจากบรรยายสรุปสถานการณ์ตะวันออกกลางต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น

 

ผู้แทนยูเอ็นชี้ว่ามี 3 ทางให้เลือกเดิน ทางแรกคือ เดินบนหนทางสู่ความรุนแรงต่อไป ซึ่งเหตุรุนแรงพบได้ในเลบานอน กาซา เวสต์แบงก์ อิรัก และพื้นที่อื่นๆทั่วภูมิภาค ในกรณีเลวร้ายที่สุด เหตุรุนแรงจะบานปลายเป็นการเผชิญหน้าทางอาวุธในภูมิภาค

 

ทางเลือกที่ 2 คือทั่วโลกต้องช่วยกันผลักดันผ่านช่องทางการทูตเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งนายลาร์เซ่นเห็นว่าทำได้ยากมากเพราะความขัดแย้งทั้ง 4 เรื่องเป็นเรื่องที่เกิดเอกเทศแต่ก็สัมพันธ์กันด้วย

 

ส่วนทางที่ 3 คือ การใช้นโยบายยับยั้งความขัดแย้งอย่างรุนแรง โดยป้องกันสถานการณ์ขัดแย้งไม่ให้เลวร้ายลงไปอีก พร้อมแก้ไขความตึงเครียดในภูมิภาคในระดับกว้างขึ้น

 

 

จีนอยากแก้ปัญหาประชาชนใช้แซ่ซ้ำกัน

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - หนังสือพิมพ์ ไชนา เดลีย์ของจีน รายงานวันนี้ว่า กระทรวงความปลอดภัยสาธารณะได้ร่างกฎข้อบังคับใหม่เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เพราะจากการสำรวจทั่วประเทศเมื่อเดือนเมษายนของสถาบันวิทยาศาสตร์ของจีน พบว่า แซ่ที่คนจีน 85% ของทั้งประเทศกว่า 1,300 ล้านคน ใช้ร่วมกันมีแค่ 100 แซ่เท่านั้น อย่างเช่น แซ่หวังมีคนใช้ซ้ำกันมากถึง 93 ล้านคน ซึ่งก็ทำให้เกิดความสับสนและขาดความหลากหลาย

 

สาเหตุของเรื่องนี้มาจากกฎหมายปัจจุบันที่กำหนดให้เด็กเกิดใหม่ใช้แซ่ของแม่หรือไม่ก็ของพ่อนั่นเอง ดังนั้น ร่างข้อบังคับใหม่จึงกำหนดให้เด็กเกิดใหม่สามารถนำแซ่ของพ่อกับแม่มารวมกันได้ ซึ่งน่าจะทำให้เกิดแซ่ใหม่เพิ่มขึ้นถึง 1 ล้าน 2 แสน 8 หมื่นแซ่ทีเดียว อย่างเช่น ถ้าพ่อแซ่ โจว แม่แซ่ จู ลูกอาจเลือกใช้แซ่ตามพ่อหรือแม่ หรืออาจใช้นำแซ่ของพ่อแม่มารวมกันเป็น โจวจู หรือจูโจว ก็ได้ ซึ่งอันที่จริงเรื่องนี้ก็เป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่อยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้รับการรับรองให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

 

 

 

คุณภาพชีวิต

 

 

ก.แรงงาน เร่งขจัดปัญหาการจ้างแรงงานเด็กที่ผิดก.ม.

กรมประชาสัมพันธ์ - กระทรวงแรงงานร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) จัดงานวันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านแรงงานเด็กและขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายให้หมดภายในปี พ.ศ.2559

 

นายอภัย จันทนจุลกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ดูและแก้ปัญหาการใช้แรงงานเด็กมาตลอด อาทิ การทารุณ โดยมีกฎหมายคุ้มครองแรงงาน อนุสัญญาว่าด้วยแรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ฉบับที่ 182 และ 138 ให้ความคุ้มครองไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีทำงาน อายุ 15-18 ปีห้ามทำงานในประเภทเสี่ยงอันตราย นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายป้องกันเด็กจากการค้าประเวณี ร่างกฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์  ขยายการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว แรงงานนอกระบบ รวมทั้งยังตั้งคณะกรรมการระดับชาติแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานตรวจเข้มสถานประกอบการ หากพบการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมายจะสั่งดำเนินคดีกับนายจ้างทันที โดยจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

 

ด้านคุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสภาองค์การพัฒนาเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า ขณะนี้ทางสภาได้รับทุนจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศเพื่อมาศึกษาวิจัยปัญหาการใช้แรงงานเด็ก โดยตั้งเป้าแก้ปัญหาในแถบภาคเหนือและตะเข็บชายแดน ได้แก่ จ.เชียงราย ตาก อุดรธานี สมุทรสาคร ปัตตานี และสงขลา ซึ่งเบื้องต้นพบว่าจ.ตากมีการใช้แรงงานเด็กมากกว่า 5,000 คน จ.สมุทรสาครกว่า 20,000 คน

 

อย่างไรก็ตาม จากสถิติขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ระบุว่า มีเด็ก 300,000 คน อายุระหว่าง 15-17 ปี ทำงานในสถานประกอบการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ร้อยละ 60 เป็นชาย ร้อยละ 40 เป็นหญิง ซึ่งในจำนวนนี้มีร้อยละ 76 ทำงานนอกภาคเกษตร และร้อยละ 24 หรือ จำนวน 80,000 คนทำงานในภาคเกษตร