ใบหน้าใต้ผ้าคลุม

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

 

 

 


ภาพโดย: ปิยศักดิ์ อู่ทรัพย์, สำนักข่าวชาวบ้าน


 

ในปี 2537 กองทัพซาปาติสตา แห่งป่าเชียปาส, เม็กซิโก ลุกขึ้นมาต่อต้านการทำสัญญาเขตการค้าเสรีในอเมริกาเหรือ หรือ NAFTA ของรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่า ข้อตกลงในสัญญาต่างๆ จะยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยฉีกห่างออกไปอีกหลายเท่าตัว พวกเขาจึงออกมาร่วมกันต่อต้านการรุกรานของทุนนิยมและเสรีนิยมใหม่ ในพื้นที่ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง

 

ครั้งนั้น แนวร่วมซาปาติสตา ใช้ผ้าและหน้ากากสกีปกปิดใบหน้า เป็นสัญลักษณ์ให้คนจำนวนมากรับรู้ว่า ในเมื่อฝ่ายรัฐไม่เคยเห็นว่าคนชายขอบในป่าเชียปาสมีตัวตน ดังนั้น ความมีตัวตนของคนที่ออกมาต่อสู้จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องสนใจ แต่กลายเป็นว่า การปิดบังใบหน้า สามารถเรียกร้องความสนใจได้มากมายจริงๆ

 

นับแต่นั้นเป็นต้นมา การต่อสู้ของขบวนการภาคประชาชนสมัยใหม่นามว่า "ซาปาติสตา" ก็กลายเป็นที่กล่าวขวัญในหมู่นักเคลื่อนไหวทั่วโลก…

 

วันที่ 31 พ.ค. - 4 มิ.ย.2550 กลุ่มผู้ชุมนุมหลายพันคน รวมตัวกันที่มัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานี เพื่อเรียกร้อง "ความเป็นธรรม" และขอให้ทหารถอนกำลังจากพื้นที่ชายแดนใต้ รวมถึงการสืบหาข้อเท็จจริง ในกรณีที่มีข่าวว่าพี่น้องชาวมุสลิมถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำร้ายและล่วงละเมิดทางเพศ

 

ผู้ชุมนุมประกาศตัวว่าเป็น "เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน" แต่พวกเขาปิดบังใบหน้าด้วยผ้าคลุม ทำให้ถูกมองว่านี่อาจเป็น "การแอบอ้าง" จากผู้ไม่ประสงค์ดี และเป็น "ความไม่จริงใจ" อย่างหนึ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ เมื่อมีการส่งตัวแทนออกมาเจรจากับเจ้าหน้าที่รัฐ "ตูแวดานียา ตูแวมือแง" จึงต้องถอดผ้าคลุมใบหน้าออกเสียก่อน เพื่อพิสูจน์ "ความบริสุทธิ์ใจ" ของเขา

 

ในเวลาไล่เลี่ยกัน "กลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก" อันเกิดจากการรวมตัวของนักศึกษาส่วนหนึ่งจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้บุกเข้าไปที่หน้าศาลอย่างเปิดเผย (และได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเต็มไปหมด) จึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่กลุ่มผู้ชุมนุม ณ มัสยิดกลาง ซึ่งปิดบังใบหน้าของตนจะถูกมองว่า "ไม่แน่จริง"

 

การปกปิดใบหน้า ต่างเวลา-ต่างสถานที่ จึงได้ผลแตกต่างอย่างสิ้นเชิง...

 

ในขณะที่ซาปาติสตาซ่อนใบหน้าของตัวเองภายใต้สิ่งปกคลุม ไม่เคยมีใครตั้งคำถามด้วยความสงสัยใน "เจตนา" ที่พวกเขาออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าผู้คนที่รับรู้การดำรงอยู่ของซาปาติสตา ได้มองไปยังความเป็นจริงที่ว่า-พวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาลเม็กซิโก รวมถึงประเด็นที่ซาปาติสตาต้องการสื่อสารกับโลกภายนอกนั้นก็ชัดเจนและมีน้ำหนักเพียงพอ...

 

แต่ก่อนที่ใครจะตั้งคำถามและก่นประณามผู้ปิดบังใบหน้าในการชุมนุมที่จังหวัดปัตตานีว่าเป็น "พวกอื่น" ซึ่งไม่หวังดีต่อความมั่นคงของชาติ และเป็นผู้ปราศจากสิ่งที่เรียกว่า "ความบริสุทธิ์ใจ" ทางที่ดีเราควรตามรอยไปดูสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตกันสักหน่อย…

 

ตูแวดานียา ตูแวมือแง

 

11 ธ.ค.2518 กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า "ศูนย์พิทักษ์ประชาชน" ซึ่งประกอบด้วยชาวมุสลิมจากหลายพื้นที่ในจังหวัดชายแดนใต้ เดินทางมารวมตัวกันที่ศาลากลาง จังหวัดปัตตานี เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในกรณีที่ชาวบ้าน 6 คนจากอำเภอสายบุรีถูกเจ้าหน้าที่หน่วยนาวิกโยธินจับไปสอบสวนและฆ่าทิ้ง แต่เด็กชายคนหนึ่งรอดชีวิตมาได้ ชาวบ้านที่ช่วยเหลือเขาเอาไว้จึงได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด...หากเมื่อนำความไปบอกตำรวจ ก็ได้รับเพียงความเพิกเฉยตอบกลับมา

 

ผลพวงจากการกระทำรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐและความเพิกเฉยของข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ทำให้ความรู้สึกว่าชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรมยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณ และกลายเป็นข่าวลือแบบปากต่อปาก จากบ้านหนึ่งไปสู่บ้านหนึ่ง จนถึงที่สุด "พี่น้องมุสลิม" ก็ออกมารวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยในขณะนั้น ถอนทหารนาวิกโยธินออกไป และต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

 

การชุมนุมครั้งนั้นกินเวลายืดเยื้อยาวนานกว่า 45 วัน ซึ่งเหตุการณ์สุกงอมโดยผู้ไม่ประสงค์ดีได้โยนระเบิดไปหน้าเวที และมีคนยิงปืนเอ็ม 16 กราดเข้าใส่ผู้ชุมนุมจนเสียชีวิตไปหลายราย...

 

ผลก็คือในเวลาต่อมา ประชาชนจำนวนมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว มาร่วมชุมนุมกันที่มัสยิดกลางปัตตานี เพื่อทำพิธีแห่ศพผู้เสียชีวิต และแสดงให้เห็นว่า ความไม่เป็นธรรมที่พวกเขาได้รับมาตลอดนั้น-มันมากมายเกินกว่าจะยอมกันได้อีกต่อไป ก่อนจะตั้งข้อเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจสั่งย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้นออกไปจากพื้นที่...

 

แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดอยู่ดีว่าใครเป็นคนทำร้ายชาวบ้านที่มาชุมนุมกันโดยปราศจากอาวุธในครั้งนั้น...และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นอีกบทหนึ่งของประวัติศาสตร์ด้านมืดระหว่างรัฐไทยกับประชาชนเชื้อสายมลายู…

 

ในเวลาต่อมา มีข่าวคราวที่บางเบากว่าสายลม และถูกพูดถึงในหมู่ชาวมลายูมุสลิมในจังหวัดชายแดนใต้ก็คือว่า...แกนนำที่รอดมาจากการชุมนุมครั้งนั้น ถูกตามล่าจนหายหน้าหายตาไปทีละคนสองคน ...

 

แต่ก็เช่นเคย...

 

เรื่องเหล่านี้ไม่เคยได้รับการชำระความให้กระจ่างแต่อย่างใด...

 

000

 

จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายสิบปี ข่าวคราวว่าพี่น้องมุสลิมได้รับการกดขี่และทารุณจากเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย การรวมตัวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมของคนจำนวนมากจึงเกิดขึ้นในชื่อใหม่ว่า "เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน" ซึ่งพวกเขาได้เตรียมการมาสักพักใหญ่ ก่อนที่เหตุการณ์สังหารหมู่ที่บ้านบาสาลาแป อ.ยะหา จ.ยะลา จะช่วยจุดกระแสความรุนแรงให้ผู้คนอีกมากมายมารวมตัวกับเครือข่ายในครั้งนี้

 

ถึงกระนั้นก็ตามที ปฏิกิริยาของผู้คนจำนวนหนึ่งซึ่งมีต่อการชุมนุมที่ปกคลุมใบหน้า ยังคงดำเนินไปในทางไม่เชื่อถือและหมิ่นแคลน

 

ในขณะที่ห้วงเวลาปัจจุบัน ความรุนแรงเกิดขึ้นทุกวันจากกลุ่มคนที่ไม่เคยประกาศตัวตนชัดๆ สักที ทุกวันนี้ เราไม่เคยรู้ว่าคนที่ทำร้ายทั้งไทยพุทธ มุสลิม และเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นใคร...ในเมื่อสัดส่วนของผู้ที่เสียชีวิตในจังหวัดชายแดนใต้ เป็นคนทั้ง 3 กลุ่ม ในจำนวนที่ไม่มากหรือน้อยไปกว่ากันนัก...

 

คงไม่ผิดถ้าจะบอกว่าเราต้องอยู่ร่วมกันอย่างหวาดระแวง...

 

แต่อย่างน้อยที่สุด เครือข่ายนักศึกษาฯ ก็ยังประกาศตัวตนและจุดยืนของพวกเขาชัดเจน แทนที่เราจะมองไปที่ "ประเด็น" ซึ่งพวกเขาไถ่ถาม เรากลับเรียกร้องต้องการแค่ "ใบหน้าที่แท้" ซึ่งซ่อนอยู่หลังผ้าคลุม

 

แล้วใครจะกล้ารับประกันกับพวกเขาได้ว่า คนที่ถอดผ้าคลุมหน้าออกมาเจรจากับคนที่มีอำนาจและมีปืนอยู่ในมือ จะไม่หายตัวไปเฉยๆ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว?

 

ภาพบรรยากาศการชุมนุม ณ มัสยิดกลาง จ.ปัตตานี วันที่ 31 พ.ค.-4 มิ.ย.2550

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท