Skip to main content
sharethis






การเมือง


สนธินัดหลวงปู่ฤาษีแก้ดวงเมืองเคยฟันธง"บิ๊กบัง"จะเป็นนายกฯแทน"สุรยุทธ์"


ผู้จัดการรายวัน - หลังจากที่ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และรองประธาน คมช.และพล.อ. วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการ คมช. ได้ขึ้นไปพบกับอาจารย์ วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต ที่มีองค์เทพหลวงปู่ฤาษีเทวารัณ จากเทือกเขาหิมาลัย เป็นองค์ประทับ เพื่อแก้ดวงเมือง เมื่อช่วงก่อนวันสงกรานต์ที่ผ่านมา เพราะในขณะนั้นบ้านเมืองเผชิญกับภาวะวิกฤต และใกล้เหตุการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดียุบพรรค ซึ่งอาจารย์วารินทร์ ได้ทักว่าหลังคำตัดสินบ้านเมืองจะเกิดความวุ่นวาย ปัญหาม็อบและผู้ที่เสียผลประโยชน์จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย


 


อาจารย์วารินทร์ ยังได้ทำนายว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำประเทศ ภายในเดือนสองเดือนนี้ ที่สำคัญ ดวงประเทศไทยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวนายกรัฐมนตรี มาเป็น พล.อ.สนธิ ซึ่งแม้พล.อ.สนธิ ไม่อยากจะเข้านั่งในตำแหน่งดังกล่าวก็ตาม


 


แกนนำพีทีวีระดมอดีตส.ส.ไทยรักไทย-ปชช.ในพท.ร่วมชุมนุม


สำนักข่าวเนชั่น -   กลุ่มพีทีวี แถลงในนามแนวร่วมฯ นายจตุพร พรหมพันธ์ กล่าวว่า 2 วันที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ร่วมชุมนุม ได้ท่อน้ำเลี้ยงเดียวกับพวกป่วนใต้ จึงขอเรียกร้องให้พล.อ.สนธิ เอาหลักฐานมาแสดง หากนำหลักฐานมาไม่ได้ ก็ขอให้ออกมาขอโทษ


 


นายจตุพรกล่าวอีกว่า ในวันนี้มีอดีต ส.ส.ไทยรักไทย จำนวนมาก มาร่วมกับกลุ่มแนวร่วมฯ กลุ่มจึงเชิญชวนให้ อดีต ส.ส.ไทยรักไทย พาประชาชนในเขตเลือกตั้งมาร่วมชุมนุม หากชุมนุมในจังหวัดได้ ก็ให้ชุมนุมในจังหวัด แต่หากจัดไม่ได้ ก็ให้มาร่วมชุมนุมที่ กทม.


 


นายจตุพร กล่าวว่า ยืนยันว่าจะเคลื่อนขบวนไปยังหน้า กองทัพบก ในเร็วๆนี้ แต่ก่อนไปจะแจ้งให้ทุกคนได้รับทราบ ร่วมถึงประสานกับตำรวจ เพื่อให้ช่วยรักษาความปลอดภัยด้วย


 


กิจกรรมภาคกลางวันจะเดินทางไปยืนหนังสือตามหน่วยงานต่างๆ ที่มีปัญหากับทางกลุ่ม เช่น กระทรวงไอซีที ที่ปิดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง หรือสมาคมวิทยุโทรทัศน์ ในกรณีที่สั่งไม่ให้ฟรีทีวี มาทำข่าวการชุมนุม ร่วมไปถึงพรรคชาติไทย ที่มักจะกล่าวหากลุ่มผู้ชุมนุม โดยการเดินทางไปยื่นหนังสือ จะเดินทางไปเป็นกลุ่มเล็กๆ และไปอย่างเรียบร้อย


 


"จักรภพ"เหิมท้าทายตุลาการ รธน. - อ้าง"ไม่ทรงโปรด"


ผู้จัดการออนไลน์ - นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถลงว่า จะเดินหน้าท้าทายตุลาการรัฐธรรมนูญต่อไป โดยให้ความรู้ประชาชนว่าตุลาการรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ศาล และไม่มีสิทธิ์ที่จะข่มขู่คนที่มีความเห็นแย้ง เพราะในเมื่อไม่ใช่ศาลแล้ว คนที่วิจารณ์จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นศาล


       


นายจักรภพ ยังกล่าวอีกว่า ตุลาการชุดนี้ไม่เคยเข้าเฝ้า เพราะไม่โปรดให้เข้าเฝ้า ในวันที่ตุลาการศาลปกครองได้เข้าเฝ้านั้น ทราบมาว่า มีความต้องการให้ตุลาการรัฐธรรมนูญเข้าเฝ้าเพื่อรับฟังคำชี้แนะด้วย แต่ท่านก็ไม่โปรด จึงเปลี่ยนให้เป็นตุลาการศาลปกครองแทน


       


นายจักรภพ ยังท้าทายอีกว่า ตุลาการรัฐธรรมนูญไม่ต้องมาขู่เรื่องโทษ 7 ปี เพราะตุลาการฯ ไม่ใช่ศาล เราไม่กลัว หากท่านยังกระทำ ก็ถือเป็นการเร่งให้เกิดสงครามระหว่างขุนนาง กับประชาชน


 


"สนธิ" เลี่ยงเผชิญหน้านักข่าว หลบกระแสนิรโทษกรรม


ผู้จัดการออนไลน์ - วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่หอประชุมกองทัพบก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช.ได้พยายามเสนอแนวคิดออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และถูกต่อต้านอย่างหนักจาก สนช. รวมถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่ไม่สนับสนุนแนวความคิดดังกล่าว โดยนับตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ ได้เลี่ยงการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังปรากฏว่า ได้มีการเพิ่มทหารรักษาความปลอดภัยประจำตัวมากขึ้น จนเป็นที่ผิดสังเกต และหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์แบบเผชิญหน้ากับผู้สื่อข่าวในเรื่องการเมืองแต่อย่างใด


         


แต่ พล.อ.สนธิ ได้ให้สัมภาษณ์กรณีอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ภายใต้ชื่อ "กลุ่มคนรักทักษิณ ไม่เอาเผด็จการ" ประกาศเข้าร่วมชุมนุมต่อต้าน คมช.ร่วมกับกลุ่มพีทีวี ว่า ต้องพิจารณากันในภาพรวม เรายังไม่สามารถชี้ชัดไปได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูจากสถานการณ์ในขณะนี้คิดว่าจะมีการเลือกตั้งตามที่กำหนดไว้หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า มี ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน


 


มองลอดแว่น "ลิขิต ธีรเวคิน" 3 ขั้วการเมืองกับ 1 รัฐบาลแห่งชาติ


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ -  ศ.ดร.ลิขิต ธีรเวคิน ราชบัณฑิตสาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ยอมรับว่า อนาคตการเมืองไทยนับจากนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นนองเลือดได้ โดยมีเหตุปัจจัยอยู่ 2 ประการคือ


1.การชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐประหารที่อาจบานปลายถึงขั้นจลาจล กระทั่งทหารนำกำลังออกปราบปราม และนำไปสู่การปฏิวัติซ้ำ


 2.ร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำในชั้นสภาร่างรัฐธรมนูญ หรือไม่ผ่านประชามติจากประชาชน


       


ราชบัณฑิตด้านรัฐศาสตร์ ยังมองสภาพภูมิศาสตร์ทางการเมืองไทย หรือ Political Landscape ว่า พรรคการเมืองที่มีศักยภาพสูงสุดในห้วงเวลานี้คือพรรคประชาธิปัตย์ รองลงมาคือพรรคชาติไทย ซึ่งทั้งสองพรรคมีแนวโน้มจับมือกัน รวมถึงพรรคมหาชนในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม เพื่อสร้างขั้วการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง แต่จะเป็นรัฐบาลได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งจากประชาชน


 


ขณะที่อีกด้านหนึ่ง เป็นขั้วของพรรคการเมืองขนาดเล็ก อาทิเช่น พรรคประชาราช พรรคกิจสังคม และพรรคพลังแผ่นดินไท กับกลุ่มอดีต ส.ส.ไทยรักไทยที่เตรียมตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม 111 กรรมการบริหารพรรค หรือกลุ่มมัชฌิมา หากในกลุ่มพรรคเล็กกับกลุ่มอดีต ส.ส.ไทยรักไทย รวมตัวกันติด ก็จะกลายเป็นขั้วการเมืองตรงกันข้ามกับขั้วแรกที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ


 


อย่างไรก็ดี ศ.ดร.ลิขิต ชี้ว่า จนถึงขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าการเมืองหลังสิ้นสุดคดียุบพรรคจะมีเพียง 2 ขั้ว เพราะยังมีความพยายามตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาอีก 1-2 พรรค


      


"ผมคิดว่าพรรคการเมืองใหม่มีโอกาสเกิดอีกอย่างน้อยๆ 1-2 พรรค และมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นพรรคของทหารด้วย ผมเชื่อว่า พล.อ.สนธิ เอง (พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ) ก็กำลังชั่งใจอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร คงต้องบอกว่าการเมืองไทยนับจากนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น" ราชบัณฑิตสาขารัฐศาสตร์ฯ ให้ข้อมูล


 


ทั้งนี้ เขายอมรับว่า ในฐานะที่ใกล้ชิดกับ พล.อ.ชวลิต ก็ได้หารือกับอดีตนายกฯในปัญหาต่างๆ เหล่านี้ และพบว่า พล.อ.ชวลิต มีความเป็นห่วงบ้านเมืองใน 4 เรื่องหลักๆ คือ 1.ความสมานฉันท์ของคนในบ้านเมือง 2.ปัญหาภาคใต้ 3.ปัญหาความยากจน และ 4.ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาต่างชาติ


 


"ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดว่าบ้านเราควรจะมีรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมาแก้ปัญหาในยามวิกฤติก่อน โดยพรรคการเมืองต่างๆ มารวมตัวกัน และตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมา ผมเองสนับสนุนแนวความคิดนี้ ถือว่าเป็นภารกิจที่ต้องทำ เพื่อไม่ให้ลูกหลานในอนาคตด่าเราได้ว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลย"


 


นายกฯสั่งใช้ไม้นวมม็อบ นครบาลจับผิดคำปราศรัย


คมชัดลึก -  ตั้งแต่เช้า วันที่ 7 มิถุนายน ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ได้เข้าหารือกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี โดยมี พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมหารือด้วย เพื่อสรุปสถานการณ์การชุมนุมต่าง ๆ และมาตรการรับมือ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที พล.อ.สุรยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เรื่องหลักที่ตนให้ข้อคิดเห็นว่า การแก้ไขปัญหาการชุมนุมประท้วงของกลุ่มต่าง ๆ ควรจะแก้ไขปัญหาด้วยความนิ่มนวล โดยสันติวิธี ด้วยการพูดจากัน



ส่วน พล.ต.ต.จุติ ธรรมมโนวานิช รอง ผบช.น. ได้ออกคำสั่ง บช.น.ที่ 202/2550 แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณา วิเคราะห์ถ้อยคำการปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองได้ทำการชุมนุม และกล่าวคำปราศรัยโจมตีพาดพิงถึงบุคคลอื่นในเรื่องต่างๆ ซึ่งเนื้อหาของคำปราศรัยบางตอนมีการกระทบสิทธิของผู้อื่นทำให้ได้รับความเสียหายอันอาจเป็นความผิดตามกฎหมาย และก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีของคนในชาติ อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพื่อให้การวิเคราะห์ถ้อยคำปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ เกิดความชัดเจน และมีหลักฐานครบถ้วนว่ามีถ้อยคำหรือเนื้อความใดบ้างที่กระทบสิทธิของผู้ถูกกล่าวพาดพิง อันอาจเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา ไม่ว่าจะเป็นความผิดในเรื่องส่วนตัวหรือไม่ก็ตาม


 


"สนธิ" ไม่หวั่นม็อบค้าน-ชูธงเลือกตั้งปลายปี50


เดลินิวส์ - วันที่ 7 มิ.ย. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ยืนยันว่า จะมีการเลือกตั้งในปลายนี้อย่างแน่นอน ถึงแม้สถานการณ์ของบ้านเมืองยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ เพราะการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการที่ท้องสนามหลวง ซึ่งล่าสุดคืนที่ผ่านมา มีบรรดาอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ในนามกลุ่ม "คนรักทักษิณไม่เอาเผด็จการ" ได้เข้าร่วมชุมนุมและกล่าวปราศรัยโจมตี คมช.ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอดีต ส.ส.เหล่านี้ว่ามีใครบ้าง



อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศที่จะเคลื่อนการชุมนุมมายังหน้ากองบัญชาการกองทัพบก เพื่อวัดพลังมวลชนของทั้ง 2 ฝ่าย และจะชุมนุมใหญ่เพื่อประกาศจุดแตกหักในวันที่ 24 มิถุนายนนี้



"สุดารัตน์"โร่ขึ้นโรงพักแจ้งถูกชายลึกลับขี่จยย.ตามสะกดรอย


สำนักข่าวเนชั่น - "สุดารัตน์"โร่ขึ้นโรงพักถูกชายลึกลับขี่จยย.ตามสะกดรอย ฉุนตำรวจสกัดจับชายลึกลับได้แล้วแต่กลับปล่อยตัวไป เผยเคยถูกทหาร ขับเก๋งติดตามหลายครั้ง แถมเฝ้าดูพฤติกรรมหน้าบ้าน เฝ้าหน้าโรงเรียนลูก และโทรข่มขู่เอาชีวิต แต่ตำรวจทำอะไรไม่ได้ตรวจสอบแล้วปล่อยตัว สุดทนวอน"เสรีพิศุทธ์"ช่วยเมตตาคุ้มครอง เตรียมเข้าพบร้องทุกข์พรุ่งนี้ ระบุหากเป็นฝีมือ คปค.ให้มาแจ้งโดยตรงว่าผิดอะไร


 


อุทัยประกาศไม่ลงส.ส.อีกแล้วโวยร่างรธน.ทำการเมืองอ่อนแอ


คมชัดลึก - นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เห็นด้วยเขตเดียวคนเดียว เพราะสมเหตุสมผล ดูแลประชาชนได้ทั่วถึง และบัญชีรายชื่อจำเป็นต้องมี เลือกตั้งครั้งต่อไปประกาศเลยว่าจะไม่ลงเลือกตั้งแน่นอน แต่มาแสดงความเห็นเพราะไม่อยากให้การเมืองอ่อนแอ หากพูดอะไรต่อไปนี้จึงไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่รู้ว่า ส.ส.ร.ครั้งนี้ร่าง รธน. โดยอยู่บนพื้นฐานของอะไร


 


หวงกม.ขายชาติขิงแก่ขวางสนช.แก้'พ.ร.บ.ทุนฯ'


ไทยโพสต์ -  ที่รัฐสภา วันที่  7 มิถุนายน 2550 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ  ที่นายโสภณ สุภาพงษ์ สมาชิก สนช.และคณะเป็นผู้เสนอ


 


ทั้งนี้ นายฉลองภพ  สุสังกร์กาญจน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ขอรับไปพิจารณาก่อนรับหลักการ  โดยให้เหตุผลว่าการยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ มีความจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับ  ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลกระทบต่อรัฐวิสาหกิจที่ถูกแปรรูปแล้ว และจะเกิดความไม่แน่นอนในการแปรรูปต่อไป รวมถึงความไม่แน่นอนของสิทธิประโยชน์ผู้ถือหุ้น จึงควรมีมาตรการรองรับไม่ให้เกิดความเสียหาย


        


 นายฉลองภพกล่าวว่า  ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ยกร่าง พ.ร.บ.กำกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ภายหลังจากยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจแล้ว   โดยยึดหลักคัดเลือกรัฐวิสาหกิจใดก็ตามเข้าสู่การแปรรูปและขบวนการแปรรูป ต้องคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะเพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วม และกำหนดหลักเกณฑ์การกระจายหุ้นให้เกิดความเป็นธรรม   ซึ่ง พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจปี  2542  ไม่มีสิ่งเหล่านี้ โดยร่างของรัฐบาลอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไข    ก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 60  วัน  จึงขอให้ สนช.เลื่อนการพิจารณากฎหมายดังกล่าว  ทั้งนี้ หากรัฐบาลเสนอร่างกฎหมายไม่ทันเวลา สนช.สามารถพิจารณาได้ทันที


 


กมธ.ยกร่างฯสรุปส.ส.400คน อดีตส.ว.ได้ลงสมัคร-เกย์เศร้า


คมชัดลึก - กมธ.ยกร่างฯ เคาะเลือก ส.ส.400 คน "เขตเดียวเบอร์เดียว" 320 เขต ระบบสัดส่วน 80 คน 8 กลุ่มจังหวัด โละทิ้ง 5 เปอร์เซนต์ เอาใจพรรคเล็ก เปิดทางผู้หญิงเล่นการเมือง ผู้พิพากษาอาวุโสอยู่ได้ถึงอายุ 70 คงศาลฎีกา-ปกครอง เป็นกก.สรรหาองค์กรอิสระ ตัดบำเหน็จบำนาญส.ส.-ส.ว.



ช่วงท้ายการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นประธาน ได้พิจารณาประเด็นต่างๆ ที่กมธ.เสนอเพื่อปรับร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีการโหวตทุกประเด็น เริ่มจากประเด็นของนายพิสิฐ ลี้อาธรรม กมธ. ที่เสนอให้ประธานวุฒิสภาอยู่ในตำแหน่งเพียง 3 ปีเท่านั้น เมื่อพ้น 3 ปีต้องเปลี่ยนให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน ผลปรากฎว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย 16 ต่อ 7 เสียง



ขณะที่ น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ เสนอให้เพิ่มเติมคำว่า "เพศสภาพ" ใน ม.30 แต่เสียงไม่เห็นด้วยถึง 12 ขณะที่ที่เห็นด้วยมี 3 เสียง



นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาบทเฉพาะกาล ให้กรรมการองค์กรอิสระที่ดำรงตำแหน่งก่อนรัฐธรรมนูญ ปี 50 ประกาศใช้ ให้ดำรงตำแหน่งเพียงครึ่งวาระ และสามารถสมัครเข้ามาดำรงตำแหน่งได้อีกสมัย โดยที่ประชุมได้ลงมติออกมาเสมอกัน และน.ต.ประสงค์ ใช้อำนาจประธาน ตัดสินให้กรรมการองค์กรอิสระ ที่ดำรงตำแหน่งก่อนรัฐธรรมนูญปี 50 ประกาศใช้อยู่ได้ครึ่งวาระ



'บุญรอด' ย้ำม็อบสนามหลวงไม่ได้มาด้วยอุดมการณ์


ไอ.เอ็น.เอ็น. - พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ออกมาระบุว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพีทีวีได้รับการว่าจ้างให้มาร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวงหัวละ 500 บาท ว่า ตนเคยพูดไปแล้วว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง คนที่มาไม่ได้มาด้วยอุดมการณ์ ถ้าสังเกตให้ดีคนที่มาชุมนุมจะมานั่งพูดคุย ไม่ได้สนใจเนื้อหาการปราศรัยบนเวที ถูกเกณฑ์มา ไม่ได้มาเองด้วยอุดมการณ์ ทั้งนี้การตรวจสอบหรือตัดเส้นทางการเงินทำได้ยาก เพราะเขาทำกันอย่างแนบเนียน ไม่รู้ว่าจ่ายเงินกันอย่างไร ไม่มีหลักฐานชัดเจน ถ้าใครรู้ช่วยเอาข้อมูลมาบอกด้วย เราเข้าไปในกลุ่มพวกเขาแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้เพราะเขารู้เขามีหัวนำมาอย่างไรก็ตาม คาดว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะการเมืองยังไม่นิ่ง แต่จะไม่มีเหตุรุนแรงเพราะ พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) รับปากว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ สำหรับรัฐบาลคงไม่ปล่อยให้จ้างคนมามากขึ้น คงจะเรียกแกนนำบางส่วนมาเจรจาให้ร่วมกันสมานฉันท์


 


 






เศรษฐกิจ


ไทยหนุนลดภาษีสินค้าพิเศษในกรอบ WTO


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายธวัชชัย โสภาเสถียรพงศ์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก(WTO) เปิดเผย ความคืบหน้าการเจรจาเปิดเสรีสินค้าเกษตรโดยเฉพาะสินค้าพิเศษภายใต้กรอบการเจรจาเปิดเสรีรอบ โดฮาว่า ประธานกลุ่มเจรจาเปิดเสรีสินค้าเกษตรจากนิวซีแลนด์เสนอว่าสินค้าพิเศษแม้จะได้รับการยืดหยุ่นในการเปิดตลาดน้อยกว่าสินค้าเกษตรอื่นๆ แต่อย่างน้อยควรจะต้องลดภาษีขั้นต่ำลงร้อยละ 10-20     ขณะเดียวกัน สินค้าพิเศษในกลุ่มดังกล่าวต้องมีจำนวนไม่เกินร้อยละ  5-8  ของสินค้าเกษตรทั้งหมดและเพื่อความโปร่งใส ประเทศที่ต้องการกำหนดรายการสินค้าพิเศษจะต้องมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือและพิสูจน์ได้ว่าสินค้านั้นมีความสำคัญในแง่ความมั่นคงด้านอาหาร ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และการพัฒนาชนบท


 


นายธวัชชัย กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านอย่างมากจากกลุ่ม G33 ซึ่งประกอบด้วยประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นผู้ค้าสินค้าเกษตรกว่า 40 ประเทศ นำโดยอินโดนีเซียและอินเดีย ที่ต้องการให้สินค้าพิเศษได้รับการยกเว้นไม่ต้องลดภาษีทุกรายการ และไม่ต้องเปิดตลาด  ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนารายอื่นที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตร เช่น ไทย อาร์เจนตินา อุรุกวัย รวมถึงสหรัฐ และสหภาพยุโรป (EU) ต่างสนับสนุนข้อเสนอนี้ เพราะเป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตรบางรายการที่มีแนวโน้มว่าอาจถูกจัดให้เป็นสินค้าพิเศษ เช่น ข้าว, น้ำตาล, เนื้อสัตว์ ซึ่งการลดภาษีจะทำให้ไทยส่งออกสินค้าเกษตรดังกล่าวเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้มากกว่าการไม่ลดภาษี เพราะบางประเทศเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูง


 


ก.พาณิชย์ ยังไม่ปรับเป้าส่งออก มั่นใจธุรกิจความงาม-สปา ดึงเงินเข้าประเทศ


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - เป้าหมายการส่งออกในปี 2550 นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ยังไม่มีการปรับเป้าหมายอัตราการขยายตัวการส่งออกในปี 2550 ที่ตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 12.5 คิดเป็นมูลค่าการส่งออก รวม 145,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่การส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 18.3 มีมูลค่ารวม 45,698.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะขอดูตัวเลขการส่งออก 6 เดือนแรกของปีนี้ก่อน หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าจะมีการปรับเป้าหมายหรือไม่


 






ความมั่นคง


กอ.รมน. ยังไม่พบการระดมพลจากหลายจังหวัด เข้ามาชุมนุมในกรุงเทพมหานคร


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - หลังการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. วาระพิเศษ พันเอกธนาธิป สว่างแสง โฆษกกอ.รมน. เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เพื่อรับทราบการดำเนินงานของกอ.รมน. และสถานการณ์ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งในส่วนของการชุมนนุมนพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายหลังมีการจัดตั้งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ที่อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทยออกมาประกาศจะร่วมชุมนุมด้วยนั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีการจัดตั้งมวลชนเข้ามาเคลื่อนไหวชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครแต่อย่างใด จึงยังไม่จำเป็นต้องจับตาการเคลื่อนไหวของอดีตส.ส.พรรคไทยรักไทยเป็นพิเศษ


 


อย่างไรก็ตาม พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผอ.รมน. ได้กำชับให้ดูแลการชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนด โดยไม่ให้มีการเคลื่อนยายออกนอกพื้นที่ และไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม


 


ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีรายงานจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงการประเมินรูปแบบการชุมนุมในพื้นที่ภาคใต้ว่า ขณะนี้มีรูปแบบที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะมีการนำกลุ่มนักศึกษาทั้งจากกรุงเทพมหานครและจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาร่วมชุมนุมด้วย โดยประเมินว่าเป็นการทดสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เพื่อที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะได้นำไปพัฒนาการชุมนุมของตัวเอง


 


 


สั่งกอ.รมน.กล่อมชาวบ้านผ่านรธน.


ไทยโพสต์ -  พ.อ.ธนาธิป   สว่างแสง  โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน  (กอ.รมน.) แถลงผลการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน  ว่ากรอบงานของ กอ.รมน.ในการดำเนินงานที่จะให้เกิดผลอย่างสูงสุด   คือต้องการให้มีการเลือกตั้งที่สมบูรณ์ รวมทั้งให้มีการรับร่างรัฐธรรมนูญ  เพื่อทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกับเข้าสู่ความสงบเรียบร้อย   สร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างชาติ  รวมทั้งเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง วัตถุประสงค์หลักของ กอ.รมน.  คือต้องการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ถึงการร่างรัฐธรรมนูญและการยอมรับ  ทั้งนี้ ผอ.รมน.อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว และย้ำให้นำมวลชนของ กอ.รมน.เข้าพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนมากที่สุด


 






ภาคใต้


 


ล่าเจ้าของอาวุธสงคราม พบ70อินโดฯโผล่ป่วนใต้


ผู้จัดการรายวัน - ตำรวจยะลา-ปัตตานีสนธิกำลังกว่า 100 นายบุกค้นพื้นที่เป้าหมายรอยต่อ 2 จังหวัด ยึดเครื่องกระสุน อาวุธสงคราม อุปกรณ์ประกอบระเบิดหลายรายการ เตรียมขยายผลตามล่าตัวเจ้าของบ้านมาดำเนินคดี สืบพบประวัติเป็นแกนนำและฝึกแนวป่วนใต้ หน่วยข่าวเผยพบความเคลื่อนไหว ชาวอินโดนีเซีย 70 คนเข้าไทยฝังตัวในพื้นที่เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายช่วง 8-15 มิ.ย.นี้ ขณะที่โจรใต้อุกอาจล้อมยิงตำรวจรือเสาะกลางตลาดสดท่ามกลางชาวบ้านที่กำลังจ่ายตลาดนับร้อยคน ขณะเดียวกันวางเพลิงสถานที่ราชการในพื้นที่สายบุรีรวม 5 แห่งทั้งโรงเรียน-สถานีอนามัย ยันรถไฟสายใต้เริ่มเปิดบริการวันนี้ พร้อมเสริมกำลังทหาร ตำรวจดูแลความปลอดภัยเข้มขึ้นอีก


 


กอ.รมน.เพิ่มศักยภาพแก้ปัญหาไฟใต้


สำนักข่าวเนชั่น - พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. ระบุว่า ในการประชุมวาระพิเศษวันนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้ทุกหน่วยมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานอย่างแน่นแฟ้น ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกส่วนสามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที กรณีมีเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมๆ กันหลายจุด พร้อมให้มีการบูรณาการนำเครื่องมือพิเศษเสริมการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น อาทิ เครื่องตรวจค้นวัตถุระเบิด และอาวุธ กระสุน รวมทั้งการนำเครื่องบินตรวจการณ์ติดกล้องมาใช้บินตรวจ พร้อมเพิ่มมาตรการตรวจเส้นทางรถไฟให้เข้มงวดมากขึ้น ทั้งกลางวันและกลางคืน


 


ขณะที่ กอ.รมน. จะขยายโครงการต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้อง สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่เกิดขึ้น เช่น ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว และเน้นให้งานต่างๆ เกิดเป็นรูปธรรม เข้าถึง และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ โดยจะไม่ใช้แนวทางที่รุนแรงในการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมด้วย


 


 "สนธิ" ยันไม่ประกาศเคอร์ฟิวสะบ้าย้อย


เดลินิวส์  - วันที่ 7 มิ.ย.พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ระบุว่า ขณะนี้ไม่มีแนวคิดประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ภายหลังเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ขยายวงกว้างมายังพื้นที่อ.สะบ้าย้อย โดยยืนยันว่า ขณะนี้ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มชาวบ้านที่บริเวณหน้ามัสยิดกลางปัตตานีนั้น ตำรวจทราบข้อมูลดีอยู่แล้ว



พล.อ.สนธิ ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตรวจสอบหาสาเหตุการชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านที่บริเวณกลางหน้ามัสยิดแล้ว







การศึกษา


สุดทนชุดนศ.รัดติ้วเกินเหตุบี้บ.เลิกผลิต


ผู้จัดการรายวัน - รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รมช.ศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) และนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะแกนนำเครือข่ายรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตนักศึกษา 90 สถาบันทั่วประเทศว่า ที่ประชุมได้ข้อตกลงร่วมกันว่าจะรณรงค์เรื่องการแต่งกายของนิสิตนักศึกษาเพื่อให้นักศึกษาใช้วิจารณญาณได้เองว่า การแต่งกายที่ไม่เหมาะสมล่อแหลมเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ และเป็นรสนิยมของคนส่วนน้อย รวมถึงส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้สวมใส่เอง โดยจะเริ่มรณรงค์ตั้งแต่ปีการศึกษานี้และจะรณรงค์เรื่องนี้ให้เป็นกระแสหลักและเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้นิสิตนักศึกษาที่เข้าใหม่ในปีการศึกษาหน้าจะได้แต่งกายได้อย่างเหมาะสม งดงามเหมาะกับความเป็นนักศึกษา


 


"ไม่เพียงแต่ชุดนักศึกษา แต่ยังรวมถึงเครื่องแต่งกายลำลองที่จะสวมใส่เข้ามาในสถานศึกษาทั้งในวันเรียนและวันหยุดด้วย โดยจะประชุมร่วมกันระหว่างศธ. วธ. และรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏ รวมประมาณ 30 แห่ง ในวันที่ 25 มิถุนายน ซึ่งเชื่อว่าจะได้มาตรการในการรณรงค์ร่วมกัน"


 


นายปริญญากล่าวอีกว่า การแต่งกายตามแฟชั่นเป็นสิทธิของนิสิตนักศึกษาที่มีได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตความเหมาะสม ซึ่งในที่ประชุมได้หารือกันว่าน่าจะเชิญบริษัทที่ผลิตเครื่องแบบนิสิตนักศึกษามาขอความร่วมมือว่าควรจะเลิกผลิตนักศึกษาที่มีขนาดเล็ก เช่น กระโปรงสั้นแค่คืบ เสื้อขนาดสามเอส(sss) ขนาดสี่เอส(ssss) เป็นต้น เพราะนอกจากจะดูไม่งามแล้ว ยังเป็นผลเสียต่อสุขภาพด้วย นอกจากนี้ได้พูดคุยกันว่าน่าจะใช้ดาราที่เป็นนิสิตนักศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยต่างๆ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์รณรงค์เรื่องนี้


 


วิจิตรงัดข้อสพฐ.ที่ให้ร.ร.รับเด็กได้เอง10%


สำนักข่าวเนชั่น - ศ.ดร.วิจิตร  ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่การกระทรวง ศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึง กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( สพฐ.) โดยคุณหญิงกษมา  วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะ กรรมการการศึกขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เตรียมเสนอให้นโยบายการรับนักเรียนมัธยม ปี 2551 ให้อำนาจกรรมการรับนักเรียนของสถานศึกษาใช้ดุลนิจรับนักเรียนเพิ่ม ได้ 10 % หรือห้องละ 5 คน ซึ่งอาจเปิดช่องให้โรงเรียนรับ เด็กฝากได้นั้น  ว่า เรื่องดัง กล่าวยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสนอ แต่เป็นเรื่องที่ สพฐ.หารือกันเท่านั้น แต่ หาก สพฐ.จะเสนอมาก็สามารถทำได้ ก็ไม่ได้ตำหนิเพราะเป็นเสรีภาพด้านความ คิด


         


แต่เมื่อถึงขั้นตัดสินใจตนคงจะต้องนำข้อเสนอดังกล่าวมาศึกษาดูว่า มาตรการดังกล่าวจะมีผลกระทบหรือไม่ จะก่อให้เกิดการรับเงินและทำให้มีเด็กฝาก เด็กเส้นจากนักการเมืองหรือไม่ อีกทั้งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อโอกาสทาง ด้านการศึกษาของประชาชนมากน้อยแค่ไหน


 


เรื่องโควตาผู้มีอุปการคุณ 10% ตนยังไม่ ตอบรับ และจะต้องมีการทบทวนเรื่องนี้อย่างรอบคอบ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานใน การตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยกับเรื่องให้สิทธิกับผู้ มีอุปการคุณ เพราะอาจทำให้เป็นช่องทางให้มีเด็กฝากมากขึ้นเหมือนในอดีตที่มี นักการเมืองฝากกันจำนวนมาก ซึ่งการกระทำดังกล่าวเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใคร อุปการะใครกันแน่


 






คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม


กรรมกรเฮปรับค่าจ้าง7บ.


ผู้จัดการรายวัน -  นายอภัย จันทนจุลกะ รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำให้กับผู้ใช้แรงงานเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ภาย หลัง ครม.เห็นชอบให้ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 4% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป ว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่กระทรวงแรงงานจะมีการประกาศในแต่ละปีและปีนี้ก็ได้เร่งรัดให้มีการประชุมเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการค่าจ้างกลางชุดใหม่แทนที่ชุดเดิมที่ หมดวาระไปให้เข้าพิจารณาตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำที่คณะอนุกรรมการจังหวัดทยอยส่ง ตัวเลขเข้ามาให้ทันประกาศใช้ควบคู่ไปกับการปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการภายในเดือน ต.ค.นี้


 


นายประเทือง แสงสังข์ อดีตคณะกรรมการค่าจ้างกลาง กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลประกาศขึ้นเงินเดือนข้าราชการทำให้สินค้าหลายรายการจ่อที่จะขึ้นราคา และคาดว่าตัวเลขการปรับขึ้นค่ากลางปีนี้ไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาคือ 7 บาท


         


วันเดียวกัน ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการ 4 %แต่เงินเดือนของพนักงานรัฐในมหาวิทยาลัยยังไม่มีการปรับขึ้นนั้น เรื่องดังกล่าวตนได้พูดชัดเจนไปแล้วในที่ประชุมครม.ว่า การขึ้นเงินเดือนสำหรับกลุ่มดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไม่มีอำนาจที่จะดูแลในเรื่องนี้แต่จะดูในส่วนของข้าราชการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งกลุ่มดังกล่าวได้ขอให้มีการสำรวจและจัดสรรเงินให้ด้วย


 


สหรัฐ ฯ ประกาศพร้อมเป็นผู้นำแก้ปัญหาโลกร้อน


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ ผู้นำรัฐบาลอังกฤษ แถลงร่วมกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ผู้นำสหรัฐ ภายหลังหารือทวิภาคีระหว่างการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศ (จี 8) ที่เยอรมนี วันนี้ ระบุว่าที่ประชุมจี 8 ใกล้บรรลุข้อตกลงในเรื่องปริมาณการลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศภายในปี 2593   อย่างไรก็ตาม นายแบลร์ ยอมรับว่า การประชุมจี 8 และ จี 8  บวก  5 ในวันศุกร์นี้ ไม่น่าจะบรรลุข้อตกลงในกรอบของพิธีสารเกียวโต ที่ระบุว่าให้ชาติอุตสาหกรรมลดอัตราการปล่อยก๊าซทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศลงร้อยละ 50 สิ่งสำคัญที่สุดคือ การตั้งเป้าหมายที่ทุกฝ่ายยอมรับและเป็นไปได้มากที่สุด


 


ด้านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐพร้อมที่จะมีบทบาทนำในการแก้ไขปัญหาสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงทั่วโลก แต่ต้องไม่อยู่ภายใต้กรอบพิธีสารเกียวโต ซึ่งระบุให้ลดการปล่อยก๊าซที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และใกล้จะหมดอายุลงในปี 2555   โดยประธานาธิบดีบุช กล่าวว่า บทบาทของสหรัฐก็คือ เป็นสะพานเชื่อมระหว่างยุโรปกับประเทศอื่น เช่น อินเดีย และจีน ซึ่งต้องหันหน้ามาตั้งเป้าหมายในการดำเนินงานร่วมกัน   ทั้งนี้ สหรัฐมีแผนที่จะหารือกับ 15 ชาติ ที่มีอัตราปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก เพื่อหารือปริมาณที่จะตัดลดภายในปีหน้า


 


โครงการอาหารโลกอาจต้องยุติความช่วยเหลือด้านอาหารแก่เกาหลีเหนือเพราะผู้บริจาคลดลง


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายฌอง-ปีแอร์ เดอ มาร์เจอรี  ตัวแทนโครงการอาหารโลก หรือ  World  Food Program   เปิดเผยว่า  คลังสำรองอาหารที่จัดให้กับเกาหลีเหนืออาจจะหมดลงในเดือนธันวาคมนี้ หากประชาคมโลกไม่ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนกับองค์การสหประชาชาติ   โดยปัจจุบันโครงการอาหารโลก สามารถให้ความช่วยเหลือด้านอาหารแก่ชาวเกาหลีเหนือได้เพียง 300,000 คน จากจำนวนผู้ต้องการอาหารในประเทศทั้งสิ้น 6-7 ล้านคน เนื่องจากปริมาณผู้บริจาคลดลง   และในเดือนกันยายนนี้ อาจจะต้องยุติโครงการช่วยเหลือด้านอาหารทั้งหมด ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือเด็กได้เพียง 300,000 คน และหลังจากนั้นคงต้องยุติโครงการดังกล่าวลงในเดือนธันวาคมนี้


 






ต่างประเทศ


ตำรวจเยอรมนีจับกุมผู้ประท้วงต่อต้านการประชุมสุดยอดกลุ่มจี - 8 หลายร้อยคน


กรมประชาสัมพันธ์ - โฆษกตำรวจเยอรมนีแถลงว่า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ประท้วงต่อต้านกระแสโลกาภิวัตน์ประมาณ 300 คน และยังต้องใช้ปืนฉีดน้ำสลายกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนที่ชุมนุมปิดถนนทางเข้าสู่สถานที่จัดการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ชาติหรือ จี -8 ในเมืองไฮลิเกนดัมม์ ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ  แต่โฆษกไม่ได้ยืนยันว่า มีการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า  ช่างภาพของสำนักข่าวเอเอฟพี . ถูกแก๊สน้ำตาระหว่างที่มีการสลายการชุมสุมบนถนนใกล้เมืองไฮลิเกนดัมม์


 


อเมริกาฟุ้งยังเป็นเบอร์ 1 โลกด้านสิทธิมนุษยชน


ผู้จัดการออนไลน์ - 14 ชาติยุโรป สมรู้ร่วมคิดหรือยินยอม ให้สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ(ซีไอเอ) ใช้เครื่องบินขนนักโทษต้องสงสัยก่อการร้าย ข้ามเขตแดนอย่างผิดกฎหมายหรือปล่อยให้ใช้เป็นสถานที่กักกันนักโทษ ขณะเดียวกันองค์การนิรโทษกรรมสากล ออกมาระบุว่ายังมีนักโทษอีก 39 คน ที่ยังถูกคุมขังในคุกลับของซีไอเอ อย่างไรก็ตาม ทอม เคซีย์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันว่าไม่มีนักโทษคนใดที่ยังถูกขังในคุกลับ พร้อมกับชี้ว่าไม่มีเสียงวิจารณ์ใดที่ทำให้ภาพลักษณ์ในการป้องกันสิทธิมนุษย์และพลเรือนของสหรัฐฯเสื่อมลง


 


"เรายอมรับว่าสหรัฐฯ...ไม่สามารถมีสถิติที่สมบูรณ์แบบได้ตลอดกาล และประวัติศาสตร์ก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป" เคซีย์ กล่าว


 


"แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ข้อเท็จจริงที่ว่า สหรัฐฯ เป็นและจะยังคงเป็นผู้นำในการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนทั่วโลกเสื่อมลงไป" เขาบอก


 


มะกันทุ่มจ่ายสด10ล้าน ค่าหัวแกนนำอะบูซัยยัฟ


ไทยโพสต์  - เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำฟิลิปปินส์มอบเงิน  10  ล้านดอลลาร์แก่ผู้แจ้งเบาะแส  4 คน หลังสามารถสังหารหัวหน้ากลุ่มอะบูซัยยัฟและว่าที่หัวขบวนคนใหม่ได้สำเร็จ เผยคนแจ้งเป็นอดีตพลพรรคนักรบ


 


ข่าวแจ้งว่า  เงินค่าหัวก้อนนี้นับเป็นรางวัลก้อนใหญ่ที่สุดนับแต่วอชิงตันเริ่มรณรงค์กวาดล้างพวกนักรบที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งขณะนี้กองทัพสหรัฐกำลังให้การฝึกฝนและคำแนะนำแก่ทหารฟิลิปปินส์ในด้านการต่อต้านการก่อการร้าย


สหรัฐได้ประกาศค่าหัวของนายกัดดาฟี  จันจาลานี  หัวหน้ากลุ่มอะบูซัยยัฟ เป็นเงิน 5 ล้านดอลลาร์  เขาถูกสังหารในการปะทะเมื่อเดือนกันยายนที่เกาะโฮโลในภาคใต้ของฟิลิปปินส์  และยังตั้งค่าหัวอีก 5 ล้านดอลลาร์สำหรับอะบู สุไลมาน ว่าที่หัวหน้าคนใหม่ ซึ่งได้ถูกฆ่าตายที่เกาะโฮโลเมื่อเดือนมกราคม


         

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net