Skip to main content
sharethis

โดย เดนิส วินเทอร์แมน


หทยา อนันต์สุชาติกุล แปลจาก BBC News Magazine วันพุธที่ 25 เมษายน 2550


http://news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/magazine/6587169.stm


 


กระเป๋าที่กำลังเป็นที่นิยมชนิด "ไม่มี ไม่ได้แล้ว" (must-have) ประจำฤดูกาลนี้หาซื้อได้จากซุปเปอร์มาร์เก็ตในราคา 5 ปอนด์ (คิดเป็นเงินไทย เป็นเงินประมาณ 350 บาท - ผู้แปล) วางตลาดในวันพุธนี้  และนี่เป็นการประกาศตัวในวงการแฟชั่นหรือเป็นการเอาใจกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม


 


ฤดูกาลนี้กระแสการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนมาแรงในโฉมหน้าใหม่  คำว่า "อิโค-เฟรนลี่" (eco-friendly - "เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม") ที่เคยมีความหมายกลายๆว่า ทึมทื่อไร้ชีวิตชีวา (เพราะ) เน้นแต่ประโยชน์ มาบัดนี้ได้กลายเป็นคำฮิตติดเทรนด์อย่างเป็นทางการแล้วนะจ๊ะ ที่รัก


 


สินค้านำแฟชั่นที่ว่านี้คือถุงผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายที่ไม่ผ่านการฟอกสี ราคาใบละ 5 ปอนด์ วางจำหน่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเซ็นสเบอร์รี่ส์บางสาขา ปรากฎว่าถุงผ้าดังกล่าวขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียงชั่วโมงเดียวหลังออกวางจำหน่าย


 


อาจจะไม่ได้ฟังดูโก้หรูชนิดติดอันดับ ถุงผ้าลวดลายตัวหนังสือที่เขียนว่า "I am not a plastic bag" -- "ฉันไม่ใช่ถุงพลาสติก" นี้ ออกแบบโดย "ราชินีแห่งแดนกระเป๋า" อันยา ไฮน์มาร์ช


 


การผลิตถุงผ้านี้ออกจำหน่ายมีจุดมุ่งหมายง่ายๆ  นั่นคือการชักชวนให้คนเลิกใช้ถุงหิ้วพลาสติก  การผลิตถุงผ้านี้ไฮน์มาร์ชร่วมงานกับกลุ่ม We Are What We Do (เราทำเช่นไร เราเป็นเช่นนั้น) ซึ่งกลุ่มรณรงค์ที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ตั้งขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายในการเปลี่ยนแปลงโลกแบบค่อยเป็นค่อยไป


 


สถานะ "ไม่มี ไม่ได้แล้ว" (must-have) ของถุงผ้านี้ขึ้นหิ้งอย่างปลอดภัยแล้วรับประกันได้จากการที่ได้รับเลือกเป็นถุงใส่ของสำหรับแขกที่มาร่วมงาน 2007 Vanity Fair Oscar Party ถุงผ้านี้มีวางจำหน่ายเพียง 20,000 ใบเท่านั้น โดยเซ็นสเบอร์รี่แต่ละสาขาจะได้รับถุงผ้าไปจำหน่ายเป็นจำนวนจำกัด คือเพียงสาขาละ 30 ใบ และลูกค้าจะสามารถซื้อได้เพียงคนละหนึ่งใบเท่านั้น


 


ผู้คนมารอคิวเป็นเวลาหลายชั่วโมงในวันที่ถุงผ้านี้ออกวางจำหน่ายที่ห้องเสื้อของไฮน์มาร์ชในกรุงลอนดอนเมื่อเดือนที่แล้ว และปรากฎว่าถุงเหล่านี้ได้ถูกขายผ่านเปลี่ยนมือกันไปจนปรากฎในอีเบย์ (eBay) ในราคาถึง 200 ปอนด์ (หรือประมาณ 1,400 บาท - ผู้แปล) ถุงผ้าธรรมดาๆนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการประกาศเจตจำนงทางจริยธรรม และก็เป็นสัญลักษณ์ที่ทันสมัยเสียด้วย


 


 


เจตจำนงทางจริยธรรม


ในแต่ละปีคนอังกฤษใช้ถุงหิ้วพลาสติกประมาณ 10 ล้านใบ แต่ถุงผ้านี้จะเป็นเรื่องของแฟชั่นมากกว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือเปล่า


 







ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับถุงพาสติกในสหราชอาณาจักร


เราใช้ถุงหิ้วพลาสติกกัน โดยเฉลี่ยคนละ 167 ใบต่อปี


เพียง 1ใน 200 เท่านั้นที่เป็นถุงชนิดรีไซเคิล


พลาสติกใช้เวลาถึง 400 ปีในการย่อยสลายในดิน

แหล่งที่มา: กลุ่มรณรงค์ We Are What We Do

 


ถุงผ้านี้ผลิตจากผ้าฝ้าย แต่ก็ผลิตในประเทศจีน ซึ่งนี่ก็อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  ก็ด้วยว่าต้องมีการขนส่งทางเรือเป็นระยะทางหลายพันไมล์มายังสหราชอาณาจักร และถุงผ้านี้ก็นับว่าราคาถูกสำหรับการเป็นผลิตภัณฑ์ของไฮน์มาร์ช ซึ่งกระเป๋าโดยทั่วไปที่เธอออกแบบมีราคาสูงถึง 1,000 ปอนด์


 


แต่ราคาของถุงผ้านี้ก็นับว่าสูงกว่า กว่าเงิน 10 เพนนี (ประมาณ 7 บาท - ผู้แปล) อันเป็นราคาของถุง "bag for life" [1] ที่มีขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่


 


แต่กระนั้น ใครจะซื้อถุงผ้านี้ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่เห็นจะสำคัญ - ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดผู้หนึ่งกล่าว  ว่าสิ่งสำคัญก็คือ ถุงผ้านี้ได้ช่วยในการประชาสัมพันธ์อย่างมหาศาล  นับได้ว่าถุงผ้านี้ได้กลายเป็นกิจกรรมการกุศลที่ประสบความสำเร็จที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว


 


 "แล้วหากคนซื้อเพราะเป็นแฟชั่น...." คริส อาร์โนลด์ ครีเอทีฟของบริษัทการตลาดแนวจริยธรรม (ethical marketing company) ที่มีนามว่า ฟีล (Feel) กล่าว "หากผู้ซื้อเป็นผู้ที่มีความคิดตื้นเขินและซื้อเพราะเป็นแฟชั่น ก็ยังเรียกได้ว่าเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะนั่นคือเขาไม่ใช้ถุงพลาสติก"


 


"เราต้องยอมรับว่าเราอยู่ในสังคมบริโภคที่รุ่มรวย และทำงานกับสังคมนี้" การหาข้อจับผิดการรณรงค์ใดๆก็ตามเป็นเรื่องง่าย แต่หากการรณรงค์นั้นช่วยทำให้คุณค่าทางจริยธรรมเป็นแฟชั่นทันสมัยขึ้นมา ก็ต้องนับว่าเยี่ยมที่เดียว"


 


ถุงผ้าอนุรักษ์สำหรับนักบริโภคตัวยง? ดูจะเป็นสำนวนที่ใจความขัดแย้งกัน (oxymoron) การช็อปปิ้งนั้นเป็นกิจกรรมที่สิ้นเปลืองทรัพยากรของโลกอย่างมาก


 


 


ปลุกจิตสำนึก


มิซ[2] ไฮน์มาร์ช รู้ถึงพลังอำนาจของแฟชั่นแต่แรก และก็เตรียมพร้อมที่จะใช้พลังอำนาจนั้น "ในฐานะที่เป็นแบรนด์หรู เราอยู่ในฐานะที่จะผลักดันอะไรๆได้" เธอกล่าว


 


ถุงผ้าไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อบุกเดี่ยวในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จุดประสงค์คือการจะทำให้ประเด็นที่สำคัญประเด็นหนึ่งปรากฎชัดขึ้นมา


 







ถุงผ้านี้ส่งสารว่าผู้บริโภคเป็นผู้บริโภคที่ชาญฉลาด


โจนาทาน กาเบย์

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแบรนด์ (Brand expert)

 


บางแง่มุมของโปรเจ็คนี้อาจจะไม่เป็นดังอุดมคติ อย่างเช่น การผลิตในประเทศจีน อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้มีใครแสวงหากำไร และถุงผ้านี้ก็ทำในโรงงานที่ได้ชื่อว่ามีความเป็นธรรม  นอกจากนี้โปรเจ็คนี้ใช้กระบวนการที่ลดการทำให้เกิดการปล่อยสารคาร์บอน (carbon-offset) อีกด้วย


 


ถ้าถุงผ้านี้ได้เพาะความคิด ทำให้คนเราฉุกคิดกันเสียก่อนที่จะเอื้อมหยิบถุงพลาสติกโดยอัตโนมัติอย่างเคย  นั่นก็ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จ


 


งานนี้ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย - โจนาทาน กาเบย์  ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแบรนด์ (ฺBrand expert) กล่าว สิ่งที่ชาญฉลาดเกี่ยวกับถุงผ้านี้คือการนำสารสำคัญของเรื่องสิ่งแวดล้อมไปยังตลาดแห่งสินค้าบริโภค


 


"ผู้บริโภคก็จะมีภาพลักษณ์ที่ดี บริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้องก็เช่นกัน ถุงผ้านี้ส่งสารว่าผู้บริโภคนั้นชาญฉลาดที่ซื้อถุงผ้าใช้ และบริษัทก็ชาญฉลาดที่ผลิตถุงผ้าแบบนี้ขึ้นมา"


 


จากการทำถุงผ้าเป็นสินค้าพิเศษขึ้นมานี้  มิซไฮน์มาร์ชก็ไม่ได้ทำลายการเป็นแบรนด์ชั้นสูงของผลิตภัณฑ์ของเธอเลย  เขากล่าวเสริม


 


ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่


 http://www.anyahindmarch.com/division/environmental_bags.aspx


http://news.independent.co.uk/business/news/article2470137.ece


http://www.tesco.com/todayattesco/bag_life.shtml


 






[1] "bag for life"  เป็นถุงที่ซุปเปอร์มาร์เกตหลายแห่งในอังกฤษผลิตขึ้นเพื่อส่งเสริมการลดการใช้ถุงหิ้วพลาสติกใส่ของ  ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุที่มีความคงทน เพื่อให้ใช้ใส่ของได้หลายครั้ง  ส่วนใหญ่ตั้งราคาไว้เท่ากันคือ10 เพ็นนี และเมื่อถุงใบเก่าที่เสื่อมสภาพแล้ว ลูกค้าสามารถขอรับถุงใบใหม่ไปใช้แทนได้ฟรี



[2] มาจาก Ms. คำนำหน้าชื่อของผู้หญิงที่ไม่แสดงว่าเป็นหญิงที่แต่งงานแล้วหรือยัง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net