ชื่อบทความเดิม : ขุดรากถอนโคนคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค
โดย ไซมอน ค็อกซ์
พิธีกรรายการ The Investigation*
หทยา แปลจาก http://news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/magazine/6595801.stm
ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ** พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะคำกล่าวอ้างถึงคุณประโยชน์ต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม และข้ออ้างที่ว่าเป็นการยกมาตรฐานสวัสดิภาพของสัตว์ หรือว่าเรากำลังถูกล่อลวงไปกับเหล่าคำกล่าวอ้างที่สร้าง "ความรู้สึกดีๆ" แต่ยังสอบไม่ผ่านเมื่อถูกตรวจสอบด้วยหลักวิทยาศาสตร์
โบโรมาร์เก็ต (Borough Market) ซึ่งอยู่ทางใต้ของลอนดอนเรียกได้ว่าเป็นต้นตระกูลของตลาดเกษตรกรเลย เวลาอาหารกลางวันของวันพุธคิวที่สลัดบาร์ออร์แกนิคจะยาวเหยียด ส่วนร้านเบ็ตตี้ (Betty) แผงข้างๆ ก็มีลูกค้าหลั่งไหลมาซื้อสมุนไพรเครื่องเทศออร์แกนิคอย่างไม่ขาดสาย
ลูกค้าจำนวนมากเชื่อว่าการกินอาหารออร์แกนิคจะทำให้สุขภาพดีขึ้น
"ก็ถ้าให้คุณเลือก คุณจะเลือกกินของที่เต็มไปด้วยสารเคมีหรือของที่มาจากธรรมชาติสะอาดๆ ล่ะ"
"แล้วเราจะพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าออร์แกนิคดีต่อสุขภาพมากกว่า"
ปฐพีสมาคม (Soil Association ) ซึ่งเป็นสถาบันที่ประสาทใบรับรองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรอ้างว่า "มีงานวิจัยจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่แสดงให้เห็นว่าอาหารออร์แกนิคมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า" และมีงานศึกษาเมื่อไม่นานมานี้สนับสนุนข้ออ้างดังกล่าว โดยแสดงให้เห็นว่าผลกีวีและมะเขือเทศออร์แกนิคนั้นมีวิตามินสูงกว่า
"บางเรื่องที่วิทยาศาสตร์ไม่อาจให้คำตอบ เราก็ต้องยึดความรู้สึก"
ลอร์ด ปีเตอร์ เมลเช็ท แห่ง ปฐพีสมาคม (Soil Association)
เรื่องนี้ผลักดันให้ แคลร์ วิลเลียมสัน จาก มูลนิธิโภชนาการแห่งสหราชอาณาจักร (British Nutrition Foundation) ตัดสินใจทำการศึกษางานวิจัยปัจจุบันทั้งหมดที่เกี่ยวกับการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างอาหารออร์แกนิค กับ อาหารที่ไม่ใด้ผลิตโดยวิธีออร์แกนิคในเรื่องของคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
ปรากฏว่าคำกล่าวอ้างต่างๆ ของทางฝ่ายออร์แกนิคไม่อาจโน้มน้าวเธอได้ นางวิลเลียมสันกล่าวโดยอ้างจากผลการศึกษาของเธอว่า มูลนิธิฯ มีความรู้สึกว่า "การโปรโมทอาหารออร์แกนิคว่าดีต่อคุณมากกว่าอาหารที่ไม่ใช่ออร์แกนิคทั้งๆที่ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนที่แข็งพอนั้น เป็นการขาดความรับผิดชอบ"
รัฐบาลและสำนักมาตรฐานอาหาร (Food Standard Agency) อันเป็นหน่วยเฝ้าระวัง (watchdog) อิสระที่ตั้งขึ้นโดยรัฐบาลก็ยืนยันอย่างแข็งขันพอกันว่าขณะนี้ยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าอาหารออร์แกนิคนั้นดีต่อสุขภาพมากกว่า อย่างไรก็ตาม ลอร์ด ปีเตอร์ เมลเช็ท ผู้อำนวยการปฐพีสมาคม (Soil Association) กล่าวแย้งว่า ทว่าลำพังวิทยาศาสตร์อย่างเดียวก็ไม่อาจพิสูจน์สิ่งนี้ได้ เขามีความเชื่อว่าผู้บริโภคจะต้องวางใจในสัญชาติญาณของตน
เขากล่าวอีกว่า "บางเรื่องที่วิทยาศาสตร์ไม่อาจให้คำตอบ เราก็ต้องยึดความรู้สึก"
อย่างไรก็ตาม ความจริงข้อหนึ่งที่ไม่ต้องโต้เถียงกันก็คือ การเกษตรแบบออร์แกนิคนั้นใช้ยาฆ่าแมลงน้อยกว่าการเกษตรแบบประเพณีปกติหลายเท่านัก นั่นคือ ปฐพีสมาคม (Soil Association) ประกาศความหมายออกมาชัดเจนว่า "สารฆ่าแมลงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ" โดยคำกล่าวดังกล่าวปรากฏในเอกสารเผยแพร่ของสมาคมที่มีชื่อว่า อาหารออร์แกนิคและการเกษตรกรรม: ตำนานกับความเป็นจริง (Organic Food and Farming: Myth and Reality)
สารฆ่าแมลงธรรมชาติ
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคก็จะต้องดีกว่า เพราะแทบไม่ใช้สารฆ่าแมลง....ทว่าทุกวันนี้ปริมาณสารฆ่าแมลงที่ตกค้างบนผักผลไม้นั้นไม่ได้มากพอที่จะเป็นอันตรายต่อเรา -- สำนักมาตรฐานอาหาร (Food Standards Agency) กล่าว
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ แอนโทนี เทรวิวาส ผู้เชี่ยวชาญพืชและจุลชีววิทยา ยังเชื่อว่าข้อถกเถียงที่ต่อต้านสารฆ่าแมลงนั้นเชื่อถือไม่ได้และขาดความซับซ้อน เนื่องจากคนเราได้กินสารพิษฆ่าแมลงธรรมชาติที่พืชผลิตออกมาเพื่อฆ่าแมลงกันไปเป็นปริมาณมากโขแล้ว
"ในแต่ละวัน เราทุกคนก็บริโภคเข้าไปวันละหลายพัน" ศาสตราจารย์ แอนโทนี เทรวิวาสกล่าวโดยเทียบปริมาณนี้กับปริมาณหนึ่งในสี่ช้อนชาในแต่ละวัน แล้วสารฆ่าแมลงเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นอันตรายสำหรับเรา --- เขากล่าว
"คุณก็ไม่ได้มีเนื้อร้าย แล้วคุณก็ไม่ได้ป่วยเพราะสารพิษทำลายระบบประสาท"
แต่การซื้อสินค้าออร์แกนิคไม่ได้เป็นเรื่องของสุขภาพเพียงอย่างเดียว สำหรับหลายคน เรื่องนี้เป็นเรื่องของปกป้องดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ฟาร์มชีพโดรฟ (Sheepdrove) ในเบิร์กเชียร์เป็นฉายภาพชีวิตชนบทแบบดั้งเดิม ที่ซึ่งแกะและวัวเดินกินหญ้าอยู่บนคลื่นเนินเขาพื้นที่
ลอเร็นซ์ วูดเวิร์ด ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยออร์แกนิค เอลม์ ฟาร์ม (
เขากล่าวว่า "การเกษตรแบบออร์แกนิคดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการเกษตรแบบประเพณีอย่างไม่ต้องสงสัย จะมีก็แต่หลักฐานขัดแย้งประเภทงุบงิบงึมงำจากฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น"
วิทยาศาสตร์ชั้นเลว
ดังเช่นข้อกล่าวอ้างเรื่องสุขภาพ เราพิสูจน์กันได้หรือไม่ว่าออร์แกนิคนั้นดีต่อโลกเราจริงๆ
นั่นคือคำถามที่รัฐบาลและองค์กรต่างๆ อย่างปฐพีสมาคม (Soil Association) ได้พยายามหาคำตอบ ช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ เคน กรีน ศาสตราจารย์ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมแห่งสำนักวิชาธุรกิจ มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ (
สิ่งที่เขาค้นพบนั้นไม่เป็นข่าวดีสำหรับอุตสาหกรรมออร์แกนิคเลย นาย กรีน สรุปผลการศึกษาให้ฟังว่า "งานศึกษาที่มีมาไม่มีงานใดกล่าวฟันธงว่าเราเลือกออร์แกนิคกันเถอะ และว่าการเลือกนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมากเมื่อเทียบกับการวิธีทำการเกษตรแบบประเพณี"
ทางฝ่ายออร์แกนิคโต้แย้งกลับโดยทันที โดยกล่าวหาว่า งานศึกษานี้เป็นงานศึกษาของวิทยาศาสตร์ชั้นเลว เนื่องจากเป็นเพียงแค่งาน "ทบทวนวรรณกรรม" มากกว่าจะอยู่บนพื้นฐานของการวิจัยที่มีแบบฉบับของตน อย่างไรก็ตาม ลอร์ดเมลเช็ต ก็ยอมรับว่า "ยังมีช่องว่างที่ใหญ่อยู่เหมือนกันในความรู้ของเราทางด้านนี้" และเขาก็มั่นใจว่างานวิจัยในอนาคตจะพิสูจน์ออกมาได้ว่าออร์แกนิคนั้นดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าจริงๆ
แต่งานศึกษาสองสามชิ้นก็ได้พยายามวิเคราะห์คุณประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อมของการเกษตรแบบออร์แกนิค นายวูดเวิร์ดเชื่อว่า การวิเคราะห์ดังกล่าวมีเหตุผลที่ดี: "การเปรียบเทียบอย่างมีเหตุมีผลระหว่างระบบการเกษตรแบบออร์แกนิคกับแบบประเพณีนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าระบบทั้งสองนี้มีความแตกต่างกันมาก"
มาตรฐานด้านสวัสดิภาพ
แต่อุปสรรคดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้สถาบันอย่าง ปฐพีสมาคม (Soil Association) ยุติการกล่าวอ้างว่า "การเกษตรแบบออร์แกนิค เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า"
ใครกันที่กล่าวเช่นนั้น ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของ ปฐพีสมาคม (Soil Association) มีคำตอบว่ารัฐบาลเป็นผู้กล่าว "รัฐบาลอังกฤษได้พูดว่า การเกษตรแบบออร์แกนิคนั้นดีต่อสัตว์ป่า และก่อให้เกิดมลพิษจากการฉีดพ่นน้อยกว่า ผลิตคาร์บอนไดอ็อกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซตัวหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนออกมาน้อยกว่า"
เมื่อถูกท้าทายในเรื่องนี้ กรมการสิ่งแวดล้อม อาหาร และชนบท ( Department for Environment, Food and Rural Affairs) กล่าวว่า กรมฯ หาได้โปรดปรานการเกษตรแบบหนึ่งมากกว่าอีกแบบหนึ่งไม่
อย่างไรก็ตาม การบริโภคสินค้าออร์แกนิคก็ไม่ได้เป็นเรื่องของปฏิบัติการปกป้องโลกไปทั้งหมด แต่ยังพูดถึงการเลี้ยงและดูแลปศุสัตว์อย่างมีมนุษยธรรมมากขึ้น มีการแสดงความเป็นห่วงอย่างจริงจังจากคนในวงการเกษตรเกี่ยวกับวิธีการผลิตเนื้อสัตว์แบบออร์แกนิค
ลอเร็นซ์ วูดเวิร์ด เจ้าของงานศึกษาที่จะตีพิมพ์ในปีนี้ กล่าวถึงสภาพของฟาร์มสุกรในฮอลแลนด์ ว่าไม่เป็นออร์แกนิค จริง เนื่องจากสุกรถูกขังไว้ในโรงเรือนที่จำกัด คับแคบ ซึ่งเป็น "วิธีการที่ล้าหลังอย่างมาก เป็นการผลิตที่เข้มข้นอย่างมาก"
"ไม่อาจกล่าวเลี่ยงไปทางอื่น - ผู้บริโภคถูกหลอกนั่นเอง" นายวูดเวิร์ดกล่าว ทว่างานวิจัยดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยว่าองค์กรใดในสหราชอาณาจักรที่ออกใบรับรองให้กับผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศเหล่านี้
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงคราวเซ็นรับรองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจากต่างประเทศ ปฐพีสมาคม (Soil Association) ก็เป็นองค์กรหนึ่งที่ไม่ได้ส่งคณะผู้ตรวจสอบจากสถาบันไปตรวจสอบผลิตภัณฑ์โดยตรง ลอร์ด เมลเช็ตกล่าวว่า "สิ่งที่เราทำก็คือ ตรวจสอบผู้ตรวจสอบและมีมาตรการให้แน่ใจได้ว่าผู้ตรวจสอบเหล่านี้จะดูแลผลิตภัณฑ์ให้ถึงเกณฑ์มาตรฐาน"
การเป็นผู้บริโภคที่มีสำนึกทางศีลธรรม (ethical consumer) ไม่ใช่เรื่องง่าย การเมืองเรื่องผลผลิตนั้นก็สับสนและซับซ้อนขึ้นทุกวัน คำแนะนำที่ดีที่สุดก็คือ อย่าเชื่อป้ายฉลากที่โปรยคำมั่นสัญญาปกป้องโลกโดยไม่มีวิทยาศาสตร์สนับสนุน
- - - - - - - - - - - - - - -
*รายการ The Investigation ออกอากาศทาง BBC Radio 4 วันพฤหัสบดี ที่ 26 เมษายน 2550 เวลา 20.00 น ตามเวลาท้องถิ่นในฤดูร้อน
** ผลิตภัณฑ์ "ออร์แกนิค" หมายถึง ผลผลิตที่ได้จากธรรมชาติ มาจากเกษตรกรรมที่ปลอดสารเคมีโดยสิ้นเชิง เช่น ไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมีบำรุงพันธุ์ในการเพาะปลูก หรือ สารเร่งการเจริญเติบโตในการเลี้ยงสัตว์ ผ่านกระบวนการผลิตด้วยวิธีธรรมชาติ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)