วานนี้ (27 เม.ย.) ที่ราชบัณฑิตยสถาน สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ได้จัดเสวนาหัวข้อ "รัฐธรรมนูญกับอนาคตของชาติ"
บวรศักดิ์ชี้ถ้าไม่ไตร่ตรอง รธน.ฉบับวัฒนธรรม รธน.ใหม่จะเปิดปัญหาแบบ "40
นาย
ชูพิมพ์เขียว รธน. รัฐบาลมั่นคง ตรวจสอบเข้มแข็ง ประชาชนมีส่วนร่วม
"พิมพ์เขียวในใจของผมถ้าเป็นกมธ.ยกร่างฯก็คือรัฐธรรมนูญต้องทำให้ 1.ต้องสร้างรัฐบาลที่มีความมั่นคงไม่กลับไปก่อนปี 2540 ให้ได้ 2.ระบบตรวจสอบอิสระต้องเข้มแข็งขึ้น 3.ขยายพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากขึ้น" นายบวรศักดิ์ กล่าว
นายบวรศักดิ์ยังยืนยันว่า การได้รัฐบาลเข้มแข็งนั้นต้องออกแบบระบบเลือกตั้งแบบเขตเดียวคนเดียวเท่านั้น เพราะระบบนี้จะทำให้คนที่แม่ฮ่องสอน มี 1 เสียงเท่ากับคนกรุงเทพฯ ขณะที่พรรคการเมืองสามารถเสนอนโยบายประชันกันได้ คนที่ไม่มีเงินจะได้มีเวลาหาเสียงได้ทั่วถึงเพราะเขตเล็ก แต่เขตใหญ่ 3 คนนั้นอธิบายไม่ได้ว่าทำไมแม่ฮ่องสอนได้ส.ส. 1 คนแต่ทำไมกทม.ได้ถึง 3 คน ส่วนปาร์ตี้ลิสต์ต้องแบ่งเป็น 4 ภาคเช่นเดียวกับที่กมธ.ร่างไว้ แต่จำนวนส.ส.จะไม่ไปแตะต้องเพราะไม่ใช่ปัญหา และเพื่อเป็นการไม่ก่อให้เกิดปัญหากับพรรคการเมืองในการเตรียมตัวเลือกตั้ง
ชี้เลือกตั้งระบบพวง พรรคจะอ่อนแอ
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าระบบเขตใหญ่ 3 คนอยากให้พรรคอ่อนแอที่สุด เจ๊งที่สุด ระบบนี้ พรรคจะแข่งกันเองและหักหลังกันเอง และเงินจะสะพัดในพื้นที่ เพราะพรรคจะทุ่มมหาศาลซื้อเสียง พรรคแอลดีพีในญี่ปุ่นเคยยับเยินมาแล้วด้วยระบบนี้ในที่สุดญี่ปุ่นต้องเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง ระบบนี้กรรมาธิการยกร่างฯก็รู้อยู่แล้วว่าจะทำให้รัฐบาลอ่อนแอแต่ก็จงใจให้เกิดขึ้นนายจรัญ (ภักดีธนากุล) ก็พูดชัดว่าทำอย่างนี้พรรคการเมืองจะได้ไม่ต้องเข้มแข็งอหังการมากนัก ท่านจึงออกแบบให้รัฐบาลอ่อนแอ
"ถ้าเป็นอย่างนี้โดยไม่มีการแก้ไข ผมพยากรณ์ให้บันทึกไว้ที่ราชบัณฑิตได้เลยว่ารัฐธรรมนูญจะทำให้รัฐบาลแบบก่อนปี 40 คืออยู่แค่ 8 เดือนหรือ 1 ปี ขณะที่ระบบตรวจสอบเพิ่มขึ้น ตุลาการภิวัฒน์มากขึ้น อำนาจประชาชนเพิ่มมหาศาล มันไม่ช่วยอะไรเลย เราจะได้รัฐบาลที่ไม่ทำอะไรเลย บริหารตามระเบียบราชการเฉยๆโดยเฉพาะให้คนฟ้องร้องรัฐได้ในเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนได้ทุกเรื่อง รัฐบาลจะไม่กล้าทำอะไรเลย กลัวไปหมด"นายบวรศักดิ์ กล่าว
เมินเลือก ส.ว. เสนอลากตั้ง อ้างได้ตัวแทนหลากหลาย ตัดตอน ส.ว. ตัวแทนคนชนบท
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับที่มา ส.ว. นั้นจะต้องไม่เลือกตั้ง เพราะเราต้องการ ส.ว.ที่มีความต่างจากส.ส.มีสภาแบบพหุนิยม ประกอบด้วยคนจากหลายหลายอาชีพทุกกลุ่มในสังคม ซึ่งถ้าใช้ระบบเลือกตั้งเราจะไม่ได้คนลักษณะนี้แต่จะสะท้อนตัวแทนจากคนชนบทเช่นเดียวกับ ส.ส.แต่จะไม่ได้กลุ่มพลังทางสังคมอื่นๆ เช่น ชนชั้นกลางในเมือง ข้าราชการ ทหาร พลเรือน อย่างไรก็ตามการจะใช้ระบบแต่งตั้งสังคมไม่ยอมรับ แต่ ดังนั้นต้องหาจุดตรงกลางคือสรรหาและเลือกตั้ง
ในส่วนของกรรมการสรรหานั้นควรจะมาจากอดีตประธานศาลฎีกา อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี โดยเลือกประชาชนจากบุคคล 4 กลุ่มคือ 1.ข้าราชการ ทหาร พลเรือน 2.ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม 3.ทนายความ แพทย์ สื่อมวลชน และ 4.เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน ซึ่งจะสมัครเองหรือให้กรรมการเลือกมาก็ได้ 400 คนแล้วให้ประชาชนเลือกตั้งทั่วประเทศคนละ 1 เสียงเหลือ 200 คน มีวาระ 6 ปี เราจะได้ ส.ว. ที่มาจากประชาชนมีสิทธิถอดถอน หรือเข้าชื่อแก้รัฐธรรมนูญ เสนอกฎหมายได้
ยุเขียน ม.68 ใช้งานง่ายและใช้ได้จริง แค่เสียง 6 ใน 11
นายบวรศักดิ์ ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า สำหรับมาตรา 68 ที่เปิดให้ประมุข 11 องค์กรแก้วิกฤตประเทศนั้นต้องเขียนให้สุดทางโดยระบุให้สามารถใช้เสียง 6 ใน 11 เรียกประชุมได้ทันที และบุคคลที่เป็นผู้ก่อวิกฤตห้ามเข้าประชุม พร้อมทั้งต้องระบุว่ามติที่ได้นั้นจะมีผลในทางปฏิบัติอย่างไร ถ้าเขียนไว้ลอยๆ เช่นนี้ในที่สุดจะไม่มีใครกล้าใช้
"ถ้าให้ผมต้องลงมติในวันนี้ผมก็จะรับรัฐธรรมนูญร่างนี้ เพราะถือว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย มีระบบตรวจสอบที่เข้มแข็ง รวมทั้งได้ขยายพื้นที่การมีส่วนร่วมของประชาชนมากขึ้น และอยากขอร้องประชาชนว่า เวลาลงมติร่างรัฐธรรมนูญนั้นให้อ่านทั้งฉบับ และต้องดูภาพรวม อย่าดูบางท่อนบางตอน เช่นเดียวกับการตัดสินนางงามต้องดูทั้งตัวไม่ใช่ตัดแขนมาดูว่ามีไฝหรือไม่ แต่ต้องดูทั้งหมด ถ้าผ่าเป็นส่วนๆไม่มีทางเป็นนางงามได้เลย แม้แต่นางงามโลกก็เหมือนกัน ถ้าเอามาคว้านไส้แล้วเอามาดูก็ไม่มีทางเป็นทางเป็นนางงามโลกได้ รัฐธรรมนูญก็เป็นอย่างนั้นเช่นเดียวกัน"นายบวรศักดิ์ กล่าว
'สมคิด' ชี้เหตุ รธน.50 มี 2 สาเหตุ 1.ที่มา ส.ว. 2.บรรจุพุทธศาสนาใน รธน.
นาย
"ในเมื่อเราอยากได้ ส.ว. ที่เป็นกลาง มีความเป็นอิสระถอดถอนคนอื่น ซึ่งจะไม่ได้จากระบบเลือกตั้ง นอกจากนี้ระบบเลือกตั้งเราจะไม่ได้คนจากทุกกลุ่มในสังคม เราไม่ได้คนพิการ ภาคเกษตร แต่ระบบสรรหาเราจะได้คนอิสระเป็นกลาง กลุ่มวิชาชีพที่หลากหลาย" เลขานุการกมธ.กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนเรื่องระบบการเลือกตั้งนั้นยืนยันว่านายจรัญ ภักดีธนากุล ซึ่งเป็นประธานกรอบสถาบันการเมืองได้ฟังความเห็นจากพรรคการเมืองแล้วส่วนใหญ่อยากได้พรรคละ 3 คน ถ้าเราไม่เชื่อเขาก็ไม่รู้จะเชื่อใคร และคิดว่าระบบนี้น่าจะพอไปเพราะคนไม่มีเงินก็สู้ได้ แต่ถ้าจะกลับไปเป็นเขตเดียวเบอร์เดียวเหมือนเดิมประชาชนจะถามว่าแล้วตกลงจะปฏิรูปอะไร เหมือนเดิมทุกอย่าง
ส่วนที่นายบวรศักดิ์ ระบุว่าการเลือกตั้งพรรคละ 3 คนจะทำให้พรรคอ่อนแอนั้น นายสมคิดกล่าวว่า ตนก็เห็นว่าไม่แน่เสมอไป เพราะปรากฏการณ์ที่รัฐบาลทักษิณเข้มแข็งนั้นก็ไม่ได้เกิดจากการเลือกตั้งเขตเดียวเบอร์เดียว แต่เกิดจากระบบปาร์ตี้ลิสต์ระบบเดิมที่ทำให้พรรคไทยรักไทยได้เสียงในสภามากเกินความเป็นจริง
หวั่นประชามติไม่ผ่านทำประเทศวิกฤติ
"กมธ.ยกร่างฯตระหนักดีว่ารัฐธรรมนูญ 50 จะเป็นอนาคตของชาติ เพราะจะเป็นช่องทางเดียวที่พาสังคมไทยกลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตย ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญ ที่ดีหรือไม่ผ่านประชามติประเทศจะถึงทางตันและเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ของประเทศ ซึ่งกมธ.จะพยายามร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับความต้องการประชาชนและเป็นไปตามหลักวิชาให้ได้มากที่สุด"
ทั้งนี้นายสมคิด กล่าวว่า ในการประชุมกมธ.ยกร่างฯในวันที่ 27 พ.ค. ถึง 10 มิ.ย.นั้นเราจะปรับปรุงบางอย่างเพื่อให้รัฐธรรมนูญดูดีกว่าเดิม แต่ขอเรียนว่าการร่างรัฐธรรมนูญ นั้นไม่ใช่ว่าจะขึ้นกับเจตจำนงของใครคนใดคนหนึ่งได้ 100 เปอร์เซ็นต์นายบวรศักดิ์ก็เข้าใจดีว่า 35 คนมีหลายความคิด ไม่ต่างกับการทำแกงเขียวหวานซักหม้อ เอาพ่อครัว 35 คนมันไม่กลมกล่อม แต่เป็นแกงโฮะ บางคนอยากกินเค็ม ก็ใส่เกลือ อยากใส่หวานก็ใส่น้ำตาล หรือชอบมะเขือ ก็ใส่มะเขือ
ประธาน ส.ส.ร.รับมีเวลาร่าง รธน. สั้น แต่หวังรับฟัง ค.เห็น เพื่อปรับแก้
ด้านนาย
นายนรนิติ กล่าวต่อว่า ดังนั้นประชาชนที่เป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญมีสิทธิที่จะเสนอความเห็นต่างๆ และทางคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ก็จะนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาตกผลึกและนำมาเขียนให้มีความกระชับในร่างรัฐธรรมนูญ แต่กรรมาธิการ ยกร่างฯ นำความคิดเห็นของประชาชนทั่วทั้งประเทศ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากมาเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะจะทำให้มีเป็นพันมาตรา และจะเห็นว่า นอกจากนี้ในรัฐธรรมนูญปี 2540 ต้องการให้รัฐบาล องค์กรตรวจสอบ และประชาชน มีความเข้มแข็ง แต่จะเห็นได้ว่าองค์กรอิสระมีความเข้มแข็งที่ไม่เท่ากับรัฐบาล จึงเกิดปัญหา
ดังนั้น รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงต้องการทำให้ทุกส่วนมีความเข้มแข็งและคานกันได้ แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่สามารถที่จะไปเปลี่ยนพฤติกรรมทางสังคม พฤติกรรมของวัฒนธรรมทางการเมือง ได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่หากจะเปลี่ยนวัฒนธรรมทางสังคมต้องใช้เวลาและประชาชนต้องนำปัญหาต่างๆ มาพิจารณาเพื่อให้รัฐธรรมนูญเกิดผลประโยชน์ต่อประเทศชาติสูงสุด
"รัฐธรรมนูญฉบับนี้เปรียบเหมือนบ้านที่มีหลังคา มีโครงสร้าง แบ่งเป็นห้องอย่างชัดเจน แต่อาจจะมีเพียงแค่บางอย่างในบ้าน เช่น หน้าต่างบิดเบี้ยวไปบ้าง ตรงนี้ก็สามารถปรับปรุงและแก้ไขให้สมบูรณ์ได้ ก็เหมือนกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่เกือบจะสมบูรณ์เพียงแต่สิ่งที่ไม่สมบูรณ์นั้นสามารถปรับแต่งแก้ไขได้ อย่าถึงขนาดไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะหากรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติมีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ฝ่ายการเมืองทุกภาคส่วนก็สามารถที่จะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อว่าอย่างช้าจะไม่เกินเดือน มิถุนายนปี 2551 จะแก้ไขให้สมบูรณ์ได้" นายนรนิติ กล่าว
หน.พลังแผ่นดินไทย เชิดชู ร่าง รธน.50 ชี้ให้เสรีภาพมากกว่า 40
ขณะที่นาย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)