หนุ่มใหญ่ปีนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเรียกร้อง "พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ"

 


 


ประชาไท - 16 เม.ย.2559 เมื่อเวลา 20.30 น. วานนี้ (15 เม.ย.) นายมนัส เดชเสน่ห์ หนุ่มใหญ่สวมชุดขาววัย 35 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนประชาธิปไตยพระปกเกล้า สมาชิกกลุ่มประชาธิปไตยแห่งชาติที่มีนายสมาน ศรีงามเป็นแกนนำ ได้ปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนพานรัฐธรรมนูญ ของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง และได้นำธงธรรมจักรสีเหลือง 2 ผืน ผูกไว้กับส่วนที่เป็นรัฐธรรมนูญของอนุสาวรีย์ เรียกร้องให้มีการบัญญัติข้อความให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ลงไปในรัฐธรรมนูญ

 

โดยมี พ.ต.ท.วิิทยา สุขเกษม รองผกก.จร.สน.สำราญราษฎร์ ได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อม นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.น.1 เจ้าหน้าที่กู้ภัยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปีนขึ้นไปเจรจาไกล่เกลี่ยให้นายมนัสลงมาพูดคุยด้านล่าง เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ ที่ต้องการเรียกร้อง แต่กลับได้รับการปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงได้นิมนต์พระธัญณัฏฐ์ชัย ชัยยธัมโม วัดคูหาสวรรค์วรวิหาร ซึ่งผ่านมายังบริเวณดังกล่าวมาทำการเจรจาเกลี้ยกล่อม แต่ก็ไม่เป็นผล นายมนัสยังคงยืนกรานที่จะปักหลักอยู่ด้านบนต่อไป

 

 

 

 

โดยระหว่างที่นายมนัส เดชเสน่ห์อยู่บนพานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็ได้มีวัยรุ่นที่เล่นสาดน้ำบริเวณถนนราชดำเนินกลาง ตลอดจนยวดยานที่ผ่านบริเวณดังกล่าว ตะโกนให้นายมนัสลงมาเป็นระยะๆ บางคนก็ตะโกนแซวว่า

"ลงมาเถอะพี่ ทางบ้านให้อภัยแล้ว"

 

ต่อมา เวลาประมาณ 23.00 น. ดร.พระมหาโชว์ ทสฺสนีโย ผู้อำนวยการส่วนธรรมนิเทศ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำวัดอยู่วัดชนะสงคราม เดินทางมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อมาให้กำลังใจนายมนัส และกล่าวว่า "นี่แหละ เพราะไม่บรรจุเรื่องพระพุทธศาสนาลงในรัฐธรรมนูญ จึงต้องมาปักธงธรรมจักรที่พานรัฐธรรมนูญ" นอกจากนี้พระมหาโชว์เปิดเผยว่าหลังสงกรานต์พระสงฆ์ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกว่า 500 วัดและจากทั่วประเทศจะรวมกันที่ท้องสนามหลวงสนับสนุนให้บรรจุเรื่องพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติลงในรัฐธรรมนูญที่กำลังร่างนี้ด้วย

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา นายมนัสเคยยื่นเรื่องกับ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้บัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติลงในรัฐธรรมนูญ แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางมาประท้วงด้วยวิธีดังกล่าว

 

สำหรับนายมนัส นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการปีนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพราะก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 9 กรกฎาคม ปีที่แล้วนายมนัส กับพวกรวม 3 คนคือนายบุญสิน หยกทิพย์ และนายองอาจ วิจิตรตรานนท์ แกนนำขบวนการประชาธิปไตย และธรรมมาธิปไตยแห่งชาติได้ปีนขึ้นไปบนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีจุดประสงค์เพื่อเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ และให้สถาปนาระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยใหม่ รวมทั้งต้องการให้ศาลสั่งยุบพรรคการเมืองที่มีอยู่ทั้งหมด (ข่าวย้อนหลัง)

 

นายมนัส และ นายองอาจ ยอมปีนลงมาตอนเที่ยงของวันที่ 10 ก.ค. ขณะที่ นายบุญสิน ยังไม่ยอมลงมา พร้อมประกาศว่า จะยอมลงก็ต่อเมื่อได้รับการตอบสนองตามข้อเรียกร้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ต้องนำเบาะลมมากางรองรับ จนล่วงเลยมาถึงเวลาประมาณ 15.20 น. ที่นายบุญสิน ปีนขึ้นไปอยู่บนอนุสาวรีย์นานเกือบ 20 ชั่วโมง และเริ่มมีท่าทีอ่อนแรง เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจปีนขึ้นไปเข้าชาร์ตตัวนายบุญสิน เพราะเกรงว่าจะพลัดตกลงมาด้านล่าง ซึ่งการรวบตัวไปเป็นอย่างปลอดภัย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวนายบุญสินไปสงบสติอารมณ์ และปล่อยตัวไปโดยไม่แจ้งข้อหาใดๆ กับผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท