Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวประชาสังคมอุบลราชธานี - ทัศนีย์ พรสี่ ประธานกลุ่มอาชีพตัดเย็บกระเป๋า กลุ่มผ้ากาบบัวทอมือ ต.ปะอาว อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงยอดการจำหน่ายสินค้าทอมือประเภทผ้าไหม และผ้ากาบบัว ว่า ปีนี้กระแสการซื้อผ้าไหมลดลงจากเดิม แต่ก็ยังจำหน่ายได้เรื่อยๆ เพราะที่นี่เป็นแหล่งผลิตผ้าไหมรายใหญ่ที่มีชื่อเสียงมานาน กลุ่มลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ


 



 


ขณะเดียวกันที่ตำบลปะอาวยังได้ส่งสินค้าประเภทผ้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศด้วย ซึ่งถือได้ว่าผ้าไหมจากบ้านปะอาวกระจายไปตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น ทางด้านสหกรณ์บริการหัตถกรรมบ้านปะอาว จำกัด ศูนย์จำหน่ายสินค้า "หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์" ได้สั่งยอดการทอผ้าไหมเพิ่มเติมเพื่อรองรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และในช่วงเทศกาลจะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เข้ามาศึกษาวิถีชีวิตการทอผ้า รวมทั้งการแปรรูป เนื่องจากที่ตำบลปะอาวจะมีความชำนาญในเรื่องของการผลิต แต่ยังไม่เก่งในเรื่องของการแปรรูปหรือการบรรจุหีบห่อ ซึ่งจะได้มีการแลกเปลี่ยนการทำง่านร่วมกันด้วย


 


นอกจากนี้สินค้าซึ่งเป็นผ้าไหมจากบ้านปะอาวยังมีการนำออกไปจำหน่ายนอกสถานที่ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากธนาคารออมสินสาขา จังหวัดอุบลราชธานี จากการนำสินค้าออกไปจำหน่ายทำให้ทราบว่ากระแสการตอบรับจากลูกค้าที่นิยมผ้าไหมดี ในวัดหนึ่ง ๆ สามารถจำหน่ายได้ถึงเกือบ 5,000 บาท ซึ่งต้องมีการวางแผนการตลาดให้ดีเพื่อผ้าไหมจะจำหน่ายได้ตลอดและเป็นที่นิยมของบุคคลทั่วไป


 


วิไล ทองล้วน สมาชิกกลุ่มทอผ้ากาบบัว ต.ปะอาว กล่าวว่า ที่กลุ่มทอผ้าตำบล ปะอาวถือเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งมานานขึ้นชื่อในเรื่องของการทอผ้าไหม โดยมีลายไหมยอดนิยมได้แก่ ลายดอกแก้ว ดอกพิกุล และผ้ากาบบัว แต่ในปีนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ยอดการจำหน่ายลดลงจากเดิม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทุกคนอยู่กันอย่างพอเพียง ซึ่งสมาชิกในกลุ่มจะทอผ้าเพื่อจำหน่ายให้แก่สหกรณ์ในตำบลอีกทอดหนึ่ง โดยคิดค่าแรงจากคุณภาพของงานที่ทอได้ หากเป็นผ้าประเภทผ้ากาบบัว จะได้ค่าแรงเป็นเงินราคมเมตรละ 70 บาท ผ้ามัดมี่เมตรละ 65 บาท ผ้าลายลูกแก้วเมตรละ 50 บาท มีสมาชิกที่ทอประจำอยู่ที่กลุ่มจำนวน 5 คน แต่เมื่อทอเสร็จจะส่งไปจำหน่ายที่สหกรณ์ประจำตำบลโดยมีราคาเมตรละตั้งแต่ 250 - 1,500 เป็นผ้าไหมด้วย


 


สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ตำบลประอาวจะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาพักค้างคืนและจะมาเรียนรู้การทอผ้าจากชุมชนด้วย ก็เป็นผลพวงที่ช่วงนี้ทางกลุ่มต้องเร่งมือในการทอผ้าแต่ถ้าเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาถือว่ายอดการจำหน่ายลดลงแต่ก็พอทำให้ยอดการจำหน่ายเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งประอาวจะขึ้นชื่อในเรื่องผ้าไหม ทำให้ผู้ที่จะซื้อผ้าไหมต่างก็นึกถึงปะอาวเป็นอันดับแรก


 


ขณะที่ ผิว สอนไชย รองประธานกลุ่มทอผ้า บ้านชีทวน หมู่ 3 ต.ชีทวน กล่าวถึงการเตรียมรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางกลุ่มทอผ้าวัดพระธาตุสวนตาล ตำบลชีทวนซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 7 คน มีการเร่งทอผ้าซึ่งเป็นผ้าด้ายกาบบัวและผ้าไหมให้เพียงพอกับความต้องการ โดยทางกลุ่มจะมีกี่ซึ่งเป็นโครงไม้สำหรับทอผ้าจำนวน 7 หลัง ให้แก่สมาชิก แล้วนำมาแปรูปเป็นเสื้อ กระเป๋า ผ้าถุง และผ้าสำเร็จรูปอื่นๆ ซึ่งได้แนวทางการทำเป็นความรู้มาจากการทดลองทำและเรียนรู้การทำจากทางองค์กรพัฒนาชุมชน


 

ที่ผ่านมาสินค้าส่วนใหญ่จะนำมาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในตำบลชีทวน โดยเฉพาะที่วัดพระธาตุสวนตาลเพราะกลุ่มทอผ้าจะตั้งกลุ่มอยู่ที่วัดแห่งนี้ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่วัดก็จะแวะซื้อของฝากจากกลุ่ม ซึ่งทุกวันนี้ก็เริ่มเป็นที่รู้จัดเพิ่มมากขึ้น และทางกลุ่มเองก็มีองค์การบริหารส่วนตำบลเข้ามาสนับสนุนในเรื่องงบประมาณด้วย สินค้ามีจำหน่ายตั้งแต่ 20 - 200 บาท หากจำหน่ายเป็นผ้าสำเร็จรูปจะจำหน่ายในราคาเมตรละ 100 บาท เป็นลายปลาอีดซึ่งกำลังเป็นที่นิยม และราคาก็เป็นกันเองถือเป็นการสร้างวิสาหกิจชุมชนอีกรูปแบบหนึ่ง ปัจจุบันที่กลุ่มมีเงินหมุนเวียนที่ให้สมาชิกได้หยิบยืมได้จำนวน 10,000 บาท และเมื่อกลุ่มมีการจำหน่ายสินค้าได้ตามเป้าหมายจะมีการหักเข้ากลุ่มเป็นเงินกองทุนหมุนเวียนต่อร้อยละ 3 และในช่วงสงกรานต์ทางกลุ่มก็มีสินค้าเพียงพอที่จะรองรับกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาอย่างแน่นอน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net