นายศรีราชา เจริญพานิช กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอให้รัฐธรรมนูญควรเปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีมาจากคนนอก

ตามที่หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ 9 เมษายน กรอบเช้า พาดหัวข่าวว่า "ศรีราชา"ถอย ไม่ตื๊อโหวตที่มานายกฯ โดยหนังสือพิมพ์มติชนได้ตีพิมพ์คำพูดของนายปกรณ์ ปรียากรณ์ โฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า

"...การลงมติในวันที่ 10 เมษายน มีประมาณ 20 ประเด็น เช่น การเลือกตั้ง ส.ส. เรื่องของ ส.ว. และเรื่องอื่นๆ ที่มีการสงวนในเรื่องถ้อยคำไว้ แต่เมื่อ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญหารือกัน อาจจะเหลือไม่กี่ประเด็นที่จะต้องลงมติ ขณะนี้กำลังสรุปอยู่ว่าประเด็นไหนจะต้องลงมติกันบ้าง

"เรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีนั้น เท่าที่คุยกับนายศรีราชา เจริญพานิช ซึ่งเป็นผู้เสนอว่าไม่จำเป็นต้องบัญญัติให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. อาจจะไม่ต้องมีการลงมติอีกในวันที่ 10 เมษายน และหากนายศรีราชายังติดใจให้มีการลงมติ ก็มั่นใจว่าจะมีเพียงนายศรีราชาเพียงหนึ่งเสียงเท่านั้นที่จะไม่ให้มีการบัญญัติให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส. แทบจะหนึ่งเสียงเท่านั้น ส่วน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญคนอื่นๆ เห็นด้วยที่จะให้บัญญัติว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส." …"

จดหมายชี้แจงของนายศรีราชา เจริญพานิช

ล่าสุดในช่วงบ่าย ของการประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในวันนี้นั้น นายคมสัน โพธิ์คง กรรมาธิการฯ ได้นำจดหมายของนายศรีราชา เจริญพานิช ที่เขียนด้วยลายมือถึงนสพ.มติชนมาให้ผู้สื่อข่าวสังกัดมติชนที่รายงานข่าวคณะกรรมาธิการฯ ที่บางแสน จ.ชลบุรี เพื่อยืนยันว่า ไม่ได้ถอยที่จะผลักดันให้ลงมติเปิดช่องนายกฯมาจากคนนอกในร่างรัฐธรรมนูญได้ โดยเนื้อหาระบุว่า

"ตามที่ นสพ. มติชนฉบับวันจันทร์ที่ 9 เมษายน ได้ลงข่าวในหน้าหนึ่งว่า "ศรีราชาถอย" เมื่อผมพลิกดูหน้าเนื้อในแล้ว เป็นการเอาเนื้อความจากอาจารย์ปกรณ์ ปรียากร โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างให้สัมภาษณ์ไปแปลความว่า ผมยอมโอนเรื่องให้ตัดมาตรา 180 วรรคสองออกจากร่างรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องมีการลงมติ ซึ่งผมเองไม่เคยพูดว่า ยอมถอยเลยและยังยืนยันว่า จะให้ลงมติในประเด็นนี้ในวันที่ 10 เมษายนนี้ (เน้นโดยนายศรีราชาเอง) และผมยังเชื่อว่า จะมีคะแนนเสียงแพ้ชนะก้ำกึ่งกันด้วยซ้ำ จึงเรียนมาเพื่อขอให้แก้ข่าวลงให้ถูกต้อง จักขอบคุณยิ่ง (ลงลายมือชื่อ) ศรีราชา เจริญพานิช วันที่ 9 เมษายน 2550 เวลา 15.00 น."