วันนี้ (4 เม.ย.50) เวลา 15.00 น. ที่ห้องราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์ สมาพันธ์ต้านรัฐประหารที่เกิดจากความร่วมมือของ 12 กลุ่มต่อต้านการรัฐประหาร ได้ร่วมกันแถลงข่าวเรื่องกิจกรรมการต้านรัฐประหาร และกิจกรรม "15 ปี พฤษภา 35 ทวงคืนประชาธิปไตย คมช.ออกไป"

ในช่วงต้น นายแพทย์เหวง โตจิราการ กล่าวแถลงตอบโต้ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่ออกมากล่าวหาคนที่ต่อต้านรัฐประหารว่า เป็นพวกระบอบทักษิณ ได้รับท่อน้ำเลี้ยงจากอำนาจเก่า นายแพทย์เหวงอ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ของนายสุริยะใส กตะศิลา ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐวันที่ 3 เม.ย. ว่าควรจะต้องมีการปฏิวัติซ้ำ เพื่อจะถอดนายกสุรยุทธ์ออกจากตำแหน่ง และนายพิภพ ธงไชยในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ วันที่ 2 เม.ย. ที่บอกว่าสถานการณ์ที่ผ่านมา ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรัฐประหาร ซึ่งถือเป็นการออกมายั่วยุ สนับสนุนให้มีการรัฐประหารซ้ำ และกล่าวโจมตีการที่สมาชิกพันธมิตรเข้าไปดำรงตำแหน่งต่างๆ ในองค์กรที่คณะรัฐประหารจัดตั้งขึ้น

"ในวันนี้กลุ่มพันธมิตรตั้งใจใส่ร้ายป้ายสี ว่าเราเป็นท่อน้ำเลี้ยงของทักษิณ เรายืนยันว่าวิถีทางประชาธิปไตยมีทางออกเสมอ ไม่จำเป็นต้องรัฐประหาร พวกพันธมิตรมีจิตวิญญาณธาตุแท้ของทรราชย์ แต่สวมเสื้อคลุมประชาธิปไตย เห็นว่ารัฐประหารเป็นทางออกเดียว นี่เป็นสาเหตุให้เราตั้งชื่อเขาใหม่ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อรัฐประหาร" นายแพทย์เหวงกล่าว

เขาชี้ว่าพันธมิตรประชาชนได้ดำเนินการเพื่อให้นายทหารเข้ามาแทรกแซง ทั้งการที่นายสนธินำขบวนไปพบพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ที่กองทัพบกเมื่อตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 เรียกร้องให้ทหารเข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งน่าจะหมายถึงให้ทหารทำรัฐประหาร บนเวทีพันธมิตรก็มีการกล่าวเรียกร้องให้ทหารเข้ามารัฐประหาร หรือข้อเขียนของนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สองสามสัปดาห์ก่อนการรัฐประหารในเนชั่นสุดสัปดาห์ก็จะเห็นเค้าลางของการรัฐประหารได้ชัดเจน  

จากนั้นนายแพทย์เหวงกล่าวถึงการจัดงานร่วมกันของ 12 องค์กรต้านรัฐประหารในวันที่ 7 เมษายน ว่าได้ขอใช้เวทีของกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ โดยทั้ง 12 กลุ่มจะร่วมกันปราศรัยทางการเมืองที่สนามหลวงเวลา 17.30-22.00น. เพื่อประกาศท่าทีที่มีต่อรัฐธรรมนูญต่อประชาชนไทยทั่วประเทศว่า "รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน 2540 ย่อมดีกว่ารัฐธรรมนูญฉบับประสงค์ สุ่นศิริ 2550 อย่างแน่นอน" เพราะรัฐธรรมนูญ 2550 จะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการปกป้องปีศาจแห่งการรัฐประหาร

เขากล่าวต่อถึงการจัดงาน "15 ปีพฤษภา ทวงคืนประชาธิปไตย คมช.ออกไป" โดยยืนยันว่าองค์กรที่ไปสยบยอม หรือเข้าร่วมกับการรัฐประหาร ไม่มีสิทธิเข้าร่วมในการจัดงานรำลึกพฤษภาประชาธรรมนี้ ซึ่งการจัดงานจะมี 3 วันคือ

วันที่ 17 พฤษภาคม 50 มีพิธีทางศาสนาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่เวลา 06.00 น. จากนั้นมีการปราศรัยของ 12 องค์กรต้านรัฐประหาร

วันที่ 18 พฤษภาคม 50 มีปาฐกถาทางวิชาการเวลา 13.00 น.ที่ธรรมศาสตร์ และการแสดงดนตรีต้านรัฐประหารในเวลา 17.00 น.

วันที่ 19 พฤษภาคม 50 อภิปรายในช่วงเช้า เรื่องการชำแหละคนเดือนพฤษภาคมที่เปลี่ยนอุดมการณ์ไปรับใช้รัฐประหาร ช่วงบ่ายเรื่อง "ชะตากรรมของการรัฐประหาร 19 กันยา" และการฉายวีดีทัศน์เรื่อง "บันทึกสีดำ" เกี่ยวกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ จากนั้นจะเดินขบวนจากสนามหลวงไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเวลา 17.00 น.

นอกจากนั้นยังมีการแถลงถึงกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารที่ทั้ง 12 กลุ่มร่วมกันจัดอีกมาก ได้แก่ การล่ารายชื่อไม่เอา ไม่รับ ไม่ปลื้ม รัฐธรรมนูญ 2550 ของกลุ่มพลเมืองภิวัตน์ ที่จะล่าเพิ่มจาก 50,000 ชื่อเป็น 1,000,000 ชื่อ  เครือข่าย 19 กันยา นำการชุมนุมหน้ารัฐสภาในวันที่ 19 เม.ย. จัดเสวนาชำแหละรัฐธรรมนูญ คมช. วันที่ 25 เม.ย. และนำชุมนุมที่สนามหลวงเพื่อต้านรัฐธรรมนูญในวันที่ 29 เม.ย. รวมทั้งพันธมิตรสหภาพแรงงานนำกรรมกร 2,000 คนร่วมแต่งชุดดำไว้อาลัยในวันที่ 1 พฤษภาคม และเปิดการประชุมสมัชชากรรมกรคว่ำรัฐธรรมนูญด้วย  โดยรายละเอียดงานต่างๆ นั้นสามารถติดตามได้ต่อไป

ทั้งนี้ 12 กลุ่มต่อต้านรัฐประหารประกอบด้วย กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เครือข่ายกลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ กลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ 2540 กลุ่มกรรมกรปฎิรูป กลุ่มคนจนเมืองเพื่อประชาธิปไตย เครือข่าย 19 กันยาฯ ต้านรัฐประหาร สมาพันธ์ประชาธิปไตย มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย พันธมิตรสหภาพแรงงานประชาธิปไตย สมาพันธ์แนวร่วมประชาธิปไตยอีสาน สมาพันธ์คนรักประเทศไทย และสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอตัดเย็บเสื้อผ้า