Skip to main content
sharethis






การเมือง


"สุรยุทธ์"แจงสื่อยุ่น ชี้ 5ปีทักษิณมีแต่เรื่องโกง


คมชัดลึก -  นับเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แถลงต่อสาธารณะวิพากษ์วิจารณ์การบริหารประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า สร้างความเสียหายให้แก่ชาติบ้านเมืองอย่างรุนแรง



พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวสุนทรพจน์หัวข้อ "ญี่ปุ่นและไทย การเฉลิมฉลองยุคใหม่แห่งความเป็นหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้นและยั่งยืนตอนหนึ่งว่า  "ต้นเหตุที่ก่อให้เกิดการแทรกแซงทางทหารคือ การรวบอำนาจทางการเมืองและทางการเงินของคุณทักษิณในช่วง 5 ปีขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ข้อกล่าวหาการใช้อำนาจในทางที่ผิด การคอรัปชั่นอย่างกว้างขวาง การจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชน และประวัติด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นการหายนะในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่มีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ การเลือกตั้งทั่วไปถูกต่อต้านโดยฝ่ายค้านและท้ายที่สุด ศาลได้ตัดสินให้การเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะ มีการเดินขบวนประท้วงเพื่อต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ในกรุงเทพฯ เกือบทุกวัน ระบบการตรวจสอบและคานความสมดุลถูกบั่นทอน และดูเสมือนว่าเครื่องมือต่างๆ ภายใต้รัฐธรรมนูญเพื่อผ่าทางตันทางการเมืองได้ใช้ไปหมดแล้ว"



ดังนั้นทหารจึงได้ประกาศช่วงพักเวลา โดยเป็นระยะเวลาที่จำกัดและมีจุดมุ่งหมายที่แน่ชัดและภายในเวลา 30 วัน ประเทศไทยก็มีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มีรัฐบาลชั่วคราวซึ่งมีแนวนโยบายที่ชัดเจน เชื่อว่าการแทรกแซงครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน ซึ่งก็เห็นได้ว่า การกระทำดังกล่าวยังได้รับการยอมรับจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ดังจะเห็นได้จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนภายหลังการเกิดเหตุการณ์ไม่นานนัก



นายกรัฐมนตรียังได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการเดินทางกลับประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่าพ.ต.ท.ทักษิณ สามารถกลับประเทศไทยได้ แต่ในฐานะที่เป็นคนก่อปัญหาใหญ่หลวงให้แก่ประเทศ คิดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะกลับมา ทั้งยังสามารถพูดได้ว่าใกล้ถึงเวลาที่จะปิดฉากอนาคตของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว



อดีตเลขาฯ"ป๋าเปรม"ยัวะกลุ่มต้าน แขวะรัฐบาล"ฤาษีเซื่องซึม-ไร้น้ำยา"


แนวหน้า - น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวล่ารายชื่อถวายฎีกาเพื่อถอดถอน พล.อ.เปรม ออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรี ว่า เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะเป็นเจตนาที่ต้องการทำให้เกิดความเสียหายและสร้างความเสื่อมเสีย เพราะตำแหน่งประธานองคมนตรีนั้นไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง เนื่องจากได้รับการแต่งตั้งจากพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ดังนั้น คนที่ดำเนินการอะไรต้องทำอย่างระมัดระวัง อยากมองว่าเป็นเพราะความอ่อนแอ ความไม่เด็ดขาดในการบริหารของรัฐบาล จึงทำให้ได้ใจและเหิมเกริมกันมากขึ้นเป็นการทดสอบทีละก้าวๆ แล้วรัฐบาลก็ปล่อยปละละเลย อีกหน่อยก็ลามปามกันไปใหญ่น่าจะต้องใช้ความเด็ดขาดมากกว่านี้


 


จี้รัฐรับผิดชอบเซ็น"เจเทปา" เงินญี่ปุ่นจ่อลงทุน4หมื่นล.


เว็บไซต์คมชัดลึก - ศ.เสน่ห์ จามาริก ประธานกรรมการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงการลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 เมษายนนี้ว่า รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต่อการลงนามครั้งนี้ เพราะกระบวนการและขั้นตอนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบต่อประชาชนและประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศไปสู่เศรษฐกิจพอเพียงที่แท้จริงอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต



"ที่ผ่านมาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ได้มีการท้วงติงไปถึงรัฐบาลแล้ว โดยเฉพาะการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งพบว่ามีการจัดทำแบบแอบแฝงรวบรัดของกระทรวงการต่างประเทศ ขณะเดียวกันยังเร่งรีบนำเสนอร่างเข้าสู่ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และรัฐบาลไม่ได้พิจารณาข้อเรียกร้องที่ให้ทบทวน 2 ประเด็นหลักคือ ขยะมลพิษ และสิทธิบัตรจุลชีพ" ศ.เสน่ห์ กล่าว



เกย์จี้แก้ก.ม.ข่มขืนเอาผิดถูกกดขี่ล่วงล้ำประตูหลัง


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายนที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับการข่มขืนของประเทศไทย บัญญัติการข่มขืนที่หมายรวมเฉพาะการล่วงล้ำโดยใช้อวัยวะเพศเพียง 2 อย่าง คือ องคชาตกับโยนี หรืออวัยวะเพศผู้หญิงเท่านั้น แต่ในสภาพความเป็นจริงปรากฏว่ามีกลุ่มเกย์หรือเพศที่สาม ถูกกระทำชำเราแต่ตามกฎหมายจะถือว่าไม่เข้าข่ายการถูกข่มขืน แม้จะตกเป็นผู้ถูกกระทำโดยตรงก็ตาม



นายนที กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มเกย์การเมืองไทย กลุ่มบางกอกเรนโบว์ กลุ่มแสงจากใจ กลุ่มบ้านสีม่วงและเครือข่ายพันธมิตรซึ่งเป็นองค์กรเกย์ทั่วประเทศ ได้ประชุมหารือกันจนได้ข้อสรุปว่า ควรจะมีการแก้กฎหมายมาตรา 276 ให้ครอบคลุมการถูกล่วงล้ำทางเพศเพิ่มเติมในอีก 4 ส่วน คือ รวมการล่วงล้ำอวัยวะเพศหญิงเทียมในกรณีของสาวประเภทสอง ที่ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว การขืนใจเกย์และผู้หญิง โดยใช้องคชาตล่วงล้ำทางทวารหนัก การจี้บังคับให้ชายหรือหญิง สำเร็จความใคร่ด้วยปาก หรือออรัลเซ็กส์ ให้โดยไม่ยินยอม รวมถึงกรณีของการขืนใจโดยใช้อุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่องคชาต เช่น เครื่องเพศเทียม มะเขือยาว กล้วยหอมในการสอดใส่ในภาวะที่ผู้เสียหายไม่จำยอมด้วย



จากข้อมูลการเปิดสายด่วน 08-1524-5245 และ 08-5031-7202 ของ "กุลเกย์" รับแจ้งข้อมูลปัญหาจากสมาชิกชาวเกย์ในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาพบว่า สถานการณ์เกย์และสาวประเภทสองถูกล่วงละเมิดทางเพศในลักษณะต่างๆ  มีแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้น โดยผู้เสียหายไม่สามารถแจ้งความเอาผิดต่อคนร้ายในข้อหาข่มขืนได้เพราะตำรวจจะรับแจ้งเพียงข้อหาทำร้ายร่างกายเท่านั้นซึ่งมีโทษเบากว่าข้อหาข่มขืน


 


ปัดตั้งธงคำตอบนิติฯ"พงศ์เทพ"ชี้สอบอิงเรื่องปัจจุบัน


คมชัดลึก - นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ชี้แจงกรณีเป็นอาจารย์พิเศษคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้ร่วมออกข้อสอบ "หลักวิชากฎหมาย" ของคณะ โดยตั้งคำถามให้นักศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับจริยธรรมของผู้พิพากษาที่ทำงานให้คณะปฏิวัติโดยมีตำแหน่งใน ป.ป.ช.และ คตส.ว่า การตั้งคำถามไม่ได้มีธงให้นักศึกษาตอบ เพราะต้องการให้นักศึกษาคิดและวิเคราะห์ โดยยกเหตุผลมาประกอบ ซึ่งได้ให้นักศึกษาดูว่าสิ่งที่ทำส่งเสริมหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการทำหน้าที่ในตุลาการยุติธรรมหรือไม่







เศรษฐกิจ


'สุรยุทธ์'ลงนามไม่สนต้าน FTA NGOรุมจวกยับ


ไทยโพสต์ -สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอังคาร  นายกรัฐมนตรีชินโซะ  อาเบะ  แห่งญี่ปุ่น  และ  พล.อ.สุรยุทธ์  จุลานนท์  นายกรัฐมนตรี  ได้ลงนามความตกลงการค้าเสรีไทย-ญี่ปุ่นแล้ว  ภายหลังคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นได้อนุมัติความตกลงฉบับนี้ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน



กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นแถลงว่า  ความตกลงนี้จะเร่งการเปิดเสรีการค้าและการลงทุน  รวมทั้งขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งสอง รัฐบาลของ  พล.อ.สุรยุทธ์  จุลานนท์  ได้อนุมัติข้อตกลงนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  โดยหวังว่าข้อตกลงกับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดนี้จะช่วยคลายความวิตกกังวลในหมู่นักธุรกิจเกี่ยวกับนโยบายปกป้องตลาดหลังการรัฐประหารของไทย



รัฐบาลญี่ปุ่นบอกว่า  ไม่ได้เพิกเฉยต่อข้อวิตกเกี่ยวกับประชาธิปไตยในประเทศไทย  รายงานระบุว่า  นายกรัฐมนตรีอาเบะได้กล่าวต่อ  พล.อ.สุรยุทธ์ว่า  ญี่ปุ่นเฝ้าจับตาดูการหวนคืนสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยของไทยอย่างใกล้ชิด



 


ยืดอายุแวต7%อีก1ปี คลังงมเข็มกระตุ้นศก.


ผู้จัดการรายวัน -- นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จะยังคงเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไว้ที่ระดับ 7% หลังจากที่ได้ผ่อนผันการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 10% ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2550 ไปอีกอย่างน้อยเป็นเวลา 1 ปี เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งในขณะนี้ทางกรมสรรพากรอยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดดังกล่าวอยู่และจะนำเสนอให้แก่นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาภายในเดือนเม.ย.นี้


 


 







คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม


 


แฉฮ่อยจ๊อได้"ฮาลาล"เนื้อหมูปนจี้เอาผิดบริษัทละเมิดมุสลิม


เว็บไซต์คมชัดลึก - พบมีการใช้ช่องทางพิเศษโดยไม่ผ่านกลไกการพิจารณาของคณะกรรมการ จี้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมนำตัวผู้ทำผิดมาลงโทษ ระบุเป็นการทำละเมิดต่อพี่น้องมุสลิมอย่างร้ายแรง เผยสิ่งปกติสินค้าทุกชนิดมีตรารับรองฮาลาลหมายเลขเดียวกัน



เมื่อวันที่ 3 เมษายน รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล และคณบดีคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะกรรมการฝ่ายกิจการฮาลาล ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการฝ่ายกิจการฮาลาล เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดกลไกการบริหารงานในการออกเครื่องหมายรับรองฮาลาล (สินค้าที่ได้ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย) จากสำนักกิจการฮาลาลให้แก่ผลิตภัณฑ์ "ฮ่อยจ๊อปู" ของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่มีสารเนื้อและไขมันสุกรปนเปื้อนอย่างชัดเจน



รศ.ดร.วินัย ชี้แจงในใบลาออกด้วยว่า คณะกรรมการฝ่ายกิจการฮาลาลรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกือบ 1 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ใดทราบมาก่อนว่า การขอรับรองฮาลาลของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยมีช่องทางพิเศษ ซึ่งดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ กระทั่งกลายเป็นช่องทางปกติที่ถือปฏิบัติกันมานาน



 อย่างไรก็ตาม ม ความผิดพลาดในกลไกบริหารดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้แก่องค์กรสูงสุดในศาสนาอิสลามของประเทศ ทางคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการสอบสวนสาเหตุ ทั้งนี้แม้ฝ่ายกิจการฮาลาลจะไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เชื่อมั่นว่า คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย จะดำเนินการเอาผิดต่อบริษัทและผู้ที่เกี่ยวข้องที่กระทำละเมิดต่อพี่น้องมุสลิมในครั้งนี้



เตือนภัยมลภาวะเป็นพิษในเมือง ร้ายแรงกว่า รง.นุกเชอร์โนบิลระเบิด


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายจิม สมิธ นักวิทยาศาสตร์ประจำศูนย์นิเวศวิทยาและอุทกวิทยา ในเมืองดอร์เชสเตอร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เผยผลการศึกษาเมื่อ 3 เม.ย. เตือนว่า มลภาวะทางอากาศในเมืองใหญ่ๆ ทำลายสุขภาพของประชาชน ทำให้มีอายุสั้นลงกว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ถูกส่งเข้าไปในบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลที่เกิดระเบิดในยูเครน เมื่อปี 2529 และบรรดาผู้ที่ลักลอบเข้าไปสร้างบ้านเรือนในเขตนั้นเสียอีก



นายสมิธ สรุปว่า แม้ผู้ที่อยู่รอบโรงงานเชอร์โนบิลมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็ง เพราะได้รับรังสีที่รุนแรงกว่ารังสีเอกซเรย์หน้าอกกว่า 12,000 เท่า แต่อันตรายจากมลภาวะทางอากาศ โรคอ้วน การสูบบุหรี่ และสูดดมควันบุหรี่นั้นรุนแรงกว่า นอกจากนี้ ดร.สมิธ ยังได้คำนวณอัตราการตายของผู้ที่รอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐ ในเมืองฮิโรชิมา และเมืองนางาซากิ ในญี่ปุ่น พบว่าต่ำกว่าผู้ที่เป็นโรคอ้วนและผู้สูบบุหรี่



"กุหลาบดำ"ผงาด แชมป์มวยหญิงโลกคนแรกของไทย


ผู้จัดการออนไลน์ --ได้แชมป์โลกฝ่ายหญิงคนแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจาก แซมซั่น ส.ศิริพร หรือ ศิริพร ทวีศักดิ์ ชนะคะแนนในการขึ้นชกกับ "นินจาสาว" อายากะ มิยาโนะ นักชกชาวญี่ปุ่นไปแบบเอกฉันท์ คว้าแชมป์รุ่นไลท์ฟลายเวทของดับเบิ้ลยูบีซี เมื่อเย็นวันอังคารที่ 3 เมษายนที่ผ่านมาเป็นแชมเปี้ยนหญิงคนแรกแห่งแดนสยามอีกด้วย ซึ่งหลังการชก เจ้าตัวก็ได้กล่าวขอบคุณกรมราชทัณฑ์ที่ให้โอกาส รวมไปถึงบรรดาแฟนมวยที่มาให้กำลังใจในวันนี้


 







ต่างประเทศ


 


ศาลสูงวินิจฉัยแย้ง'บุช'คุมโลกร้อน



ไทยโพสต์ -รัฐบาลบุชพ่ายแพ้ครั้งใหญ่  ศาลสูงสุดวินิจฉัยว่าหน่วยงานสิ่งแวดล้อมของสหรัฐมีอำนาจควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หลังทำเนียบขาวยันใช้นโยบายให้เอกชนลดก๊าซโดยสมัครใจเพราะเกรงกระทบเศรษฐกิจ



ทั้งนี้  ศาลฎีกาของสหรัฐได้ลงมติด้วยคะแนน  5  ต่อ  4  แจ้งให้องค์การพิทักษ์สภาพแวดล้อมของสหรัฐ(อีพีเอ)ทบทวนนโยบายที่จะไม่ควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซอื่นๆ  จากรถยนต์และรถบรรทุกที่ออกใหม่ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง โดยศาลสูงได้วินิจฉัยว่า ก๊าซเรือนกระจกจากยานยนต์เข้าข่ายคำจำกัดความของคำว่ามลพิษทางอากาศ  นับเป็นคดีแรกที่ศาลสูงตัดสินเกี่ยวกับปัญหาโลกร้อน



ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้คัดค้านการบังคับควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยอ้างว่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ  โดยทำเนียบขาวได้ใช้นโยบายลดการปล่อยตามความสมัครใจ  เมื่อปี 2546  อีพีเอปฏิเสธที่จะควบคุมการปล่อยก๊าซดังกล่าวโดยอ้างว่าไม่มีอำนาจตามกฎหมาย  และถึงแม้มีอำนาจก็ไม่สมควรทำและจะกระทบต่อการเจรจาของรัฐบาลบุชกับบรรดาประเทศกำลังพัฒนาเพื่อลดการปล่อย


 


รัสเซียเตือนสหรัฐฯ โจมตี'อิหร่าน'คือความผิดพลาดครั้งใหญ่


ผู้จัดการออนไลน์ -ประธานเสนาธิการทหารรัสเซียวิเคราะห์ว่า สหรัฐฯไม่สามารถทำให้อิหร่านพ่ายแพ้ทางการทหารได้ อีกทั้งการเปิดการโจมตีใดๆ ก็จะกลายเป็นความผิดพลาดทางการเมืองอย่างมโหฬาร อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง เหตุตึงเครียดกรณีเตหะรานจับกุมทหารเรืออังกฤษไป 15 คนทำท่าจะคลี่คลายได้ โดยนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ แห่งอังกฤษ แถลงว่าหนทางเปิดกว้างขึ้นแล้วสำหรับการแก้ปัญหาด้วยวิธีการทูต และช่วง 48 ชั่วโมงข้างหน้าคือช่วงเวลาวิกฤตสำคัญยิ่งยวด


 


ผู้นำมาเลย์ เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินแผนปฎิรูปยูเอ็น


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซีย รายงานอ้างถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี ของมาเลเซีย เรียกร้องให้ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินแผนปฏิรูปสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นองค์กรเดียวในโลกที่สามารถรับประกันระบบพหุภาคี และการแก้ปัญหาต่าง ๆ ของประเทศทั่วโลก ให้สามารถรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มชาติสมาชิกที่มีขนาดเล็กกว่า มีอำนาจน้อยกว่า และเจริญน้อยกว่าได้ดีขึ้น โดยขยายโอกาสให้กลุ่มชาติสมาชิกต่าง ๆ สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจของยูเอ็นได้อย่างกว้างขวาง เพื่อทำให้ยูเอ็นเป็นองค์กรที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น กับการปฏิรูปที่มีจุดประสงค์เพียงเพื่อปรับระบบบริหารการจัดการด้านงบประมาณ การประสานงาน และโครงสร้างภายในยูเอ็นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น พร้อมทั้งระบุว่า พันธกรณีต่อระบบพหุภาคีในประชาคมโลกของชาติสมาชิกยูเอ็นทุกประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มชาติมหาอำนาจ จะเป็นพื้นฐานสำคัญต่อความเป็นหุ้นส่วนที่แท้จริงของนานาประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่สันติภาพและความมั่นคง ตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างแท้จริงทั่วโลก


 







การเมือง


ผู้จัดการ


---


 


"สนธิ"รับนัดพันธมิตรฯหารือประกาศจุดยืน 10 เม.ย.นี้


ผู้จัดการออนไลน์ -    รายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 3 เม.ย. 2550 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ดำเนินรายการร่วมกับนางสโรชา พรอุดมศักดิ์ โดยในช่วงต้นของรายการ นายสนธิได้กล่าวชื่นชม ตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา นำโดยนายนิทัศน์ ศรีดิษฐ์ ที่ได้เดินทางเข้าพบกับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ณ กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก เพื่อมอบกล้องมองภาพในเวลากลางคืนจำนวน 11 ตัว ให้กับทางกองทัพไว้ใช้ในภารกิจในการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


 


หลังจากนั้น นายสนธิได้กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มพีทีวี ซึ่งมีกำหนดจะชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 8 เม.ย.นี้ว่า เห็นด้วยกับสิทธิในการชุมนุม เนื่องจากเป็นสิทธิที่สามารถพึ่งกระทำได้ แต่อยากตั้งข้อสังเกตถึงวัตถุประสงค์ของม็อบพีทีวี การเคลื่อนไหวในวันนี้แตกต่างสิ้นเชิงกับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย


 


นายสนธิ กล่าวว่า พันธมิตรฯชุมนุมเพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศ แต่ม็อบพีทีวีชุมนุมโดยอ้างสิทธิ์ที่ไม่ได้ออกอากาศ เป็นการชุมนุมโดยไม่มีเหตุผล ทั้งๆ ที่พีทีวีสามารถยื่นเรื่องให้ศาลปกครองพิจารณาได้ แต่ก็ไม่ทำ ไม่อยากพูดว่า การชุมนุมของม็อบพีทีวีนั้นถ่อย พยามยามก่อกวน ยั่วยุเจ้าหน้าที่รัฐให้ใช้ความรุนแรงเข้าปราบ ไม่ใช่การชุมนุมอย่างสันติ


 


นายสนธิ ยังกล่าวถึงการล่ารายชื่อของกลุ่มคนวันเสาร์ฯ เพื่อยื่นถวายฎีกาถอดถอน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษออกจากตำแหน่ง ว่า คนเหล่านี้พยายามดึง พล.อ.เปรม และ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่คนเหล่านั้นลืมคิดและคงไม่เข้าใจว่า การถอดถอนองคมนตรีนั้น ถือเป็นการละเมิดพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างชัดเจน เป็นการมุ่งเป้าโจมตี พล.อ.เปรมอย่างไร้เหตุผล ตนเห็นแล้วน่าสังเวชเป็นอย่างมาก


         


นายสนธิ ยังเปิดเผยถึงการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ อีกว่า ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน ประกอบด้วยนายสนธิ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ รวมทั้งนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ จะนัดประชุมหารือเพื่อกำหนดจุดยืน และแสดงท่าทีต่อสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ พร้อมกับจะออกแถลงการณ์ถึงการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ทั้งนี้พันธมิตรฯ เชื่อว่า การประชุมในวันนั้น พันธมิตรฯ คงจะมีมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใดออกมา


 


"เหวง"ท่อน้ำเลี้ยงทำงานจี้ตรวจสอบสุรยุทธ์-สนธิ


ผู้จัดการรายวัน - นพ.เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย นำสมาชิก5 ค น มายื่นจดหมายเปิดผนึก ถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้ตรวจสอบเรื่องการจดทะเบียนสมรสซ้อนของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) และตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินในการรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 จำนวน 1,200 ล้านบาท และงบประมาณศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ คมช.อีกจำนวน 555 ล้านบาท


 


นอกจากนี้ นพ.เหวงและพวก ยังได้เตรียมจดหมายเปิดผนึกเพื่อยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และ นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ(คตส.) ให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณ 1,200 และ 555 ล้านบาทดังกล่าว โดยใช้อำนาจตามกฎหมายป.ป.ช. มาตรา 19 วรรค 2 (3) (10) ในการตรวจสอบ และยังเรียกร้องให้ตรวจสอบการถือครองที่ดินบนเขายายเที่ยงของพล.อ.สุรยุทธ์ ด้วย


 


งบฯ1,200 และ 555 ล้านบาท ภาพที่เกิดขึ้นในการรัฐประหาร ไม่มีการใช้อาวุธหรือกำลังในการต่อสู้ มีเพียงค่าเบี้ยเลี้ยงนายทหาร ที่ได้สอบถามพบว่าได้รับคนละ 50 บาทเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องการทราบว่า จำนวนเงินดังกล่าวนำไปใช้อย่างไรบ้าง เพราะหากพล.อ.สนธิ ปฏิเสธการตรวจสอบ โดยอ้างว่าเป็นผู้เสียสละทำการปฏิวัติ ก็จะเท่ากับว่าเป็นผู้กระทำผิดโดยการทุจริตคอร์รัปชั่นเสียเอง


 


ส่วนกรณีที่ดินเขายายเที่ยงเห็นว่าการที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ยอมรับว่า มีการจ่ายภาษีบำรุงท้องที่เท่ากับว่าเป็นการทำผิดกฎหมายแล้ว เพราะการครอบครองพื้นที่ดังกล่าวจะต้องเป็นประชาชนที่เป็นผู้บุกเบิกและอาศัยอยู่ในพื้นที่มาเป็นเวลานาน


 


  "สนธิ"เชื่อ ทรท.ชักใย "เหวง" - จี้นายกฯ พิสูจน์คำพูด หลังถล่ม"แม้ว"ที่ญี่ปุ่น


ผู้จัดการออนไลน์ - ในช่วงที่ 2 ของรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" คืนวันที่ 3 เม.ย. นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวถึงกรณีที่ น.พ.เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า น.พ.เหวง เป็นคนที่ชอบทำเรื่องประเภทนี้ และทำมานานแล้ว


 


"ตอนแรกที่พันธมิตรฯขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่ง น.พ.เหวง เข้ามาในช่วงแรก แต่ตอนหลังถอนตัวไปโดยไม่ยอมร่วมต่อสู้อย่างจริงจัง จึงไม่อยากมองว่า ณ เวลานี้ น.พ.เหวงเป็นพวกฉวยโอกาส แต่เป็นพวกที่ค่อนข้างจะมองอะไรแคบๆ เพราะจะมองประชาธิปไตยแบบกลไก โดยมองเรื่องการเลือกตั้งเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจะไม่สนใจเรื่องการโกงกิน ส่วนครูประทีป อึ้งทรงธรรม ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิดวงประทีป ที่เคยต่อสู้เพื่อคนคลอง แต่การที่คุณประทีปได้เข้ามาทำงาน ก็เพราะไปรับเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ตอนนี้ที่คลองเตย ยาเสพติดทำไมถึงเต็มไปหมด"นายสนธิ ระบุ


      


นายสนธิ ยังกล่าวอีกว่า กรณีที่ครูประทีป ซึ่งเป็นตัวแทนของมูลนิธิฯ ออกมาสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น โดยส่วนตัวแล้วยอมรับไม่ได้ แต่ถ้าเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยที่เคยรับน้ำเลี้ยงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างนั้นพอยอมรับได้ นอกจากนี้ ยังเห็นว่า องค์กรเอกชนส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับ คมช. นั้น ก็ไม่เห็นด้วยกับ พ.ต.ท.ทักษิณเช่นกัน มีแต่ครูประทีปที่สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ และวันนี้ยาเสพติดเต็มคลองเตยไปหมด จึงไม่รู้ว่าครูประทีป บริหารอย่างไร และมีคนบอกว่า คนที่ทำงานอยู่ในมูลนิธิฯของครูประทีป เป็นคนเผยแพร่ยาเสพติดในเวลานี้ ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่


      


นายสนธิ ยังกล่าวถึงสมาพันธ์ประชาธิปไตยว่า สมาพันธ์ฯ ดังกล่าว ตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจเมื่อตอนที่ต่อสู้กับ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เมื่อครั้งเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 จนมาปัจจุบันก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแกนนำ ซึ่งแกนนำบางรายก็เอาชื่อของสมาพันธ์ฯ ไปปฏิบัติภารกิจ โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับตัวของสมาพันธ์ฯ เลย ซึ่งถ้าเทียบกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้ว ยังไม่เคยมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น และพันธมิตรฯ ที่ยุบตัวไป แต่ยังไม่ได้แยกจากกันเด็ดขาด เพราะยังต้องรวมตัวกันเพื่อเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง


   


คมช.สั่งลุยกลุ่มล่าชื่อถอดถอนป๋า ไม่ปฏิวัติซ้ำ-ไม่เลิกประกาศคปค.


ผู้จัดการรายวัน - พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคมช.แถลงผลการประชุม ว่า พล.อ.สนธิ ได้หยิบยกกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมล่ารายชื่อเพื่อขอถอดถอนพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่ง คมช.เห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ ได้บัญญัติให้การแต่งตั้งประธานองคมนตรี เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ การแสดงความคิดเห็น หรือกระทำการใดๆ ที่จะเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการก้าวล่วงพระราชอำนาจจึงถือเป็นการไม่สมควร ดังนั้น คมช.จึงใคร่ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายได้หยุดการกระทำที่ไม่เหมาะสม ซึ่งในที่ประชุมได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่ตนมีอำนาจอยู่


 


ในเรื่องนี้ได้มีการพิจารณาแยกออกเป็น 2 ประเด็นคือ 1. เป็นพระราชอำนาจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้ง ซึ่งใครก็ตามที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ควรจะไปก้าวล่วง 2. ประธานองคมนตรี และคณะองมนตรี เป็นคณะที่อยู่นอกเหนือจากการเมือง ดังนั้นจึงไม่ควรดึงท่านลงมาเกี่ยวกับการเมือง ถ้าฝ่ายใดก็ตาม ที่จะพยายามชี้นำว่าประธานองมนตรีอยู่เบื้องหลังในการปฏิรูปการปกครอง ขอเรียนว่า ไม่เป็นความจริง หากจะโทษว่าใครเป็นต้นเหตุของการปฏิรูปการปกครอง ขอให้โทษมาที่คณะปฏิรูปฯ หรือ คมช.เราพร้อมที่จะรับผิดชอบเอง


         


พ.อ.สรรเสริญ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมือง เรียกร้องให้มีการยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 15 และ 27ว่า ที่ประชุมคมช.ได้มีการหารือถึงเรื่องนี้ โดยคำนึงถึงสถานการณ์ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองโดยรวม เนื่องจากยังมีคณะบุคคลบางกลุ่ม พยายามที่จะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้น ทั้งในเขตกทม.และยังมีความพยายามที่จะนำมวลชนจากต่างจังหวัด เข้ามาร่วมชุมนุมในพื้นที่กทม.


 


ดังนั้น คมช.เห็นว่า น่าจะรอให้รัฐธรรมนูญมีความชัดเจนเสียก่อน ซึ่งคาดว่ารัฐธรรมนูญจะเสร็จในวันที่ 6 ก.ค.นี้ แต่ขอยืนยันว่า ประกาศคปค.ทั้ง 2 ฉบับ จะไม่ส่งผลต่อการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่อย่างแน่นอน


 


พ.อ.สรรเสริญ ได้ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้มีความขัดแย้งระหว่าง นายกรัฐมนตรี และประธาน คมช. ยังมีการสนทนาหารือกันด้วยเหตุและผล ซึ่งมีการคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง เราเสนอมุมมองในแง่ความมั่นคง นายกรัฐมนตรีเสนอข้อมูลในเรื่องขอความมั่นใจของนักลงทุนทางเศรษฐกิจ และภาพโดยรวมของประเทศ และเงื่อนไขในปัจจุบันว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อ คมช.รับฟังแล้วก็เห็นด้วยที่จะยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง เมื่อยังไม่ประกาศก็ยังไม่ประกาศ และสถานการณ์ก็ดีขึ้น


 


เมื่อถามว่า คมช.และ รัฐบาล ยังสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า สามารถทำงานกันได้ด้วยดี และที่ผ่านมา ประธาน คมช.ได้บอกว่า ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีตลอด และเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ไม่ต้องการขยายประเด็นว่า นายกรัฐมนตรี กับ ประธาน คมช.ขัดแย้งกันหรือไม่อย่างไร เพียงแต่พยายามชี้ให้เห็นว่า หากสมมติจะมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารประเทศชาติ เราก็ไม่จำเป็นจะต้องมีการปฏิวัติ เพราะในกรอบของ รธน.เปิดโอกาสให้อยู่แล้ว


 


ด้านนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)กล่าวถึงกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเปิดเว็บไซต์ ล่ารายชื่อประชาชนเพื่อปลดพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรี ว่าหากพิจารณาตามคำสั่งของ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)แล้ว เว็บไซต์ใดที่หมิ่นเหม่ต่อพระบรมเดชานุภาพ หรือเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ กระทรวงไอซีที มีอำนาจปิดได้อยู่แล้ว ได้สั่งเจ้าหน้าที่จับตาดูว่า เว็บไซต์ใดที่เข้าข่ายกระทำความผิดดังกล่าว หรือ เข้าข่ายลามกอนาจาร ให้ปิดโดยอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องรายงานให้ทราบ ตรงนี้เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะพิจารณาโดยรวมทั้งหมด ไม่มีการพิจารณาเว็บไซต์ใดเป็นพิเศษ


         


สมุน "แม้ว" ท้า "สนธิ" แฉท่อน้ำเลี้ยง - ตั้งธงจัดม็อบชำแหละ คมช.


ผู้จัดการออนไลน์ - นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธานกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดชุมนุมครั้งที่ 3 ที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุญาตใช้พื้นที่สนามหลวง เชื่อว่า จะไม่มีปัญหาเหมือนเช่นที่ผ่านมา ถ้าหากปิดสนามหลวงในลักษณะเดิม ก็ถือว่า นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.แย่เต็มที เพราะที่ผ่านมา เห็นแล้วว่าไม่ได้ปิดจริง แต่ทำไปเพื่อไม่ต้องการให้พีทีวีใช้เท่านั้น ส่วนการชุมนุมของพีทีวี 2 ครั้งที่ผ่านมา ก็พิสูจน์แล้วว่า เป็นเวทีของเหตุและผล สำหรับวันที่ 5 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น.ผู้บริหารพีทีวีจะเข้าพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ประสานมา เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนประเด็นต่างๆ แก่กัน และทราบว่า รักษาการ ผบ.ตร.ได้เชิญผู้ชุมุมกลุ่มอื่นๆ เข้าพบในวันและเวลาที่แตกต่างกันออกไปด้วย สำหรับกรณีที่เว็บไซต์กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ รวบรวมรายชื่อเพื่อถวายฎีกาถอดถอน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ออกจากตำแหน่งนั้น พีทีวีแสดงความชัดเจนแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะเอาประเด็นความผิดของคนอื่นมาโยนใส่ให้เราร่วมรับผิดชอบไม่ได้ การเคลื่อนไหวชุมนุมก็ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ถ้าเขาจะมาร่วมรับฟังเวทีพีทีวีเราก็ไปห้ามเขาไม่ได้


      


ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.สถานีโทรทัศน์พีทีวี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดูเนื้อหาสาระที่จะนำไปพูดบนเวทีในวันที่ 8 เม.ย.โดยเราได้ข้อมูลจากผู้ที่ประสงค์ดีกับระบอบประชาธิปไตยหลายเรื่อง ซึ่งเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลของทหารใน คมช.ขณะนี้อยู่ระหว่างการแยกแยะข้อเท็จจริง และตรวจสอบว่าจะเอาพูดไปหรือไม่ จะทำการติดตามและตรวจสอบในฐานะสื่อสารมวลชน ที่ต้องเสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และขัดขวางการกระทำที่มิชอบต่อบ้านเมือง ส่วนกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.ระบุว่า มีการส่งท่อน้ำเลี้ยงให้ม็อบนั้น  ไม่เคยมีพยานหลักฐานใดๆ เลย ประธาน คมช.พูดตีกิน ดิสเครดิตไปวันๆ หากมีข้อมูลอะไรก็ขอให้แสดงออกมา ให้เหมาะสมกับวุฒิภาวะ คนที่กุมชะตากรรมของบ้านเมือง ส่วนตัวอยากถามย้อนกลับเหมือนกันว่า ทำไมขยันพูดแต่เรื่องนี้ทุกวัน แต่หลายเรื่องที่มีข้อมูลหลักฐานชัดเจนกลับไม่มีการดำเนินการ เช่น กรณีการใช้งบทัวร์นอกของ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net