นายวิจิตร สุรกุล กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

ประชาไท - 4 เม.ย. 2550 นายวิจิตร สุรกุล กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ควรกำหนดการมีส่วนร่วมของประชาชนให้มีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญถูกแทรกแซงจากสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญและประชาชน โดยเห็นว่า เมื่อกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้รับมอบอำนาจมาแล้วผู้ที่ได้รับอำนาจมีสิทธิในการดำเนินการต่างๆ ขณะเดียวกันผู้มอบอำนาจก็จะไม่เข้ามาแทรกแซง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแทรกแซงในที่นี้คือการรับฟังความคิดเห็นจากส.ส.ร.และประชาชนหรือไม่ นายวิจิตรกล่าวว่า ใช่เพราะการแสดงความคิดเห็นจะส่งผลให้กระบวนการทำงานรวนไม่เป็นไปตามระบบที่วางไว้ ซึ่งหลักการบริหารที่ดี หมายถึง ผู้มอบอำนาจจะต้องมอบอำนาจอย่างสมบูรณ์ โดยการไม่เข้าแทรกแซง และต้องสนับสนุนการทำงานไม่เข้าไปก้าวก่าย

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าควรจะมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นต่อไปหรือไม่ นายวิจิตรกล่าวว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวบัญญัติไว้อย่างนั้น แต่กระบวนการเช่นนี้จะทำให้ความคิดเห็นแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ดังนั้นควรมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อน แล้วนำความคิดเห็นที่เป็นข้อมูลดิบส่งให้กรรมาธิการยกร่าง จากนั้นกรรมาธิการก็จะนำไปพิจารณาประกอบกับทฤษฎีและหลักการต่างๆ ที่ได้ศึกษาค้นคว้ามาเป็นอย่างดี แล้วว่าหลักการของรัฐธรรมนูญว่าจะต้องทำอย่างนี้

"การรับฟังอย่างนี้จะเกิดการลังเลได้ กรรมาธิการต้องยึดมั่นในหลักการ เดี๋ยวต้องไปฟังความคิดเห็นของม็อบอีกก็จะเกิดปัญหา ว่าจะเอายังไงกันแน่ พอกรรมาธิการลงมติว่าเอาอย่านี้ รับหลักการแล้วเปิดใช้รัฐธรรมนูญได้แล้ว ฝ่ายประชาชนบอกว่าไม่เอามันไม่เข้าตา อย่างนี้เรียกว่าเป็นอำนาจคู่มันก็เป็นปัญหา"นายวิจิตรกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมันจะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความชอบธรรมมากขึ้น นายวิจิตร กล่าวว่า ต้องดูว่าความคิดเห็นที่ประชาชนเสนอเข้าหลักการหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้มีกฎเกณฑ์มีทฤษฎี และมีศึกษามาเป็นพันๆ ปีแล้ว อย่างประเด็นปาร์ตี้ลิสต์ หรือสิทธิการออกเสียงเลือกตั้ง ต้องดูว่ารูปแบบไหนดีที่สุด