Skip to main content
sharethis


 


ประชาไท - 31 มี.ค. 50 เมื่อวันที่ 30 มี.ค. สถานีโทรทัศน์พีทีวีใช้ลานคนเมืองหลังกรุงเทพมหานครไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่สนามหลวงในการชุมนุม การชุมนุมได้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณเวลา 17.00น. มีประชาชนเดินทางมารอฟังการปราศรัยช่วงแรกประมาณ 500 คน


 


ทั้งนี้ ในการชุมนุมมีการตั้งโต๊ะลงชื่อคัดค้านการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และมีกลุ่มคนแจกเอกสารล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาถอดถอน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ออกจากตำแหน่งองคมนตรี ส่วนบนเวทีมีการกล่าวปราศรัย ขณะเดียวกันก็มีผู้มาชุมมากขึ้นเรื่อยๆประมาณ 2,000 - 3,000 คน


  



 


นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตรองโฆษกพรรคไทยรักไทย ปราศรัยบนเวทีว่า พีทีวีตั้งขึ้นมาเพื่อออกอากาศ เหมือนกับ 60 สถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศผ่านดาวเทียม โดยที่ไม่มีช่องไหนขออนุญาตจากกรมประชาสัมพันธ์และ ไม่เคยได้รับอนุญาตจากที่ไหน ทุกช่องออกได้หมด แต่พีทีวีออกอากาศไม่ได้ ประกาศไปเมื่อ 1 มีนาคม ว่าจะต่อสู้เพื่อให้ได้ออกอากาศโดยบอกอย่าทำให้จนตรอก เพราะจนตรอกแล้วจะมาสนามหลวง แต่สุดท้ายก็มาปิดสนามหลวงจนได้


 


การที่เราถอยจากสนามหลวงมาที่ลานคนเมืองนั้น ขอบอก พล.อ.สนธิว่าไม่ได้หมายความว่าจะยอมจำนน แต่ไม่ต้องการให้ พล.อ.สนธิและพวก มาเอาการชุมนุมของพีทีวีเข้ามาสู่อำนาจเองแทนพลเอกสุรยุทธ์ เพราะบรรยากาศเมื่อวานนี้ทำกันอย่างกับประชุมเพื่อที่จะวางแผนประกาศภาวะฉุกเฉินทั้งที่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ประเทศไทยจะเป็นประเทศเดียวเท่านั้นที่ประกาศภาวะฉุกเฉินเพราะกลัวม็อบพีทีวีจะพูดเรื่องสมรสซ้อน


 



 


ส่วน นายจักรภพ เพ็ญแข ปราศรัยยอมรับว่าไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศจีน แต่ไม่มีนัยอะไร แค่เดินทางไปลา เพียงอยากรู้ความเป็นอยู่ และยืนยันว่าจะไปอีก นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าการรัฐประหาร 19 กันยา นั้น หากเทียบกับอาชญากรรมทั้งหลายแล้วเป็นการปล้นครั้งใหญ่ที่สุด


 


ทั้งนี้ เวลาผ่านไปเพียง 7 วัน จากการชุมนุมของพีทีวี เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่สนามหลวง เผด็จการทุกคนตั้งตัวไม่ติดและหาทางสกัดกั้นประชาชนไม่ให้ออกมาแสดงความเป็นเจ้าของประเทศ แต่ไม่มีอะไรกั้นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้ และจะออกมาชุมนุมเรื่อยๆจนกว่าประชาธิปไตยจะกลับมา


 



 


ระหว่างการปราศรัยของนายจักรภพ ตรงกับเวลาประมาณ 21.00 น. พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพร้อมด้วยคณะเดินเข้ามาใกล้เวที แต่ถูกประชาชนที่มาร่วมชุมนุมตะโกนขับไล่และชุลมุนขึ้นเล็กน้อย ทำให้คณะนายตำรวจต้องล่าถอยไปหน้าศาลาว่าการ กทม.


 



 



 


พล.ต.ท.อดิศร ให้สัมภาษณ์ภายหลังสถานการณ์คลี่คลายลงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการแสดงอารมณ์ของผู้มาร่วมชุมนุม ที่มาเพียงต้องการมาดูแลทุกอย่างให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย แต่เมื่อผู้ชุมนุมอยู่ในภาวะอารมณ์เช่นนั้น และมีนักข่าวเข้ามารุมล้อมจำนวนมากก็ถอยมาเพราะต้องให้คลายอารมณ์ แต่ไม่มีปัญหาอะไร


 


พล.ต.ท.อดิศร ยืนยันว่าจะไม่แจ้งข้อหาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตำรวจนั้นแค่มาดูแลความปลอดภัยและเตรียมการองรับอย่างเป็นขั้นตอน ส่วนการปราศรัยที่พาดพิงถึงบุคคลอื่นนั้นคงต้องดูรายละเอียด ทั้งนี้ก็แล้วแต่เจ้าทุกข์จะแจ้งความร้องทุกข์กันไป


 



 


สำหรับนายวีระ มุสิกพงษ์ ปราศรัยบนเวทีว่า มีการกล่าวว่าพีทีวีนั้นไม่ใช่สื่อ โดยเฉพาะทางเนชั่น กล่าวทั้งสุทธิชัย หยุ่น และเทพชัย หย่อง บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นจากนักการเมืองมาเป็นสื่อ แต่ถามว่าทำอย่างไรจึงจะเรียกว่าสื่อ จากนั้นนายวีระได้เล่าประวัติตัวเองว่าก่อนจะมาเป็นนักการเมืองเคยเป็นนักเขียนหนังสือพิมพ์มาก่อน


 


นอกจากนี้ นายวีระยังโต้กลับในประเด็นหลักการด้วยว่า การบอกว่าพีทีวีเป็นสื่อเทียมที่ทำงานให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สื่ออื่นก็ล้วนเป็นสมุนให้การยึดอำนาจทั้งนั้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเปิดพีทีวีคราวนี้เป็นความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเป็นสื่อ หากินโดยสุจริต หากไม่พอใจเมื่อเอาอิสระภาพไปแล้วจะเอาชีวิตไปด้วยก็ได้


 


นายวีระ ยังคาดการสถานการณ์การเมืองในอนาคตด้วยว่า เริ่มเห็นรอยร้าวระหว่าง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติและจะมีมากขึ้นจากท่าทีที่ต่างกันในการพิจารณาประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถาการณ์ฉุกเฉิน 2548 มาใช้ควบคุมการชุมนุมพีทีวี และขอให้ติดตามดูกันต่อไป


 


ผู้ดำเนินรายการบนเวที ได้ชี้แจงด้วยว่า การล่ารายชื่อถวายฎีกาเพื่อขับไล่ พล.อ.เปรม จากการเป็นองคมนตรีนั้น ทางพีทีวีไม่ใช่ผู้ดำเนินการและไม่ใช่เจตนารมณ์การก่อตั้งพีทีวี เพียงแต่ถ้าใครจะทำก็ไม่อาจควบคุมได้เพราะพื้นที่กว้าง


 


เว็บไซต์ไทยโพสต์รายงานให้ข้อมูลว่าเอกสารดังกล่าวจัดทำโดย นายนพพร นามเชียงใต้ แกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า จัดทำทั้งหมด 1 หมื่นแผ่น และวันนี้มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วนับพันราย


 


ผู้ดำเนินรายการคนเดิมกล่าวอีกว่า คลื่นวิทยุชุมชน 97.25 ถูกล็อกคลื่นอีกแล้ว หลังจากสัปดาห์ก่อนที่ชุมนุมกันที่สนามหลวงก็เคยโดนล็อกสัญญาณแล้วครั้งหนึ่ง คาดว่าตราบใดที่เป็นเผด็จการคลื่นนี้จะถูกล็อกทุกครั้งที่พีทีวีชุมนุม


 


 


 


สำหรับสภาพทั่วไป เวทีปราศรัยของกลุ่มพีทีวีตั้งเวทีหันหน้าไปทางวัดสุทัศน์ฯ ติดตั้งเครื่องขยายเสียง มีไฟส่องสว่าง และบันทึกเทปการปราศรัย มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำแผงเหล็กมากั้นรอบลานคนเมือง อย่างไรก็ตามทางกรุงเทพมหานครได้นำรถขยะประมาณ 10 คันมาจอดไว้โดยรอบทำให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมค่อนข้างไม่พอใจกับวิธีการดังกล่าว


 


ส่วนผู้ร่วมชุมนุมแทบทั้งหมดประกอบด้วย กลุ่มพีทีวีเป็นหลัก ส่วนทางกลุ่มภิวัฒน์พลเมืองหรือ "ไทยเซย์โน" ซึ่งเคลื่อนไหวด้านการไม่ยอมรับการร่างรัฐธรรมนูญ มาตั้งโต๊ะให้ประชาชนร่วมลงชื่อไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กลุ่มพิราบขาวต่อต้านรัฐประหาร และกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ เป็นต้น


 


ส่วนกลุ่ม 19 กันยา ต้านรัฐประหาร ยืนยันว่ามาสังเกตการณ์ และจะมีการจัดเวทีวิชาการเกี่ยวกับเรื่องการฟื้นของอมาตยาธิปไตย ในวันที่ 1 เมษายน เวลา 14.00 น. ณ โรงแรมรอยัลรัตนโกสินทร์


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net