ไม่มีใครบอกได้ว่าศิลปินจัดนิทรรศการเพราะ "อยากมี" ชื่อเสียง หรือศิลปินจำเป็น "ต้องมี" ชื่อเสียง จึงจะสามารถจัดนิทรรศการแสดงผลงานในนามของตัวเองได้
แต่สิ่งหนึ่งที่คนเสพศิลปะมองเห็นอย่างง่ายดายก็คือความจริงที่ว่า "ชื่อเสียง" ของศิลปิน มีอิทธิพลต่อการรับรู้และชื่นชมผลงานศิลปะ (ของคนดู) อย่างยิ่ง
ผลงานของจักรพันธุ์ โปษยกฤต, ถวัลย์ ดัชนี หรือ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ฯลฯ รวมถึงศิลปินระดับชาติคนอื่นๆ ย่อมเป็นที่สนใจมากกว่าผลงานของศิลปินหน้าใหม่ที่ยังไม่มีผลงานโดดเด่น หรือถึงแม้จะโดดเด่น แต่คนที่สะสมผลงานศิลปะอาจยังไม่คุ้นชื่อ ผลงานของศิลปินหน้าใหม่ก็อาจจะไม่ได้รับความสนใจเท่ากับผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงเรียงนามคุ้นหูคุ้นตากันแล้ว
ว่ากันว่าชื่อเสียงของศิลปินเป็นจุดขายที่ดีในการจัดนิทรรศการ จึงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าชื่อเสียงอันเป็นสิ่งสมมตินั้นมีอิทธิพลอย่างสูงต่อการรับรู้และเสพศิลปะของผู้คนบางกลุ่ม
ศิลปินบางคนอาจมีชื่อเสียงจากการสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง แต่ศิลปินบางคนสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยวิธีการหวือหวาและอาศัยแรงโปรโมตจากบรรดาสื่อมวลชนได้อย่างถูกจังหวะ
หลายครั้งหลายหน ผลงานอันเกิดจากความทุ่มเทของศิลปินบางราย จึงไม่อาจดึงดูดใจคนดู (หรือคนจัดงานนิทรรศการ) ได้มากเท่ากับ "ชื่อเสียง" ที่มีความเกี่ยวข้องกับผลงานศิลปะแต่ละชิ้นน้อยมาก ถ้าหากจะเปรียบเทียบกับแนวคิดหรือตัวตนของศิลปินที่แสดงออกมาในผลงานสักชิ้นหนึ่ง
ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นในแวดวงศิลปะแทบจะทั่วโลก
ที่จริงแล้ว หากว่า "ศิลปะ" คือสุนทรียะที่จำเป็นต่อชีวิตมุนุษย์ ชื่อเสียงเรียงนามของศิลปินผู้สร้างก็ไม่ควรเกี่ยวข้องอะไรกับผลงานที่เสร็จสิ้น เพราะงานแต่ละชิ้นได้บ่งบอกตัวตนและความคิดของศิลปินผู้สร้างผลงานไว้แล้ว
ด้วยแนวคิดเช่นนี้เอง ทำให้ "แองเก้ เบคเกอร์" ศิลปินสาวชาวเยอรมัน ผู้ควบตำแหน่งเจ้าของห้องแสดงภาพ Blutenweiss ณ กรุงเบอร์ลิน จัดนิทรรศการ "ภาพไร้นาม" หรือ Anonymous Drawing ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนธันวาคม 2006 ที่ผ่านมา
นิทรรศการนี้มาจากความต้องการของแองเก้ เบคเกอร์ ที่อยากจะเปิดโอกาสให้ชาวเยอรมันเข้าถึงผลงานศิลปะได้โดยไม่ต้องมีกำแพงแห่งชื่อเสียง (ของศิลปิน) มาเป็นตัวขวางกั้น แองเก้อยากให้ทุกคนสามารถรู้สึกรู้สาไปกับสุนทรียะ เช่นเดียวกับที่เธอต้องการให้ศิลปะกลายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ
แองเก้ เบคเกอร์, ศิลปินและเจ้าของแกลเลอรี Blutenwiess
ผู้จัดนิทรรศการภาพไร้นาม "Anonymous Drawing"
นิทรรศการภาพไร้นามของแองเก้เริ่มขึ้นจากการชักชวนเพื่อนฝูงและคนรู้จัก ที่อยู่ในแวดวงศิลปะ รวมถึงคนในแวดวงอื่นๆ ให้ช่วยกันวาดภาพอย่างที่ตัวเองอยากวาด แล้วนำมาจัดเป็นนิทรรศการให้ผู้คนเข้าชม โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าผลงานที่นำมาแสดงแต่ละชิ้นนั้น จะไม่มีการตั้งชื่อ และไม่มีการเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามของคนวาดภาพแต่ละชิ้น
ศิลปินที่มีชื่อเสียงส่วนหนึ่งตกลงเข้าร่วมโครงการนี้ พอๆ กับที่ "คนธรรมดา" ซึ่งไม่เคยร่ำเรียนมาทางด้านศิลปะ วาดภาพส่งมาร่วมแสดงนิทรรศการกับแองเก้ด้วยความเต็มอกเต็มใจ
ภาพวาดบนกระดาษร้อยปอนด์ที่แองเก้ได้รับจากคนมากมาย ถูกนำมาจัดแสดงง่ายๆ บนผนังห้องแสดงนิทรรศการของเธอ
สีสันและเส้นสายที่แสดงรูปร่างและรูปทรงในแต่ละภาพ ไม่มีการจำกัดหรือถูกตีกรอบ นัยหนึ่งเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมกันของภาพที่ไม่มีการเน้นย้ำหรือให้ความสำคัญกับผลงานของใครคนใดคนหนึ่ง
คนที่มาชมงานนิทรรศการและซื้อผลงานกลับไปชื่นชมต่อที่บ้าน ก็ได้แก่ผู้ที่แองเก้นิยามให้ว่า "ตกหลุมรัก" ภาพนั้นจริงๆ
แม้ว่านิทรรศการของแองเก้จะไม่มีการกำหนดเทคนิคที่ใช้ ไม่มีการวางหัวข้อหรือคอนเซปต์ของภาพ แต่การคัดเลือกผลงานแต่ละชิ้นมาจัดแสดง ก็ต้องใช้ความตั้งอกตั้งใจไม่แพ้กัน
หลังจากนิทรรศการภาพไร้นามครั้งที่ 1 เสร็จสิ้นลง ความสนุกของศิลปินและคนธรรมดาที่ได้วาดภาพก็เลยเถิดไปต่อ กลายเป็นนิทรรศการภาพไร้นามครั้งที่ 2, 3, 4 และ Anonymous Drawing ครั้งที่ 5 เพิ่งจะสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2007 ที่ผ่านมานี่เอง และยังมีแนวโน้มว่าจะมีการจัดนิทรรศการภาพไร้นามนี้ต่อไปเรื่อยๆ เสียด้วย
ภาพทุกภาพคือความงามที่รอการตกหลุมรักจากคนดู
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)