Skip to main content
sharethis


ไม่สน - บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ส่งคนงานพร้อมเครื่องจักรมาปรับพื้นที่ เตรียมวางท่อก๊าซ จากโรงแยกก๊าซจะนะ จังหวัดสงขลา ไปยังโรงไฟฟ้าจะนะ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยไม่สนใจคำสั่งให้ระงับการดำเนินการขององค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน


 


  


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มีนาคม 2550 นายโส๊ะ หัดเหาะ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่อส่งก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซีย ได้นำรถแม็คโครและคนงานของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้ามาไถปรับพื้นที่เตรียมวางท่อส่งก๊าซ จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซียไปยังโรงไฟฟ้าจะนะ ห่างจากสถานที่ทำละหมาดของชาวมุสลิมประมาณ 200 เมตร


 


ต่อมา ชาวบ้านในชุมชนได้นำคำสั่งระงับการก่อสร้างท่อก๊าซเส้นดังกล่าว ออกโดยองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน ไปแจกจ่ายกับคนงานของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แต่ไม่มีผู้ใดสนใจ


 


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2550 นายเกษม และหีม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน มีหนังสือที่สข. 75081/164 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2550 แจ้งให้นายอำเภอจะนะ และผู้จัดการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทราบว่าทางองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน ได้ระงับการวางท่อก๊าซ จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซีย ไปยังโรงไฟฟ้าจะนะ


 


โดยเวลาประมาณ 10.00 น. วันเดียวกัน คนงานของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้นำรถแม็คโครเข้าไถปรับสภาพพื้นที่บริเวณบ้านป่างาม หมู่ที่ 3 ตำบลตลิ่งชัน เพื่อเตรียมวางท่อส่งก๊าซ


 


กระทั่ง เวลา 13.30 น. วันเดียวกัน ชาวบ้านจากเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซียและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อำเภอจะนะ ได้เดินทางไปยังที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน แจ้งให้นายเกษม มีคำสั่งระงับการดำเนินการไว้ก่อน เพราะโครงการดังกล่าว มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของพี่น้องมุสลิมและหลักการศาสนาอิสลาม ก่อนหน้านี้ โรงแยกก๊าซได้ฮุบที่ดินวะกัฟ และที่ดินสาธารณประโยชน์ของชุมชนไปใช้โดยมิชอบ โดยบริษัท ทรานส์ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้าไปร่วมทุน ยังไม่ยอมแก้ไข ก่อให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มพี่น้องมุสลิม


 


ต่อมา เวลาประมาณ 14.00 น. เครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซียและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง พร้อมด้วยนายเกษมได้เดินทางไปยังบ้านป่างาม ตรงบริเวณที่คนงานของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กำลังไถปรับสภาพพื้นที่ มีนายโกศล อมรไชย เป็นผู้ดูแล จากนั้น นายเกษมและชาวบ้านได้บอกให้คนงานทั้งหมดยุติการทำงาน และออกจากพื้นที่


 


กระทั่ง กลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง ในวันที่ 20 มีนาคม 2550 โดยไม่สนใจคำสั่งให้ระงับการดำเนินการขององค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชันแต่อย่างใด


 


นายประกอบ หลำโส๊ะ ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ตำบลตลิ่งชัน กล่าวว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ฝ่าฝืนคำสั่งองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งมีอำนาจบริหารปกครองท้องถิ่น โดยไม่เกรงกลัวความผิด สาเหตุที่พวกตนขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน ระงับการวางท่อก๊าซ เพราะก่อนหน้านี้สภาองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน ได้ลงมติให้ความเห็นชอบเรื่อง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ขอวางท่อก๊าซลอดผ่านถนนและทางน้ำสาธารณประโยชน์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2550 เมื่อมีการไถปรับสภาพพื้นที่  พวกตนจึงต้องขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชันระงับการดำเนินการ


 


"มติของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชันเป็นมติมิชอบ เพราะลงมติมาตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2550 ขณะที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่งให้ความเห็นชอบรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2550" นายประกอบ กล่าว


 


นายประกอบ เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีการข่มขู่จะทำร้ายร่างกายและเอาชีวิต กลุ่มที่ออกมาคัดค้านการวางท่อก๊าซมายังโรงไฟฟ้าจะนะบ้างแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องแจ้งว่า จะนำตำรวจท้องที่และตำรวจชายแดนตระเวนชายแดนเข้ามาดูแลสถานที่ก่อสร้าง และรักษาความปลอดภัยให้กับคนงาน ทั้งๆ ที่พวกตนเพิ่งไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2550 เรียกร้องให้เข้ามาตรวจสอบกรณีนายอำเภอจะนะ ส่งอาสารักษาดินแดนเข้ามาข่มขู่ชาวบ้าน รวมทั้งขอให้เข้ามาแก้ปัญหากรณีดินวะกัฟ และยุติโครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ที่อำเภอจะนะ


 


"การนำกำลังตำรวจลงมาคุมการวางแนวท่อก๊าซโรงไฟฟ้าจะนะ เป็นวิธีการเดียวกับสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้ตำรวจตระเวนชายแดนหลายกองร้อยมาอารักขาคนงานก่อสร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซีย เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นในสมัยที่ชาวมุสลิมอย่างพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี" นายประกอบ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net