Skip to main content
sharethis





การเมือง


 


ป๋าเปรมเตรียมนำกล่าวปฏิญาณตนล้างทุจริตให้สิ้นแผ่นดินไทย


เว็บไซต์คมชัดลึก - พล.อ.พงศ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวการประชุมเตรียมการจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน "ล้างทุจริตให้สิ้นแผ่นดินไทย เพื่อเทิดไท้องค์ราชัน" ร่วมกับ นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ โดย พล.อ.พงศ์เทพ แถลงว่า งานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 6 เมษายนนี้ เวลา 08.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล จะมีข้าราชการจากทุกหน่วยงานเข้าร่วมในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน ประมาณ 1,500 คน


 


โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้กล่าวเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการปราบปรามการทุจริต เป็นวาระแห่งชาติ โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จะเชิญ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรษ เป็นผู้นำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตน "เพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เป็นภาพลักษณ์สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสัญลักษณ์ด้านคุณธรรม จริยธรรม" เลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าว


 


พล.อ.พงศ์เทพ กล่าวว่า กิจกรรมในวันนั้นได้เชิญทุกภาคส่วน ทั้งผู้นำองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ องค์กรอิสระ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เครือข่ายภาคประชาชนและส่วนต่างๆ ในกรุงเทพฯ จะกระทำพิธีพร้อมกันใน 50 เขต โดยผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นผู้ดำเนินการ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ทั้ง 75 จังหวัดทั่วประเทศ จะกระทำพิธีร่วมเช่นเดียวกัน โดยมีเครือข่ายโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยส่งภาพพิธีในกรุงเทพฯ ไปด้วย ซึ่งในคำปฏิญาณจะมีถ้อยคำว่า "ล้างทุจริตให้สิ้นแผ่นดินไทย เพื่อเทิดไท้องค์ราชัน" ด้วย นอกจากนี้ เราจะมีสมุดลงนามถวายพระพรที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นจะส่งต่อไปยังกระทรวง ทบวง กรม เพื่อให้ลงนาม และจะนำกลับคืนสู่ทำเนียบรัฐบาล โดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะรวบรวมส่งให้นายกรัฐมนตรี นำขึ้นกราบบังคมทูลต่อไป


 


คมช.เตรียมแถลงผลงานรอบ 6 เดือน


เว็บไซต์คมชัดลึก - วันที่ 20 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะเป็นประธานในการแถลงผลงานและการดำเนินงานด้านต่างๆ ในรอบ 6 เดือน ภายหลังจากที่มีการปฏิรูปการปกครองเมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ คือ รัฐบาล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และ ป.ป.ช. เข้าร่วมชี้แจงผลการดำเนินงานต่างๆ ด้วย



รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.สนธิ จะเป็นผู้กล่าวเปิดการแถลงผลงานและชี้แจงการดำเนินงานในภาพรวมของ คมช.ในรอบ 6 เดือน จากนั้นผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ จะชี้แจงผลการดำเนินงานต่างๆ ดังนี้ ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนจากรัฐบาล จะแถลงถึงนโยบายและการปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่น่าสนใจ น.ส.พจนีย์ ธนวรานิช รองประธาน สนช. จะแถลงถึงการดำเนินงานในการตรวจสอบทุจริต เช่น กรรมาธิการตรวจสอบสนามบินสุวรรณภูมิ กรรมาธิการวิสามัญการป้องกันและปราบปรามความประพฤติมิชอบ รวมถึงกฎหมายที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เช่น พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในการกำกับของรัฐ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์



นอกจากนี้ นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. และนายกล้านรงค์ จันทิก โฆษก ป.ป.ช. จะแถลงถึงความก้าวหน้าในการดำเนินการตรวจสอบการทุจริต นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด จะแถลงถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีการทุจริต และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะแถลงถึงความคืบหน้ากรณีทุจริตบริษัทกุหลาบแก้ว และคดีบุกรุกที่ดิน จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ


 


อดีต สว.เลือกตั้งค้าน รธน.เปิดช่องที่มาสว.นอกระบบ


สำนักข่าวINN - ชมรมอดีตสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ปี 43-49 นำโดยนายคำนวณ ชโลปถัมภ์ อดีต ส.ว.สิงห์บุรี เข้ายื่นหนังสือต่อนายนรนิติ เศรษฐบุตรี ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อคัดค้านการร่างรัฐธรรมนูญที่ระบุให้ ส.ว.ได้มาจากการสรรหาทุกรูปแบบ เนื่องจากเห็นว่าหากให้ ส.ว.ได้มาจากการเลือกตั้งครึ่งหนึ่ง และการสรรหาครึ่งหนึ่งก็จะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในสภา และ ส.ว. ควรได้มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเท่านั้น


 


ขณะที่ ภาคีเครือข่ายเสริมสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้อง มีคุณธรรมอันมั่นคงสำหรับสังคมไทย หรือ สตส. นำโดย พล.อ.วสุ ชนะรัตน์ ตัวแทนภาคีเครือข่ายฯ ก็ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องกรณีกำหนดให้ พุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติในร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อที่รัฐจะได้สนับสนุนพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ และเพื่อลดปัญหาในบ้านเมือง พร้อมระบุว่า หากสภาร่างรัฐธรรมนูญไม่รับข้อคิดเห็น ก็จะมีการรวมตัวเพื่อเรียกร้องต่อไป



ด้าน นายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสสร. กล่าวว่า การร่างรัฐธรรมนูญ มีระยะเวลาที่จำกัด ดังนั้น จึงต้องพิจารณาเรื่องที่เป็นปัญหาของชาติบ้านเมืองก่อน แต่ยืนยันจะนำข้อเสนอทั้งหมดให้กรรมาธิการยกร่างฯ พิจารณา


 


ป.ป.ช.เตรียมพิจารณา "สพรั่ง" ดูงานนอก


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ - วานนี้ (19 มี.ค.) นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานของนายสุทิน คลังแสง รักษาการรองโฆษกพรรคไทยรักไทย ที่ร้องเรียนกรณีพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือบอร์ด ทอท. พร้อมผู้ร่วมงานที่เดินทางไปดูงานประเทศเยอรมัน โดยใช้งบประมาณร่วม 7 ล้านบาทแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจัดทำรายงานรวบรวมข้อมูล เพื่อนำมาเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณารับเรื่องต่อไป เชื่อว่าจะสามารถพิจารณาได้ในเร็ววัน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชน เพียงแต่ต้องดำเนินการให้มีความถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย



ส่วนการแถลงผลงานร่วมกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ในวันที่ 20 มี.ค. นี้ว่า ป.ป.ช.จะสรุปผลงานประเด็นที่สำคัญ และเรื่องที่เข้ามาใหม่ ที่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมกันนี้ยืนยันว่า คมช.ไม่เคยเร่งรัดหรือกดดันการทำงานของ ป.ป.ช.ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม นอกจากนี้ นายกล้านรงค์ยังแสดงความพอใจผลงานตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ที่มีความต่อเนื่อง สามารถส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการทางกฏหมายได้หลายคดี


 


การุณถามแทงใจดำ สสร.เหตุใดรายงาน กมธ.ไม่มีความเห็นประชาชน มีแต่เสียงอนุกรรมาธิการ หวั่นร่าง รธน.ฟังประชาชนแต่ในนาม


อินโฟเควส - ที่ประชุมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) วานนี้ (19 มี.ค.) ที่ประชุมได้พิจารณาความคืบหน้าในการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 3 กรอบ คือ อนุกรรมาธิการกรอบที่ 1 ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพการมีส่วนร่วมของประชาชนและการกระจายอำนาจ, อนุกรรมาธิการกรอบที่ 2 ว่าด้วยสถาบันการเมือง และอนุกรรมาธิการกรอบที่ 3 ว่าด้วยองค์กรตรวจสอบอิสระและศาล โดยมีนายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมก่อนที่จะให้สมาชิก ส.ส.ร.ได้ร่วมอภิปราย


 


ทั้งนี้ นายการุณ ใสงาม สมาชิก ส.ส.ร.ได้ลุกขึ้นประท้วงว่าเหตุใดการรายงานผลการดำเนินการของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญถึงไม่มีการรับฟังปัญหาของประชาชน มีแต่เพียงรายละเอียดความเห็นของอนุกรรมาธิการ ทำให้สังคมสงสัยว่ายกร่างโดยไม่ฟังเสียงประชาชนหรือฟังแต่เพียงในนาม


 


"การร่างรัฐธรรมนูญควรรับฟังความคิดเห็นของประชาชนไปพร้อมกับการยกร่าง ไม่ใช่ให้กรรมาธิการยกร่างเสร็จแล้วค่อยถามความเห็น นอกจากนี้ในกรอบที่ 1 ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพฯ ยังมีข้อถกเถียงในเรื่องการให้อำนาจอธิปไตยประชาชนในทางตรงในการให้มีส่วนร่วมทางการเมือง ที่ผ่านแม้กำหนดให้ประชาชนมีสิทธิเข้าชื่อ 5 หมื่นคนเสนอกฎหมายแต่ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาไม่เคยทำได้จริง"นายการุณ กล่าว


 


สำหรับวานนี้นั้น สมาชิกผลัดกันลุกขึ้นอภิปรายในกรอบที่ 2 ว่าด้วยสถาบันการเมือง โดยประเด็นที่สมาชิกให้ความสนใจมาก คือการกำหนดให้มีส.ส.ระบบสัดส่วนแทนระบบปาร์ตี้ลิสต์ ที่มาของ ส.ว.ต่อ โดยสมาชิกส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่อนุกรรมาธิการฯ กำหนดให้ ส.ว.มาจากการสรรหา โดยนายอุทิศ ชูช่วย ส.ส.ร.กล่าวว่า ประชาชนจำนวนมากเห็นด้วยที่จะมี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เพื่อเป็นข้อมูลให้กรรมาธิการไปตัดสินใจเพื่อยึดหลักเอกสารที่กรรมาธิการจัดทำออกมา


 


แต่ในเรื่องที่มาของส.ว.ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าจะต้องมาจาการเลือกตั้งทางตรง เพราะประชาชนหลายส่วนไม่มั่นใจว่าคณะกรรมการสรรหาที่อนุกรรมาธิการกำหนดขึ้นมาจะดำเนินการให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการให้ส.ว.เข้ามาทำหน้าที่แทนตนได้มากกว่าการเลือกตั้ง


 






 


ผู้จัดการการเมือง


 


หมายเหตุผู้จัดการ : ทำไมจึงโจมตีพลเอกเปรม?


วานนี้ (19 มี.ค.) ผู้จัดการรายวันเผยแพร่บทวิเคราะห์ "หมายเหตุผู้จัดการ : ทำไมจึงโจมตีพลเอกเปรม?" โดยระบุว่าแกนนำผู้จัดชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 17 และ 18 มีนาคม 2550 ที่ผ่านมาเพื่อโจมตีพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นเครือข่ายของพรรคไทยรักไทยทั้งสิ้น โดยสาเหตุที่โจมตีพลเอกเปรม ก็เพราะพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้มีส่วนช่วยเหลือบ้านเมืองให้พ้นจากวิกฤตและอันตรายหลายครั้งหลายหน ตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬเรื่อยมา จนกระทั่งวิกฤตที่สุดในโลกที่เกิดจากระบอบทักษิณ ความพยายามที่จะเชิดชูคุณธรรม ศีลธรรม และจริยธรรม เชิดชูคุณงามความดี ต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวงของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้กระทบต่ออำนาจรัฐเก่าอย่างรุนแรงหลายครั้งหลายหน


 


พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นบุคคลสำคัญของชาติ เป็นหลักชัยของชาติบ้านเมือง มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อชาติบ้านเมือง และปัจจุบันก็ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้ดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษอาวุโส การโจมตีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เพื่อให้กระทบกระแทกแดกดันขึ้นไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเป็นเล่ห์กลที่มุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดแจ้ง บทวิเคราะห์ดังกล่าวระบุ พร้อมเรียกร้องให้จับตาดูกันว่าพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะยังสมานฉันท์กับคนที่คิดล้มล้างชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ต่อไปอีกหรือไม่


 


สนธิเหน็บขิงแก่มัวบ้าพิธีกรรม


ผู้จัดการออนไลน์นำเสนอข่าวนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการพูดผ่านรายการยามเฝ้าแผ่นดินเมื่อวานนี้ (19 มี..) ถึงประเด็นที่รัฐบาลจะจัดงานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อ "ล้างทุจริตให้สิ้นแผ่นดินไทย เพื่อเทิดไทองค์ราชันย์" ว่า รัฐบาลชุดนี้เก่งแต่พิธีกรรม ทำแต่เรื่องคารวะบูชา แต่ไม่ค่อยจะปฏิบัติบูชากัน อย่าเอาพิธีกรรมมาบังหน้า เพื่อหลบเลี่ยงข้อเท็จจริงที่ยังมีการคอร์รัปชั่นอยู่


 


นายสนธิ กล่าวว่า เรื่องพิธีจอมปลอมอย่างนี้เลิกเสียทีได้หรือไม่ ทำไมรัฐบาลไม่ทำเรื่องต่างๆ ให้ปรากฏเป็นภาพ ผลการกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์ รัฐบาลชุดนี้มีแต่นามธรรม ไม่มีรูปธรรมให้เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ตนเห็นเพียงคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) เพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้นที่ทำงานปราบปรามคอร์รัปชั่น หน่วยงานอื่นหรือที่ไหนไม่เห็นจะออกมาทำงานอย่างเป็นรูปธรรมเลย


 


นายสนธิ กล่าวว่า คนที่อยู่ในรัฐบาลนี้ต้องระวัง รัฐบาลอาจจะออกโทรทัศน์โกหกได้ แต่เมื่อถึงวันๆ หนึ่งแล้ว คนจะเริ่มไม่เชื่อถือในสิ่งที่รัฐบาลทำ ตนรู้สึกตลก หากเปรียบรัฐบาลในวันนี้ รัฐบาลไม่ได้ใส่เกียร์ว่าง แต่เป็นรัฐบาลหม่ำจ๊กมก ไม่มีการเร่งรัดการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นอย่างจริงจังเสียทีนายสนธิกล่าว


 






คุณภาพชีวิต


 


เหตุปลาตายเจ้าพระยากรมควบคุมมลพิษยันไม่ตัดประเด็นน้ำเสียจากโรงงานออก


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงวามคืบหน้าการตรวจสอบตัวอย่างน้ำเสีย ที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทองว่า ขณะนี้ผลการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำจากห้องทดลองยังออกมาไม่หมด แต่สามารถสรุปได้เฉพาะบางประเด็น คือ ปลาตายเพราะขาดออกซิเจน และ น้ำเสียไม่ได้มาจากสารเคมีในภาคเกษตร ซึ่งก็เหลือเพียง 2 ประเด็น คือ น้ำเสียจากเรือน้ำตาลล่ม ส่วนน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม จะนำข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษที่ได้ทั้งหมด ไปรายงานให้คณะกรรมการตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายของปลาในแม่น้ำเจ้าพระยาทราบในวันที่ 20 มี.ค.นี้ เพื่อประมวลร่วมกับผลการทำงานของหน่วยงานอื่น ในการสรุปหาสาเหตุต่อไป และตอนนี้สิ่งที่รออยู่ก็คือการตรวจวัดค่า BOD หรือค่าความสกปรกของน้ำ และค่าของแบคทีเรีย ที่จะต้องรอผลการวิเคราะห์ คาดว่าอย่างช้าสัปดาห์หน้าน่าจะได้ผลวิเคราะห์ดังกล่าว


 


เมื่อถามว่าน้ำตาลจากเรือที่ล่มลง กับน้ำตาลจากโรงงานผลิตผงชูรส เป็นน้ำตาลชนิดเดียวกันหรือไม่ นายสุพัฒน์กล่าวว่า น้ำตาลทั้งสองชนิดไม่เหมือนกัน แม้จะเป็นสารอินทรีย์เหมือนกันแต่องค์ประกอบไม่เหมือนกัน โดยน้ำตาลจากโรงงานจะเป็นกากน้ำตาล ที่เรียกว่าโมลาส เมื่อถูกปล่อยลงในน้ำจะทำให้มีสีเข้มขึ้นกว่าเดิม และมีกลิ่น อย่างไรก็ตามเมื่อถามต่อว่าจากผลการตรวจสอบตัวอย่างน้ำในที่เกิดเหตุเบื้องต้นน้ำมีสีเข้มขึ้น หรือมีกลิ่นหรือไม่ นายสุพัฒน์ กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานพบว่า น้ำไม่มีสีเข้ม และไม่มีกลิ่น แต่ขอชี้แจงว่า คพ.ไม่ได้ตัดเรื่องของน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมออกไป


 


กรีนพีชแนะราชการให้ประชาชนร่วมตรวจสอบกรณีน้ำเสียเจ้าพระยา


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ - นางสาวภัสน์วจี  ศรีสุวรรณ    ผู้ประสานงานรณรงค์กลุ่มกรีนพีช  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้  กล่าวว่า  เมื่อช่วงที่เกิดน้ำเน่าเสียตั้งแต่จังหวัดอ่างทอง  จนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  กลุ่มกรีนพีช ได้ลงพื้นที่สังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  และได้ส่งข้อมูลทั้งหมดไปให้กลุ่มกรีนพีช ที่อยู่ในต่างประเทศ  เพราะกลุ่มกรีนพีชทั่วโลกให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้   เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศไทย  ที่มีสิ่งมีชีวิตทั้งคนและสัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก  แต่สิ่งสำคัญคือกรณีดังกล่าว  กรมโรงงานอุตสาหกรรม  กรมควบคุมมลพิษ  จะต้องให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมตรวจสอบและสังเกตการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาว่าเริ่มมีปฏิกิริยาเช่นไร  เพราะคนที่อยู่ในพื้นที่จะรู้ดีที่สุด  นอกจากนี้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง  จะต้องมีระบบเฝ้าระวัง  และแจ้งเตือนให้ประชาชนที่ใช้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา  รับรู้หากน้ำเกิดปฏิกิริยาเปลี่ยนไปจากเดิม   เพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนเช่นนี้อีก



น.ส.ภัสน์วจี  กล่าวด้วยว่า  การเข้าไปตรวจสอบของหน่วยงานราชการตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านเกี่ยวกับโรงงานผลิตผงชูรสนั้น  มีกระบวนการทำถูกต้องหรือไม่  โดยเฉพาะการเก็บตัวอย่างน้ำเสีย หรือแม้แต่ปลาที่ตายลอยในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อนำไปตรวจสอบ   เพราะสารเคมีบางตัวจะมีระยะเวลา  แค่  24 ชั่วโมง โดยเริ่มจากช่วงที่เกิดน้ำเสีย   หากการเก็บไม่ถูกวิธี  หรือ ตรวจช้าเกินไป  ผลการตรวจออกมาก็จะไม่พบอะไรเลย



นอกจากนี้ กลุ่มกรีนพีช  ยังขอให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง  และอย่าให้เกิดซ้ำอีก   ที่สำคัญต้องให้รู้แน่ชัดว่าต้นตอที่ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาเน่าในครั้งนี้มาจากเหตุใด   เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจเกิดขึ้นอีก


 


มลพิษภาคเหนือยังเกินค่ามาตรฐาน แม่ฮ่องสอนให้ทุกครัวเรือนสาดน้ำเพิ่มความชื้น


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์/เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์รายงานว่านายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงสถานการณ์มลพิษหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือในช่วงวันที่ 13 - 19 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในภาพรวมยังคงมีปริมาณสูงเกินมาตรฐาน แต่ถือว่ามีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ โดยระดับฝุ่นละอองลดลงทั้งที่เชียงใหม่และลำปาง ส่วนจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ภาคเหนือจากภาพถ่ายดาวเทียมมีจำนวนสูงถึง 318 จุด


 


สำหรับแนวโน้มหมอกควันจะเข้าสู่สภาวะปกติก่อนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือไม่นั้น นายสุพัฒน์ ย้ำว่า ขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 อย่าง คือ คนต้องลดการเผาก่อน และสภาพภูมิอากาศหากมีฝนเข้ามาจนเกิดความชื้นจะส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรฯจะทำรายงานสรุปสถานการณ์เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารนี้รับทราบ



นายสุพัฒน์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีการประกาศให้เชียงใหม่และแม่ฮ่องสอนเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉินว่า เป็นการประกาศฉุกเฉินในระดับท้องถิ่นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถประกาศได้หากมีความรุนแรง ซึ่งไม่ใช่การประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ หากประชาชนยังไม่ให้ความร่วมมือภายในสัปดาห์หน้าอาจจำเป็นต้องนำกฎหมายเข้ามาร่วมควบคุมด้วย


 


ส่วนเว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่นรายงานข่าวว่านายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 19.00 น จังหวัดได้มีวิทยุด่วนที่สุดถึงนายอำเภอ 7 อำเภอ ให้ปฎิบัติงานในการดับไฟป่าในแต่ละพื้นที่ ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป โดยให้นายทวีศักดิ์ วัฒนธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าดูแลการปฏิบัติงานดับไฟป่าในพื้นที่อำเภอเมือง ขุนยวม แม่ลาน้อย แม่สะเรียง และอำเภอสบเมย ส่วนนายพงศ์เดช ทิพย์เดช ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เข้าไปดูการปฎิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป


 


นอกจากนี้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. เป็นต้นไป ทางจังหวัดจะรณรงค์ให้ชาวบ้านสาดน้ำขึ้นฟ้าจำนวน 90,000 ครัวเรือน ครัวเรือนละ 10 ลิตร ต่อวัน เพื่อเพิ่มปริมาณความชื้นในพื้นที่ โดยจะเริ่มในเวลา 13.00 น. ไปจนถึงเวลา 15.00 น.ของทุกวัน จนกว่าสถานการณ์หมอกควันจะเบาบางลง นอกจากนี้ยังให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประสานไปยัง อบต.ทุกพื้นที่ให้ออกมาช่วยกับดับไฟป่าที่ส่งผลกระทบต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป


 


ส่วนนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยหมอกควัน ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ว่า ขณะนี้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งในพื้นที่ ได้เปิดให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบ เช่น ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยหลังผ่าตัดตา โรคหัวใจ จนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 34,769 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอาการกำเริบ 159 ราย ตาอักเสบ 782 ราย โรคผิวหนัง 6 ราย มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเฉลี่ยวันละประมาณ 1,500 ราย และในวันนี้ สธ. ได้จัดส่งหน้ากากอนามัย จำนวน 240,000 ชิ้น ให้กับพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ แม่ฮ่องสอน และพะเยา เพื่อให้ประชาชนใส่ป้องกันการสูดฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน เข้าปอด


 


ยังพบเชื้อหวัดนกที่มุกดาหาร ส่วนผู้เสียชีวิตจากหวัดนกที่อินโดนีเซียพุ่ง 66 คนแล้ว!


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายสุวัฒน์ พงษ์ลิขิตพัฒน์ ปศุสัตว์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ได้ตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกในซากไก่งวง ที่เลี้ยงไว้ในศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบ้านนาโป ต.ในเมือง อ.เมือง จ.มุกดาหาร ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ทำลายสัตว์ปีกที่เลี้ยงไว้ในศูนย์ฝึกฯ ดังกล่าวทั้งหมดแล้ว โดยสัตว์ปีกที่เลี้ยงไว้ในศูนย์ฝึกฯ มี 107 ตัว มีทั้งไก่พื้นเมืองเป็ดเทศ และไก่งวง ทยอยตายมาตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ถึง 26 ตัว และล่าสุด มีไก่งวง 1 ตัวที่ติดเชื้อไข้หวัดนก


 


นายสุพัฒน์ กล่าวว่า หลังจากปศุสัตว์จังหวัด ได้รับรายงานว่ามีสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติเกินกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนที่เลี้ยงอยู่ในบริเวณ ประกอบกับการป่วยตาย มีลักษณะคล้ายการติดหวัดนกจึงได้เข้าไปทำลายสัตว์ปีกทั้งหมดของศูนย์ฝึกฯ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโดยรอบบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้สุ่มตัวอย่างสัตว์ปีกที่เลี้ยงอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตรจากศูนย์ฝึกฯ ส่งไปตรวจ พร้อมพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในพื้นที่ ส่วนในรัศมี 5 กิโลเมตรได้ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังโรคด้วยการเก็บตัวอย่างส่งตรวจและพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคด้วยเช่นกัน


 


ส่วนสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่าเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเปิดเผยว่าวานนี้ (19.00 น.) ว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยไข้หวัดนกอีกรายเป็นชายวัย 21 ปี ขณะเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเมืองสุราบายา อย่างไรก็ตามไม่มีรายละเอียดว่าชายผู้นี้ติดเชื้อดังกล่าวได้อย่างไร ซึ่งการเสียชีวิตของเหยื่อรายล่าสุดนี้   ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตด้วยไข้หวัดนกในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็น 66 คนแล้ว.


 






ต่างประเทศ


'บุช'ลั่นไม่ถอนทหารออกจากอิรัก


ผู้จัดการออนไลน์ - จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าถึงข้อเรียกร้องให้ถอนทหารออกจากอิรักว่าจะทำให้คนพอใจในระยะสั้น แต่จะสร้างความฉิบหายให้กับความปลอดภัยของอเมริกันชนในภายหลัง หากสหรัฐฯถอนกำลังทหารออกมา กลุ่มก่อการร้ายอาจใช้ช่องว่างในความสับสน ใช้อิรักเป็นฐานที่มั่นชั้นยอดเช่นเดียวกับที่อัฟกานิสถาน ที่เคยใช้วางแผนโจมตีอเมริกาในเหตุการณ์เดือนกันยายนปี 2001


 


ผู้นำสหรัฐฯ ยังเตือนว่าแผนยุทธศาสตร์ใหม่ในความพยายามสร้างความมั่นคงในแบกแดด ด้วยการส่งทหารเพิ่มเข้าไปอีก 21,500 นาย อาจยังไม่ประสบผลสำเร็จในเวลานี้ ขณะที่สงครามซึ่งไม่เป็นที่นิยมกำลังเข้าสู่ปีที่ 5 "มาตรการรักษาความปลอดภัยในแบกแดดยังอยู่ในขั้นต้นและคงต้องใช้เวลาหลายเดือนถึงจะประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่วันหรือสัปดาห์" บุช กล่าว


 


ผู้นำอิหร่านได้วีซ่าสหรัฐฯ เพื่อไปชี้แจงเรื่องนิวเคลียร์ที่ยูเอ็น


ผู้จัดการออนไลน์ - สหรัฐอเมริกาได้อนุมัติวีซ่าให้กับนายมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ประธานาธิบดีอิหร่าน เพื่อเข้าชี้แจงต่อคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ที่กำลังลงมติมาตรการคว่ำบาตรประเทศของเขาเพิ่มจากการที่ไม่ยอมยุติโครงการนิวเคลียร์ หลังจากที่ผู้นำอิหร่านได้ร้องขอวีซ่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันคาดหมายว่าคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติจะออกมาตรการลงโทษในอีกไม่กี่วันข้างหน้า


 

อย่างไรก็ตามโฆษกรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่ได้เปิดเผยว่าสหรัฐฯ ได้อนุมัติวีซ่าให้กับคณะผู้ติดตามของ อาห์มาดิเนจัด กี่ราย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net