โปรดอ่าน มอนิเตอร์กระแสการเมืองใน "ผู้จัดการ" / ทรท.รื้อเรื่องเก่า อัด "นาม" ฝืนคำสั่ง กกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา / โฆษกรัฐยอมรับ ครม.ผ่านกฎกระทรวงให้ กปส.คุม TITV แล้ว / ปชป.แนะรัฐบาลไม่ต้องกลัวพีทีวีเกินเหตุ / ครม.ตีกรอบงบฯปี 51 / สื่อมวลชนในละตินอเมริกา กำลังถูกคุกคามจากรัฐบาล / "แบลร์" จะหารือกับ "บุช" อังคารนี้ เรื่องการเปิดเสรีการบินร่วมกัน / รัฐบาลใหม่ปาเลสไตน์เริ่มทำงานแล้ว / ฝุ่นละอองภาคเหนือ ยังเกินมาตรฐาน / น้ำเสียจากอ่างทองไหลถึงบางไทร
การเมือง
ทรท.รื้อเรื่องเก่าอัด "นาม" ฝืนคำสั่งกกต.ชุด "พล.ต.อ.วาสนา"
ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล รักษาการกรรมการบริหารและทีมกฎหมายพรรคไทยรักไทย ระบุ นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ในฐานะอดีตประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีพรรคไทยรักไทยจ้างวานพรรคการเมืองขนาดเล็กลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น ไม่ทำตามกฎหมายว่าด้วยการสืบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พ.ศ 2541 ในมาตรา 19 วรรค 2 เนื่องจากนายนามไม่เรียกผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง รวมถึงไม่ปฏิบัติตามมติ กกต. ชุดที่มี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน ที่ระบุ ให้เรียกตัวพยานมาสอบสวนเพิ่มเติมสร้างความไม่เป็นธรรมให้กับพรรคไทยรักไทยเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันระบุว่าการที่พรรคไทยรักไทยออกมาชี้แจง รวมถึงการนำคำวินิจฉัยบางส่วนลงในเว็บไซต์นั้นไม่ก้าวล่วงอำนาจตุลาการรัฐธรรมนูญ
"กุเทพ" ชี้แนวคิด "สพรั่ง" ให้นักการเมืองรุ่นเก่าวางมือมีอคติ
เว็บไซต์คมชัดลึก - ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ระบุว่า นักการเมืองรุ่นเก่าควรวางมือได้แล้ว ว่า พล.อ.สพรั่ง กำลังมีอคติกับนักการเมือง เพราะไม่มีประเทศใดในโลก ไม่มีใครมาบอกว่านักการเมืองรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ ใครควรจะเป็นหรือไม่ควรเป็น แต่ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะเลือกใครเข้ามาทำหน้าที่ ไม่เหมือนกับข้าราชการที่ประชาชนไม่ได้เป็นคนเลือก
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า การที่ พล.อ.สพรั่งอาศัยอำนาจความเป็นข้าราชการที่คุมกำลัง พูดอะไรก็พูดได้ แต่ที่แสดงออกเช่นนี้ ต้องขอให้มีความเป็นเหตุเป็นผล และเคารพองค์กรอื่น การพูดอย่างนี้ เหมือนเป็นการชี้นำในคดียุบพรรค เพราะทราบมาว่า ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 27 ที่ พล.อ.สพรั่ง ผลักดันออกมาว่า ถ้าผลการพิจารณาคดียุบพรรคของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญออกมาว่าพรรคการเมืองมีความผิด ต้องตัดสิทธินักการเมืองไม่ให้ลงเลือกตั้ง 5 ปี นี่คือการแสดงให้เห็นว่าเป็นการตั้งธงชี้นำ
"การที่ พล.อ.สพรั่ง พูดให้นักการเมืองรุ่นเก่าวางมือ เป็นการชี้นำให้ตุลาการรัฐธรรมนูญใช้ประกาศ คปค. มาตัดสินนักการเมืองหรือไม่ เป็นการใช้มือตุลาการรัฐธรรมนูญประหัดประหารนักการเมือง ในฐานะที่ผมเป็นนักการเมือง รู้สึกเจ็บปวดกับความเห็นแบบนี้ของ พล.อ.สพรั่ง" ร.ท.กุเทพ กล่าว
ส่วนกรณีที่ พล.อ.สพรั่ง ระบุว่า ให้นักการเมืองคนดังกลับเข้ามาประเทศ เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ จะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้นหรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ความคิด พล.อ.สพรั่ง เกิดจากความคิดที่เป็นเอกเทศ หรืออคติ ความเห็นส่วนตัว ดังนั้น จึงไม่สามารถวิเคราะห์การพูดของ พล.อ.สพรั่ง ในเชิงเหตุผลได้ เพราะมักจะพูดแสดงความเห็นในลักษณะแปลกอย่างนี้เสมอ
โฆษกรัฐยอมรับ ครม.ผ่านกฎกระทรวงให้ กปส.คุม TITV แล้ว
เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วานนี้ (17) คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เสนอแก้ไขร่างกฎกระทรวงส่วนราชการกรมประชาสัมพันธ์ (กปส.) สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้กรมประชาสัมพันธ์สามารถดำเนินการในส่วนของสถานีวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ให้แก่ส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งหมายรวมถึงสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีด้วย และจากนี้ไปจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ในวันจันทร์ที่ 19 มีนาคมนี้ ซึ่ง ก.พ.ร. จะได้มีมติในส่วนการบริหารทีไอทีวี ว่าจะมีแนวทางอย่างไร แล้วเสนอกลับมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
ปชป.แนะรัฐบาลไม่ต้องกลัวพีทีวีเกินเหตุ
เว็บไซต์คมชัดลึก - นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรไปพะวงมากเกินไปกับการเคลื่นไหวของกลุ่มสถานีโทศน์พีทีวี เพราะสังคมทั่วไปรับรู้จากพฤติกรรมที่ดำเนินอยู่แล้วว่าเป็นเพียงกลุ่มตัวแทนการเมืองที่หวังจะมาใช้เทคโนโลยีสื่อสารรูปแบบใหม่ๆ เป็นกระบอกเสียงในการเผยแพร่ความคิดเห็นของตนเองเท่านั้น ไม่ได้มีสถานะเป็นสถาบันสื่อมวลชนอย่างที่เข้าใจกันแต่อย่างใด
และเท่าที่ติดตามเนื้อหา ที่เผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร ดังนั้นหากคนกลุ่มนี้ไม่ได้ทำผิดกฎหมายก็ไม่ควรไปปิดกั้น การปล่อยให้คนที่มีความเห็นแตกต่างได้มีกระบอกเสียงออกมาบ้างจะช่วยลดกระแสความกดดันในสังคมได้เป็นอย่างดี
นายอภิชาต กล่าวว่า ทุกวันนี้ฝ่ายรัฐบาลเองมีความชอบธรรมในการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนผ่านทางสื่อต่างๆได้มากมายอยู่แล้ว ควรใส่ใจกับภารกิจของตนเองอย่างต่อเนื่องจะดีกว่า เพราะแม้จะตั้งคณะกรรมการประชาสัมพันธ์เชิงรุกขึ้นมาร่วม 1 เดือนครึ่งแล้ว แต่ยังไม่เห็นงานประชาสัมพันธ์เชิงรุกที่เป็นรูปธรรม สื่อของรัฐก็ยังทำงานไปวันๆ ขณะที่เวลาของรัฐบาลก็เหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ ความศรัทธา ความเชื่อมั่นในรัฐบาลก็ลดน้อยถอยลง ถ้ายังปล่อยให้มีสภาพอย่างนี้ วันหนึ่งก็คงต้องเปลี่ยนชื่อเป็นคณะกรรมการประชาสัมพันธ์เชิงรับ หรือเชิงอุดไปในที่สุด
คตส.เตรียมตั้งคณะอนุฯไต่สวน ทุจริตบ้านเอื้ออาทร
เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบ่ายวันที่ 19 มี.ค. ที่จะถึงนี้ นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส. ที่รับผิดชอบตรวจสอบการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร จะเสนอให้ที่ประชุม คตส. ตั้งอนุกรรมการไต่สวนและชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้อง 1 โครงการ จากที่รับตรวจสอบทั้งหมด 10 กว่าโครงการ ทั้งนี้ โครงการบ้านเอื้ออาทรที่รัฐดำเนินการ มีอยู่ทั้งหมด 300 กว่าโครงการ นอกจากนี้ นายแก้วสรร ยังจะรายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงผลการรวบรวมข้อมูล ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินการของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี หลังจากมีกลุ่มภาคประชาชน นำโดย นายการุณ ใสงาม สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ได้มายื่นให้ คตส. ตรวจสอบกรณีรัฐบาลช่วยเหลือไอทีวีด้วย
ผู้จัดการการเมือง
"ยามเฝ้าแผ่นดินสัญจร"บุรีรัมย์คึกคัก - แห่ขอลายเซ็น "สนธิ" ล้นหลาม
ผู้จัดการออนไลน์ - เวบไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า การจัดเวทียามเฝ้าแผ่นดินสัญจร ที่จ.บุรีรัมย์ มีพี่น้องประชาชนจากหลายอำเภอ ทยอยมาสมทบขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมีผู้ร่วมเวทียามเฝ้าแผ่นดินไม่ต่ำกว่า 3,000 คน ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในช่วงระหว่างรอเปิดเวทียามเฝ้าแผ่นดินสัญจรที่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนผู้รักชาติ ทุกเพศ ทุกวัย มารุมล้อม ขอถ่ายรูป ขอลายเซ็นกับเสื้อยามเฝ้าแผ่นดินจำนวนมาก
"สนธิ" ย้ำประชาชนต้องรู้ทันนักการเมืองโกง
ผู้จัดการออนไลน์ - เวบไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานจากศูนย์ข่าวภาคอีสานว่า "สนธิ ลิ้มทองกุล"ย้ำประชาชนต้องรู้ทันนักการเมืองโกง อย่าเป็นเครื่องมือทางการเมือง เปิดใจหลังถูกปลดยามเฝ้าแผ่นดินช่อง11 น้ำตาตกใน เพราะสงสารชาวบ้านที่สูญเสียโอกาสรับข้อมูลอีกด้านที่หาไม่ได้จากฟรีทีวี
"ยี้ห้อย"! ปล่อยวิชามารป่วนพันธมิตรฯ - "การุณ" ขึ้นทีวีแฉ "ชิดชอบ" ฮุบที่หลวง
ผู้จัดการออนไลน์ - เวบไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า เครือข่าย "เนวิน" เล่นวิชามาร ขัดขวางเวที "ยามเฝ้าแผ่นดินสัญจร" ที่บุรีรัมย์ จนวินาทีสุดท้าย ล่าสุด ปล่อยข่าวมีคนลอบวางระเบิดเวทีปราศรัย ขู่ประชาชนอำเภอรอบนอกไม่ให้เข้าร่วม ด้าน "การุณ ใสงาม" นำคณะ แฉตระกูลชิดชอบฮุบที่ดินรถไฟ หันหัวอนุสาวรีย์ช้าง ผิดธรรมเนียม เพื่อเสริมฮวงจุ้ยที่ดินของตระกูล
นายการุณ ใสงาม สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และอดีต ส.ว.บุรีรัมย์ พร้อมกับ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรม และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.ยโสธร ขึ้นเวทีเป็นชุดแรก โดยมีการเคารพธงชาติ พร้อมกับประชาชนจังหวัดบุรีรีมย์ และจังหวัดใกล้เคียง ที่มาร่วมเวทีในช่วงเริ่มรายการไม่น้อยกว่า 1,000 คน ทั้ง 3 คน เปิดประเด็นเรื่องการใช้อำนาจทางการเมืองของตระกูลชิดชอบ ในจังหวัดบุรีรัมย์ ยกกรณีตัวอย่างการสร้างอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 ทรงช้าง ที่ทางตระกูลชิดชอบใช้อำนาจสั่งให้มีการก่อสร้างช้าง โดยหันหน้าเข้าตัวเมืองบุรีรัมย์ ทั้งที่โดยปกติ การสร้างอนุสาวรีย์ช้างจะหันหน้าออกนอกเมือง แต่ตระกูลชิดชอบให้หันหน้าเข้าเมืองเพียงแค่ต้องการให้ถูกกับหลักฮวงจุ้ยที่ดินของตระกูลชิดชอบทั้งหมด
นอกจากนั้น ได้เปิดเผยความไม่ชอบมาพากลในการถือครองที่ดินของตระกูลชิดชอบ ริมเส้นทางรถไฟที่ตัดจากจังหวัดสระบุรี ไปยัง จ.อุบลราชธานี แต่ตระกูลชิดชอบถือครองที่ดินเอาไว้ แม้ว่าที่ดินตรงนั้น มีพระราชกฤษฎีกาประกาศเป็นที่หลวง ตั้งสมัยรัชกาลที่ 6 แต่ตระกูลชิดชอบใช้อำนาจทางการเมืองในการออกเอกสารสิทธิถือครองที่ดินผืนดังกล่าวให้ถูกกฎหมาย ขณะที่ประชาชนทั่วไปกลับไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ เพราะเจ้าหน้าที่ที่ดินอ้างว่าต้องยึดตามหลักกฎหมาย
เวบไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ยังรายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่าในช่วงเปิดเวทีมีฝนตกมาประมาณ 20 นาที แต่ก็ไม่ทำให้ประชาชนย่อท้อเพียงแค่ไปหลบฝน หลังจากนั้น ก็กลับมาชุมนุมหน้าเวทีตามเดิม ล่าสุด มีประชาชนต่างอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์เข้ามาสมทบเป็นระยะๆ จำนวนประมาณไม่ต่ำกว่า 3,000 คนแล้ว
โดยก่อนที่กิจกรรมบนเวทีจะเริ่มขึ้น เครือข่ายของนายเนวิน ชิดชอบ ได้ปล่อยข่าวลือในอำเภอรอบนอก ว่า จะมีการวางระเบิดบริเวณเวทีปราศรัยของพันธมิตรฯ และบอกไม่ให้ประชาชนเข้าร่วม ทั้งนี้ เครือข่ายของนายเนวิน พยายามสกัดกั้นการจัดเวทีสัญจรของพันธมิตรฯ ที่บุรีรัมย์ มาตลอด เริ่มตั้งแต่มีการปล่อยข่าวว่า พันธมิตรฯ งดจัดเวที ปล่อยข่าวว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำสำคัญของพันธมิตรฯ จะงดเดินทางไป มีการเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้สั่งงดการจัดเวทีพันธมิตรฯ โดยอ้างประกาศของ คมช.มีการไปจ้างคนทำเวทีด้วยจำนวนเงินที่สูงกว่าที่พันธมิตรฯจ้าง เพื่อไม่ให้มาจัดเวทีให้พันธมิตรฯ รวมทั้งการห้ามร้านเช่าเครื่องเสียงไม่ให้บริการกับพันธมิตรฯ เป็นต้น
กลุ่ม 19 กันยาฯเหิมเกริมไม่หยุด-ตั้งเวทีโจมตีรัฐพร้อมดาหน้าบุกบ้านสี่เสาฯ
ผู้จัดการออนไลน์ - เวบไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า กลุ่ม 19 กันยาต้านรัฐประหาร ไม่หยุดตั้งเวทีโจมตี "ป๋าเปรม" พร้อมยัดเยียดข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มปฏิรูปการปกครองฯ ที่ยึดอำนาจจากรัฐบาล "แม้ว"
ตามที่วันนี้( 18 มี.ค.) เวลา 16.00 น.กลุ่ม 19 กันยาต้านรัฐประหาร พร้อมเครือข่าย ชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวง โจมตีการทำงานของรัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ต่อต้านการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมทั้งโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มปฏิรูปการปกครองฯ ที่ยึดอำนาจจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น.กลุ่มดังกล่าว ประมาณ 200 คน ได้เคลื่อนขบวน ไปตามถนนราชดำเนิน เมื่อถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาธิปไตย โดยมีจุดหมายที่บ้าน สี่เสาเทเวศร์ ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งช่วงที่มีการเคลื่อนขบวนนี้ มีรถของ พีทีวี และ ทีไอทีวี ได้ออกนำขบวน และ ติดตามทำข่าวอย่างใกล้ชิด
เวบไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า เมื่อขบวนเคลื่อนไปถึงบริเวณ กองบัญชาการกองทัพบก ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยอรินทราช พร้อมโล่ กระบอง ประมาณ 100 นาย ตั้งแถวสกัด โดยจุดดังกล่าวอยู่ห่างจากบ้านพักสีเสาเทเวศร์ ประมาณ 1 กม. ทำให้ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มที่เคลื่อนไหว ได้เข้าไปเจรจากับ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบ.ก.ตปภ. ที่ดูแลหน่วยรักษาความปลอดภัยอยู่ โดยจะขอเดินไปอีกประมาณ 100 เมตร เพื่อไปหยุดปราศรัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เปิดทางให้ เมื่อขบวนเดินไปถึง แยก พล.1 ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมโล่ กระบอง ประมาณ 200 นาย มาตั้งแถวรักษา ความปลอดภัย ทำให้กลุ่ม 19 กันยาฯ ต้องหยุดอยู่ที่บริเวณ ดังกล่าว แต่ก็ยังคงมีการปราศรัยโจมตี พล.อ.เปรม และมีการทำพิธีตัดไม้ข่มนาม โดยนำต้นกล้วย 4 ต้น มาฟันให้ขาด แล้ว ให้ตัวแทนนำต้นกล้วยดังกล่าว ไปทิ้งไว้ที่บริเวณห่างจากบ้านสีเสาเทเวศร์ ประมาณ 200 เมตร
ทั้งนี้ นพ.เหวง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนขอเสนอให้พล.อ.เปรม เลือกเอาระหว่างการรัฐประหาร กับประชาธิปไตย ถ้า พล.อ.เปรม เลือกประชาธิปไตย ก็ขอให้ปลด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นนายกฯ ที่มาจากการรัฐประหาร
"ครป." ติงม็อบฯ ยุติดึง "ป๋า" สร้างเงื่อนไข หวั่นซ้ำรอยตุลา 19
ผู้จัดการออนไลน์ - เวบไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า "เลขาฯครป." หวั่นสถานการณ์การเมือง ซ้ำรอย 6 ต.ค. 19 แนะ คมช.ห้ามใช้กำลังเผชิญหน้า กลุ่มชุมนุมต้านรัฐประหารฯ แฉกลุ่มอำนาจเก่า เตรียมผสมโรงโยง "ป๋าเปรม" สร้างเงื่อนไข ปลุกระดมมวลชน
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.) กล่าวว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ต้องระมัดระวัง ไม่สร้างเงื่อนไขนำไปสู่การเผชิญหน้าและต้องไม่ใช้กำลังปราบปรามอย่างเด็ดขาด เพราะผู้ชุมนุมนั้นชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ อีกทั้ง คมช.เองไม่ควรพูดจาทำนองยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า
ทั้งนี้กรณีที่แกนนำผู้ชุมนุมพยายามขยายประเด็นไปยัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แกนนำต้องระมัดระวัง เพราะประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมอาจเข้าใจผิดหรืออาจนำไปสู่การเผชิญหน้า เช่นเดียวกับกรณี ตุลาคม 2519 เนื่องจากมีความเข้าใจผิดว่านักศึกษาธรรมศาสตร์เป็นกลุ่มคอมมิวนิสต์ จนมีการล้อมและปราบปรามอย่างป่าเถื่อน อีกทั้งการขยายประเด็นโดยการเปิดบทบาท พล.อ.เปรม นั้น อาจเป็นช่องให้กลุ่มอำนาจเก่าเข้ามาผสมโรง และสร้างเงื่อนไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดจาโจมตีพล.อ.เปรม หลายครั้ง ดังนั้นแกนนำผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารต้องระมัดระวังให้มาก อย่าให้คนทั่วไปเข้าใจผิด ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อการชุมนุม
นายสุริยะใส กล่าวว่า ในส่วนของการเดินสายเปิดเวทีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามจังหวัดต่างๆ นั้นเป็นการเดินสายชี้แจงให้ข้อมูลประชาชน ให้เห็นถึงความผิดพลาดการบริหารงานของรัฐบาลที่แล้ว ทั้งเรื่องคอรัปชั่น การปฏิรูประบบราชการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งการเดินสายครั้งนี้ไม่ได้เป็นการกดดันหรือหวังผลทางการเมืองแต่อย่างใด
เศรษฐกิจ
วอนร่างพ.ร.บ.ค้าปลีกด้วยเหตุผลย้ำรัฐอย่าหวั่นแรงกดดันจากม็อบ
ผู้จัดการรายวัน - แหล่งข่าวจากสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้คัดค้านออกมาชุมนุมเดินขบวนกดดันให้รัฐบาลผ่านร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งว่า เรื่องของการออกกฎหมายนั้นเป็นอำนาจของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็อยากจะเสนอความคิดเห็นว่า การออกกฎหมายใด ๆ ก็ตาม ควรคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน และต้องยึดผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ให้มากที่สุด เรื่องของร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เป็นเรื่องที่มีความพยายามผลักดันกันมานานแล้ว และมีการศึกษาวิจัยโดยสถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่งมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ซึ่งก็ได้ผลวิจัยออกมาสอดคล้องกันว่า การดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ หรือโมเดิร์นเทรดนั้น ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับร้านค้าปลีกขนาดย่อมหรือโชห่วยอย่างที่กลุ่มผู้คัดค้านนำมากล่าวอ้างอยู่เสมอ
การพิจารณากฎหมายใดๆ ก็ตาม อยากขอวิงวอนผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องว่า อย่าดูเพียงแค่ใครมีม็อบมาสนับสนุนเดินขบวนไม่กี่ร้อยคนก็โอนอ่อนตามไปหมด ไม่อย่างนั้นแล้ว เราคงไม่ต้องมีสภาผู้แทนราษฏร ไม่ต้องมีนักวิชาการ โดยเฉพาะกลุ่มม็อบที่ออกมากดดันรัฐบาลในเรื่องของร่างพ.ร.บ.ค้าปลีกค้าส่งนี้ มีลักษณะที่แตกต่างจากม็อบของผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาให้ดีด้วย
ต่างประเทศ
สื่อมวลชนในละตินอเมริกา กำลังถูกคุกคามจากรัฐบาล
ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - ผู้แทนจากกลุ่มประเทศแถบละตินอเมริกา ได้แก่ อุรุกวัย เอกวาดอร์ เวเนซุเอลา และโบลิเวีย ระบุในรายงานที่เสนอต่อสมาคมสื่อมวลชนระหว่างอเมริกา หรือไอเอพีเอ ระบุว่า เสรีภาพของสื่อมวลชนในประเทศแถบละตินอเมริกา กำลังถูกคุกคาม โดยรัฐบาลของกลุ่มประเทศดังกล่าว กำลังเป็นศัตรูกับสื่อมวลชน รายงานยังได้ยกตัวอย่าง ประเทศเม็กซิโก ที่มีจำนวนผู้สื่อข่าวเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก โดยถูกฆาตกรรมไปแล้วถึง 7 คน นับแต่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีผู้สูญหายไป 2 คน และอีก 8 คน ถูกข่มขู่เอาชีวิต โดยนายกอนซาโล มาร์โรควิน ประธานคณะกรรมการเสรีภาพของสื่อมวลชน ของไอเอพีเอ ระบุว่า เสรีภาพของสื่อมวลชนกำลังเสื่อมถอยลงในหลายประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่กลุ่มฝ่ายซ้ายชนะการเลือกตั้ง
"แบลร์" จะหารือกับ "บุช" อังคารนี้ เรื่องการเปิดเสรีการบินร่วมกัน
ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ ของอังกฤษ เตรียมหารือข้อตกลงเปิดเสรีการบินร่วมกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐ หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ รายงานว่า ข้อตกลงเปิดเสรีการบินระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิก ที่อยู่ระหว่างรอลงมติในการประชุมรัฐมนตรีสหภาพยุโรป (อียู) จะบังคับให้อังกฤษ ต้องเปิดเสรีการบินที่สนามบินฮีทโธรว์ ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่คับคั่งจอแจที่สุดของโลก
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าในการหารือร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐในวันอังคารนี้ ผู้นำอังกฤษจะขอความร่วมมือด้านสิทธิประโยชน์การให้บริการสายการบินกับสหรัฐ ซึ่งหากล้มเหลวก็อาจเสนอให้ชะลอกำหนดเปิดเสรีการบินไปอีก 5 เดือน หรืออาจเรียกร้องให้ล้มข้อตกลง
ปัจจุบัน อังกฤษ และสหรัฐ มีผู้ประกอบการสายการบินประเทศละ 2 ราย ที่ได้รับสัมปทานเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ทำให้อังกฤษ เตรียมเสนอให้สหรัฐผ่อนคลายข้อกำหนดการเป็นเจ้าของสายการบิน และสัมปทานการให้บริการสายการบินภายในประเทศ แลกกับการเปิดเสรีที่สนามบินฮีทโธรว์ เนื่องจากข้อกำหนดปัจจุบันระบุว่า สายการบินสหรัฐต้องเป็นของชาวอเมริกันเท่านั้น และไม่อนุญาตให้สายการบินสัญชาติอื่นเข้ามาให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ
รัฐบาลใหม่ปาเลสไตน์เริ่มทำงานแล้ว
ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติชุดใหม่ของปาเลสไตน์เริ่มทำงานแล้ว ด้วยการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกที่เมืองกาซ่าซิตี้ ซึ่งรัฐมนตรีในเขตเวสต์แบงค์ในความควบคุมของอิสราเอลเข้าร่วมการประชุมผ่านการประชุมทางไกล
ด้านสหภาพยุโรป หรือ อียู ออกแถลงการณ์ระบุว่าอียูพร้อมจะทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ของปาเลสไตน์และร่วมหารือให้ความช่วยเหลือโดยตรงแก่ปาเลสไตน์ หลังจากรัฐบาลใหม่ปาเลสไตน์แถลงนโยบายสอดคล้องกับเงื่อนไขประชาคมโลกเพื่อสร้างสันติภาพตะวันออกกลาง แต่อียูจะประเมินการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ของปาเลสไตน์อย่างรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะรัฐบาลผสมชุดใหม่ระหว่างขบวนการฮามาสกับกลุ่มฟาตาห์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งอียูเป็นประเทศให้ความช่วยเหลือทางการเงินรายใหญ่แก่ชาวปาเลสไตน์ ส่วนอิสราเอลไม่ยอมรับรัฐบาลปาเลสไตน์เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของคณะผู้แทนเจรจา 4 ฝ่าย ที่เรียกร้องให้ปาเลสไตน์ประณามเหตุการณ์รุนแรง ยอมรับอิสราเอลและเคารพข้อตกลงสันติภาพที่ปาเลสไตน์ทำไว้ในอดีต
ด้านสำนักข่าวของทางการซีเรียรายงานว่าซีเรียสนับสนุนรัฐบาลใหม่ปาเลสไตน์พร้อมกับขอให้ประชาคมโลกยกเลิกการระงับการให้ความช่วยเหลือโดยตรงแก่ปาเลสไตน์โดยเร็ว รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังรัฐสภาปาเลสไตน์ลงมติรับรองคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของปาเลสไตน์ ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันตามข้อตกลงหลังการประชุมระหว่างประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส จากกลุ่มฟาตาห์ และนายคาเล็ด เมชาล ผู้นำทางการเมืองของขบวนการฮามาส ที่นครเมกกะของซาอุดิอาระเบียเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เกาหลีใต้อยากกระชับความสัมพันธ์ทางทหารกับฝรั่งเศส
เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - ประธานาธิบดีโรห์ มู ฮียอนของเกาหลีใต้ เรียกร้องในวันนี้ให้มีการประชับความสัมพันธ์ทางทหารที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นกับฝรั่งเศส ระหว่างร่วมหารือกับนางมิเชลล์ อัลลิออต -มารี รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ซึ่งเดินทางเยือนเกาหลีใต้ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ ทั้งคู่ยังได้ร่วมหารือในประเด็นความมั่นคงในภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ กับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 เกาหลีด้วย ขณะที่นางอัลลิออต-มารี แสดงความหวังด้วยว่า การเยือนของเธอจะช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทางทหารในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของทั้ง 2 ชาติ
รายงานข่าวระบุด้วยว่า นางอัลลิออต-มารี ได้เดินทางเยือนหมู่บ้านปันมุนจอม ในเขตปลอดทหารที่กั้นแบ่งระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ก่อนออกเดินทางต่อไปยังจีน ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายในการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเธอ
การศึกษา
รมว.วัฒนธรรมเสนอใช้หนังสือเอกชน ในการเรียนวิชาประวัติศาสตร์
กรมประชาสัมพันธ์ - คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุวิชาประวัติศาสตร์ไทย จัดเป็นวิชาน่าเบื่อ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาอย่างมาก แต่ในปัจจุบัน พบหลายสำนักพิมพ์นำเสนอ ในรูปแบบ งานเขียนสารคดี และภาพการ์ตูนเป็นหนทางหนึ่งกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนหันมาสนใจประวัติศาสตร์ไทยมากขึ้น
คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม
กรมควบคุมมลพิษเผยฝุ่นละอองภาคเหนือ ยังเกินมาตรฐาน
เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - ร.ท.สุธารา ห่วงสุวรรณ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาพอากาศในเชียงใหม่ดีขึ้น สายการบินต่างๆ ที่บินมาจอดยังท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ไม่มีปัญหา และสามารถลงจอดได้ตามปรกติ ส่วนเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนยังไม่อนุมัติให้บินได้
"ก่อนหน้านี้ จะมีปัญหาหมอกควันเกิดขึ้น ยกเว้นสายการบินที่มีการยกเลิกเที่ยวบินหรือเลื่อนไฟล์ทออกไป โดย 2 วันก่อนมีเพียง 1 เที่ยวบินเท่านั้นเนื่องจากสนามบินปลายทาง เช่น สนามที่ จ.แม่ฮ่องสอน และสนามบินปาย ซึ่งลักษณะภูมิประเทศเป็นป่าเขาและสนามบินก็ตั้งอยู่ในหุบเขา มีหมอกควันปกคลุมท้องฟ้าจนทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ชัดเจน ทำให้นักบินต้องยกเลิกการนำเครื่องบินไปลงยังสนามบินปลายทางเพราะเกรงจะเกิดอันตราย"
สำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเตือนสถานการณ์มลพิษหมอกควันพื้นที่ภาคเหนือวันนี้ (18 มี.ค.) ว่า จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน ยังอยู่ในระดับสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน โดยเชียงใหม่ เฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงสุดมีค่าเท่ากับ 202.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งมาตรฐานฝุ่นขนาดเล็กเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ต้องไม่เกิน 120 มคก./ลบม. ลำปาง พบสูงสุดมีค่าเท่ากับ 134.4 มคก./ลบม. เชียงราย ค่าเท่ากับ 158.8 มคก./ลบม. แม่ฮ่องสอน ค่าเท่ากับ 278.2 มคก./ลบม. สถานการณ์คุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงราย ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อวานนี้
จึงขอความร่วมมือจากประชานงดการเผาในที่โล่งทุกชนิด เช่น งดเผาขยะ หญ้า และเศษวัสดุการเกษตร งดเผาไร่นา งดเผาป่า งดเผาริมทางหลวง เป็นต้น หากผู้พบเห็นเหตุไฟไหม้สามารถแจ้งหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่เข้าระงับเหตุได้ทันที เด็ก ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ และผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมและงดออกกำลังกายนอกอาคาร
น้ำเสียจากอ่างทองไหลถึงบางไทร คาดไม่กระทบมากเหตุเจือจาง
เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - น้ำเสียจากอ่างทองไหลถึงบางไทรแล้ว แต่เจือจางลงมาก กรมชลเร่งติดกังหันน้ำชัยพัฒนา คาดถึงกรุงเทพฯไม่ส่งผลกระทบ
นายบุญสนอง สุชาติพงษ์ โฆษกกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์มวลน้ำเสียในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทำให้มีปลาตายจำนวนมากเมื่อวันที่12มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้มวลน้ำเสียยังคงอยู่ที่ช่วงบริเวณวัดเชิงเลน อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงท้ายสถานีวัดน้ำซี 29 อำเภอบางไทรและโรงกรองน้ำบางไทร ซึ่งมีค่าออกซิเจนในน้ำ (ดีโอ) อยู่ที่ 2.221.25 และ 2.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ตามลำดับ ซึ่งถือได้ว่าน้ำเสียเจือจางลงไปมากแล้วจากช่วงแรก ค่าดีโอต่ำสุดไม่เกิน 1 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่เคลื่อนตัวจากเมื่อวานนี้เพียง 5 กม.เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากสภาวะน้ำทะเลหนุน
ขณะนี้กรมชลประทานเร่งติดตั้งกังหันน้ำชัยพัฒนาทั้ง 36 เครื่องที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเพื่อใช้เติมอากาศในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว โดยจะติดตั้งเป็นระยะ ตั้งแต่จุดที่มีมวลน้ำเสียต่อเนื่องลงมาถึงพื้นที่ด้านใต้
อย่างไรก็ตามพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงคือจุดที่มีการเลี้ยงปลาอยู่มากของจังหวัดปทุมธานีน้ำเสียอาจส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของปลาได้ ส่วนที่กรุงเทพฯ นั้นทราบว่ามีการปิดประตูระบายน้ำคลองต่างๆป้องกันอย่างดีจึงน่าจะเบาใจได้และจากมาตรการบรรเทาปัญหาของหลายฝ่ายเป็นไปได้ว่ามวลน้ำเสียอาจจะเจือจางลงมากแล้วเมื่อมาถึงกรุงเทพฯ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)