Skip to main content
sharethis





สังคม - การเมือง


 


คนร้ายยิงถล่มรถตู้สาย เบตง - หาดใหญ่  มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย


กรมประชาสัมพันธ์ : เมื่อเวลาประมาณ 08.40 น. วันนี้ (14 มี.ค.50) เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงรถตู้โดยสารสายเบตง หาดใหญ่ ทะเบียน 10-0975 ยะลา ซึ่งเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด เบตงทัวร์ ที่บ้านอุเบง ม. 4 ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 8 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 ราย หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.นราศักดิ์  เชียงสุข  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งระหว่างทางพบว่าคนร้ายได้โรยตะปูเรือใบตลอดเส้นทาง และได้ตัดต้นไม้ขวางถนนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าจะเคลียร์เส้นทางและเข้าไปยังจุดเกิดเหตุได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ส่งโรงพยาบาลยุพราชยะหา และ เสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสนั้นเป็นคนขับรถ ทราบชื่อคือ นายอับดุลรอซะ  คอเด๊ะ รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 9 ราย


 



จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเหตุ นายอับดุลรอซะ  ได้ขับรถออกจากอำเภอเบตง เพื่อเดินทางไปยังอำเภอหาดใหญ่ เมื่อเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุพบว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ขวางถนนอยู่ จึงได้เลี้ยวรถกลับแต่ในระหว่างนั้นได้มีกลุ่มคนร้ายจำนวน 12 คน ยืนขวางถนนอยู่ และได้ใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่รถทันที คนขับจึงได้ขับรถหลบหนีแต่รถเสียหลักล้มข้างทาง คนร้ายทั้งหมดจึงได้ใช้อาวุธปืนตรงเข้าไปจ่อยิงเข้าศีรษะของประชาชนที่นั่งมาในรถจนส่งผลให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 8 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 5 ราย ในจำนวนนี้ มีเด็กผู้หญิงรวมอยู่ด้วย 2 ราย ส่วนอีกคนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารพรานซึ่งลาดตระเวนอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ได้เข้าไปช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ และเกิดการปะทะกันแต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ


 



ม็อบสตรี-เด็กปิดถนนร้องจนท. หาตัวคนร้ายขว้างระเบิดมัสยิด


เว็บไซต์คมชัดลึก : 15 มี.ค. เวลา 09.00 น. ที่ถนนสายยะหา-ปะแต บริเวณหมู่ที่ 4 ตำบลบาโร๊ะ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา มีสตรีและเด็กมุสลิมกว่า 100 คน เดินทางปิดถนนชุมนุมประท้วง เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐหาคนร้ายที่ก่อเหตุปาระเบิดใส่กลุ่มชาวบ้านที่มัสยิดตำบลบาโร๊ะ ทำให้มีคนเจ็บกว่า 10 คน ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมกับเรียกร้องจะเจรจากับนายอำเภอยะหา



 


ทัพภาค 4 ประกาศ'เคอร์ฟิว'อ.ยะหา - บันนังสตา


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : หลังจากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด วันนี้ (15 มี.ค.) พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะกองทัพภาคที่ 4 ได้ออกประกาศเร่งด่วนเพื่อควบคุมสถานการณ์เฉพาะหน้ารวม 4 ฉบับ ได้แก่


1.เรื่องประกาศห้ามการแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่และทหาร 2.เรื่องการห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถาน 3.เรื่องให้แจ้งการมีบุคคลนอกภูมิลำเนาเข้ามาพักอาศัยอยู่ด้วย และการพกพาบัตรประจำตัวประชาชน และ 4.ห้ามมิให้บุคคลใดใช้หรือมีเครื่องวิทยุคมนาคม หรือส่วนแห่งเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต


 


อัยการสั่งฟ้อง"อ้อ-พี่ชาย" โทษหนักคุก14ปี 


เว็บไซต์มติชน : นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด (อสส.) มีความเห็นสั่งฟ้องคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการคุณหญิงพจมาน ฐานหลีกเลี่ยงภาษีกว่า 546 ล้านบาทจากการโอนหุ้นบริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด มูลค่า 738 ล้านบาท ผ่าน น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี คนรับใช้ตระกูลชิวัตร


 


ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตรวจสอบพบความผิดและส่งสำนวนให้ อสส.พิจารณาสั่งฟ้องคดี ในความผิดฐานร่วมกันหลีกเลี่ยงภาษีอากรโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงและโดยอุบาย ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 (2) และร่วมกันแสดงข้อความเท็จ ใช้ถ้อยคำอันเป็นเท็จ และตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จโดยจงใจเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37(1) และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91 รวมความผิด 2 ข้อหา อันเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ


 


โดยนายอรรถพลกล่าวว่า ในความผิดดังกล่าวนั้นมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-200,000 บาท หากศาลมีคำพิพากษาว่านายบรรณพจน์และคุณหญิงพจมานมีความผิดจริงตามฟ้องและพิพากษาลงโทษเต็มอัตรา ทั้งสองจะต้องได้รับโทษ 2 เท่าคือจำคุกสูงสุดถึง 14 ปี และปรับสูงสุด 400,000 บาท


 






เศรษฐกิจ


 


"แอ๊บบอต"กร้าวเปิดศึกสาธารณสุข งดขายยาใหม่โต้สิทธิเหนือสิทธิบัตร


ประชาชาติธุรกิจ : "แอ๊บบอต" เล่นไม้แข็ง ขอถอนทะเบียนยาใหม่ 10 รายการ ไม่ขายในไทย หลังคุยกับกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (CL) ยาเอดส์ 2 รายการ ไม่รู้เรื่อง อ้างไทยไม่ให้ความสำคัญกับการคิดค้นยาใหม่ แถมเล่นแง่ไม่ให้ข้อมูลกับบริษัท ทั้งๆ ที่ยอมลดราคาแล้ว 3 ครั้ง ด้าน องค์การเภสัชฯไม่แคร์ เผยมีสต๊อกยาต้านเอดส์ Stocrin/Kaletra สำรองพอใช้ 4 เดือนถึง 1 ปี


 


แหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมยา เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของยาต้านไวรัสเอดส์ Kaletra ได้ตัดสินใจไม่ยื่นขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ และเพิกถอนคำขอขึ้นทะเบียนยาใหม่ที่ยื่นไว้กับองค์การเภสัชกรรม ซึ่งมีอยู่จำนวน 10 รายการ เช่น ยาโรคหัวใจล้มเหลว, ยาเม็ด Kaletra, ยา Zemplar สำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง, Simdax ในการรักษาโรคหัวใจล้มเหลว, Humira ในการรักษาโรค Autoimmune Disease, Aluvia Tablet ฯลฯ จนกว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนท่าทีในเรื่องดังกล่าว


 


รวมทั้งจะยุติกระบวนการเตรียมขึ้นทะเบียนยาใหม่ไว้ก่อนจนกว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะให้ความสำคัญกับการรักษาทรัพย์สินทางปัญญาและยกเลิกประกาศบังคับใช้สิทธิ (CL) ยา Kaletra ซึ่งเป็นยาภายใต้สิทธิบัตรของบริษัทเสียก่อน ส่วนยาที่วางจำหน่ายในตลาดอยู่แล้วจำนวน 12 รายการ บริษัทจะวางขายต่อไป


 


เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 06 ขาดดุลเดินสะพัดทำลายสถิติ


ผู้จัดการออนไลน์ : กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผย ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดประจำปี 2006 พุ่งทะยานทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จาก 791,500 ล้านดอลลาร์ ในปี 2005 กลายเป็น 856,700 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนกว่า 8%  ในภาพรวมตลอดปี 2006 เท่ากับว่า สหรัฐฯมียอดขาดดุลคิดเป็นสัดส่วนต่ออัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในระดับ 6.5% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 6.4% ในปี 2005


 


อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณายอดขาดดุลเป็นรายไตรมาส พบว่า สหรัฐฯมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงจาก 229,400 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 3 เหลือ 195,800 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นจำนวนน้อยที่สุดในระยะเวลากว่า 1 ปี เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลง ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าลดลงด้วย ขณะเดียวกัน ยังเป็นผลจากการที่สหรัฐฯส่งออกสินค้าได้มากขึ้น


 


"โฆสิต"ยันเดินหน้ารถไฟฟ้าสายที่มีความพร้อมก่อน


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการเดินหน้าโครงรถไฟฟ้า 5 สาย ว่า สำหรับมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 5 สายยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนการประเปิดประมูลและการก่อสร้างนั้น จะดำเนินการในสายที่มีความพร้อมก่อน และภายในอายุรัฐบาลที่เหลืออีก 7 เดือนนี้ รัฐบาลจะเปิดประมูลให้มากสายที่สุด


 


นายโฆสิต กล่าวว่า สำหรับการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต เป็นสายแรกนั้น พล.ร.อ.ธีระ จะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ ส่วนการใช้เงินกู้ในประเทศในการลงทุนนั้น ต้องถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำได้ในภาวะการเงินขณะนี้ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องกำลังเฝ้าจับตามองอัตราดอกเบี้ยในประเทศอยู่


 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "นายกฯพบสื่อทำเนียบ" ว่า นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รายงานถึงการเจรจาขอกู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ JBIC ว่า ทาง JBIC พร้อมให้กู้ยืมเงินในโครงการรถไฟฟ้า และเตรียมส่งคณะกรรมการเข้ามาประเทศไทย เพื่อทำการประเมินและตรวจสอบโครงการอย่างต่อเนื่อง


 






ต่างประเทศ


 


คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเตรียมที่จะประกาศคว่ำบาตรอิหร่านเป็นครั้งที่  2  ขณะที่ผู้นำอิหร่านกล่าวประณามว่าการคว่ำบาตรดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย


กรมประชาสัมพันธ์ : ประธานาธิบดีมาห์มุด  อาห์มาดิเนจาด ของอิหร่านกล่าวประณามคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเตรียมที่จะประกาศคว่ำบาตรอิหร่านเป็นครั้งที่  2  โดยกล่าวว่าการคว่ำบาตรดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย  หลังจากที่บรรดาผู้แทนจากประเทศมหาอำนาจในโลกกล่าวเมื่อวานนี้ว่า    ข้อเสนอเรื่องการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต่ออิหร่านมีขึ้นท่ามกลางการคาดหมายว่า  การลงคะแนนเสียงต่อมติดังกล่าวจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า  ทางด้านนายคาเซม        วาซิรี-ฮามาเนห์  รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอิหร่านยืนกรานวันนี้ว่า   การคว่ำบาตรที่แข็งกร้าวยิ่งขึ้นของสหประชาชาติต่ออิหร่านจะไม่ขัดขวางการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของอิหร่าน  หลังจากที่ผู้สื่อข่าวถามว่า  อุตสาหกรรมด้านพลังงานของอิหร่านจะประสบความยุ่งยากจากผลของการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ   อิหร่านเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออกหรือโอเปกที่เป็นผู้ส่งน้ำมันออกรายใหญ่ที่สุดอันดับ  4  ของโลกและมีก๊าซเป็นพลังงานสำรองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ  2  ของโลก


 


ผอ.IAEA เผยเกาหลีเหนือพร้อมที่จะยุติโครงการนิวเคลียร์หากสหรัฐยุติการแทรกแซงทางการเงิน


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค : นาย โมฮัมเหม็ด เอลบาราเด ผู้อำนวยการทบวงพลังงานปรมาณูสากลหรือไอเออีเอ กล่าวขณะที่อยู่ในจีนวันนี้ว่า ทางเกาหลีเหนือได้ยืนยันเมื่อวานนี้แล้วว่า มีความพร้อม,เต็มใจและสามารถยุติโครงการนิวเคลียร์หากสหรัฐยุติการแทรกแซงทางการเงินซึ่งหมายถึงการปล่อยให้ทางรัฐบาลเกาหลีเหนือสามารถเข้าถึงเงินในธนาคารในมาเก๊าได้


        


ผู้อำนวยการไอเออีเอยังได้กล่าวต่ออีกว่า  การที่เกาหลีเหนือแสดงท่าทีจะให้ความร่วมมือเช่นนี้เปรียบเหมือนกับขนมพุดดิ้งที่เพิ่งทำเสร็จและรอให้ไปชิม


         


ด้าน นาย คริสโตเฟอร์ ฮิลล์ หัวหน้าคณะเจรจาปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือของสหรัฐ ที่ขณะนี้อยู่ในจีนเช่นกัน ได้กล่าวยืนยันท่าทีของรัฐบาลสหรัฐ แล้วว่าจะยุติการแทรกแซงทางการเงินต่อเกาหลีเหนือ แต่ต้องปรึกษากับอีก 5 ประเทศที่ร่วมอยู่ในการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ซึ่งได้แก่ รัสเซีย ,จีน ,ญี่ปุ่น ,เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ รวมถึงทางไอเออีเอด้วย  ซึ่งจะได้นำไปหารือในกันการประชุม 6 ฝ่ายรอบต่อไปในวันจันทร์หน้า สำหรับสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐ ต้องแทรกแซงทางการเงินเกาหลีเหนือซึ่งเป็นเงินในธนาคารบังโก้ เดลต้า เอเซียของมาเก๊า เนื่องจากเกรงว่า เกาหลีเหนือจะนำไปใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์


 


รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวผู้ที่ทำการประท้วงรัฐบาลอย่างสันติ  7   คน


กรมประชาสัมพันธ์ : กลุ่มผู้ประท้วงผู้หนึ่งในพม่ากล่าววันนี้ว่า   ผู้ประท้วง   7   คนที่เข้าร่วมในการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าได้รับการปล่อยตัวแล้ว  หลังจากที่ถูกควบคุมตัวมาเป็นเวลา  1  สัปดาห์  นายมินต์ ฉ่วย    ผู้ประท้วงผู้หนึ่งแจ้งต่อสำนักข่าวเอพี.ว่า   คนทั้ง   7   ที่เข้าร่วมการประท้วงกับคนอื่นๆอีกหลายสิบคนเมื่อวันที่  22  กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในย่านศูนย์การค้าของกรุงย่างกุ้งได้รับการปล่อยตัวเมื่อคืนวันอังคารนี้      


 


อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ถูกควบคุมตัวคนใดที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ศูนย์สอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงย่างกุ้งถูกกระทำทารุณแต่อย่างใด   แต่กระนั้นก็ตามคนเหล่านี้ถูกควบคุมตัวไว้ในห้องขังที่ไม่มีความสะดวกสบายในการพักผ่อน    การประท้วงอย่างสันติของคนเหล่านี้มีขึ้นเพื่อต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลปรับปรุงการสาธารณสุข การศึกษาและเงินบำนาญให้ดีขึ้นกว่าเดิมตลอดจนทำให้ราคาสินค้าประเภทอาหารที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลมีราคาถูกลง


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net