ประชาไท - 16 มี.ค. 50 ที่ห้องประชุม 3601 รัฐสภา วันนี้ (15 มี.ค.) เวลาประมาณ 16.30น. มีการประชุมของอนุกรรมาธิการว่าด้วยสถาบันการเมืองที่มีนายจรัญ ภักดีธนากุลเป็นประธาน โดยพิจารณาถึงที่มาของสมาชิกวุฒิสภาต่อจากการประชุมครั้งที่ผ่านมาที่ได้ข้อสรุปว่า ให้มี ส.ว. 160 คน แบ่งเป็นสองบัญชี โดยบัญชี 1. คัดเลือกจากทุกจังหวัดจังหวัดละ 1 คน รวม 76 คน ซึ่งคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดจะต้องคัดเลือกให้เหลือจังหวัดละ 5 คน เพื่อส่งให้คณะกรรมการสรรหาระดับชาติคัดเลือกให้เหลือจังหวัดละ 1 คน บัญชีที่ 2 ให้คัดเลือกในระดับชาติจากกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ คำนึงถึงความเสมอภาคทางเพศ กระจายตามพื้นที่ โดยให้คณะกรรมการสรรหาระดับชาติคัดเลือกให้เหลือ 84 คน

นายจรัญแถลงว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปองค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ระดับชาติมีทั้งสิ้น 7 คน ประกอบด้วย 1.ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) 2. ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) 3. ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง) 4. ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน 5.ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกาคัดเลือกกันเอง 1 คน 6. ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดเลือกกันเอง 1 คน7.ประธานศาลรัฐธรรมนูญซึ่งในกรณีที่ยังไม่มีประธานศาลรัฐธรรมนูญให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคัดเลือกกันเอง 1 คน

ส่วนคณะกรรมการสรรหาฯระดับจังหวัดมี 7 คน ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษาหรือหัวหน้าศาลประจำจังหวัด ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้แทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน

ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนที่เป็นภาคธุรกิจ การค้าและวิชาชีพ ภาคแรงงาน โดยคณะกรรมการระดับจังหวัด จะกลั่นกรองผู้สมัครไม่เกินจังหวัดละ 10 คนและส่งมาให้คณะกรรมการระดับชาติพิจารณาเหลือจังหวัดละ 1 คน

นายจรัญ กล่าวว่า ในส่วนของ ส.ส. จะมีทั้งหมด 400 คน มาจาก ส.ส.เขตทั้งหมด แต่เปิดทางเลือกไว้แบบสองว่า มาจาก ส.ส.เขต 320 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 80 คน ส่วนคุณสมบัติของ ส.ว. หากที่ประชุมกรรมาธิการยกร่างรธน.เห็นควรให้มาจากการเลือกตั้ง ก็จะตั้งคุณสมบัติให้เข้มข้น เช่นห้ามคู่สมรสลง ต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำรงตำแหน่งใดๆในพรรคไม่น้อยกว่า 2 ปี และถ้าพ้นจาก ส.ว. ต้องไม่เข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น ส.ส.ภายใน 2 ปี และจะให้ ส.ว.หาเสียงได้ แต่ต้องเป็นธรรม เสมอภาคภายใต้การจัดการของ กกต.