ประชาไท - 14 มี.ค. 2550 เมื่อวันที่ 13 มี.ค. น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาฯคมช.ระบุหากประชามติไม่ผ่านก็มีรัฐธรรมนูญฉบับสำรองรออยู่แล้วว่า พล.อ.วินัยพูดไปตามหลักการเท่านั้น รัฐธรรมนูญปี 2549 ก็ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่า ถ้ามติไม่ผ่าน คมช.จะหยิบรัฐธรรมนูญฉบับใดขึ้นมาแก้ไขก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยส่วนตัวมองบรรยากาศทางการเมืองตอนนี้เป็นอย่างไร น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า กมธ.ยกร่างฯ รู้สึกว่า กำลังร่างรธน.ปี2550 คนละบรรยากาศกับตอนที่ร่างรธน.40 เพราะบรรยากาศการเมืองขณะนี้เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ซึ่งทางกมธ. ไม่ได้ขัดแย้ง แต่ตกอยู่ในภาวะของความขัดแย้งของหลายๆ ฝ่าย ทั้งฝ่ายบริหารและมวลชนกลุ่มต่างๆ ดังนั้น การร่างรธน.ในบรรยากาศแบบนี้ก็มีความอ่อนไหวง่าย บางเรื่องถูกหยิบยกขึ้นไปขยายผลในทางที่ไม่ได้เกิดผลดีจึงทำให้เกิดปัญหา

เมื่อถามว่ามีความหนักใจหรือไม่ที่มีกระแสว่าจะมีการชุมนุมเกิดขึ้น น.ต.ประสงค์กล่าวว่า เป็นบรรยากาศที่ไม่ดี ความขัดแย้งไม่ได้ลดลงไป แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่ของกมธ. เพราะกมธ.มีหน้าที่ยกร่างรธน.ให้เสร็จตามเวลาเท่านั้น จนกว่าจะมีกำหนดการเลือกตั้ง

"อยากให้ดูที่ประชาชนว่า ประชาชนจะได้อะไรจากการร่างรัฐธรรมนูญ ในการร่างรัฐธรรมนูญแต่ละครั้งเราต้องเอาไปรับใช้ประชาชนไม่ใช่เอาไปรับใช้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พวกผมไม่ใส่ใจว่าใครจะขัดแย้งกับใคร เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ แต่บรรยากาศอย่างนั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความรู้สึกของประชาชน" น.ต.ประสงค์กล่าว

ต่อความเห็นเรื่องการตั้งฉายา "รัฐธรรมนูญจับฉ่าย" น.ต.ประสงค์กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิตั้งฉายาได้ บางทีเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทำให้เป็นเรื่องขึ้นมา ทุกคนก็สามารถพูดได้เนื่องจากเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย นั่งกินข้าวคนละโต๊ะก็บอกว่าเกาเหลา อย่างไรก็ตาม สื่อต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าสื่อมีประโยชน์ต่อประชาชน สื่อดีๆ มีมาก เพราะทุกสังคมนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี สื่อก็เหมือนกันมีทั้งดีและไม่ดี ทั้งนี้ หากสื่อจะช่วยให้สังคมสงบก็สามารถจะช่วยได้เยอะ แต่ถ้าสื่ออยากให้เกิดความขัดแย้งสื่อก็สามารถทำได้ เนื่องจากประชาชนที่อยู่ห่างไกลข้อมูลข่าวสารไม่รู้ข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า หากประชามติไม่ผ่านจะหยิบรัฐธรรมนูญฉบับใดมาใช้ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่เขาร่างดีที่สุด ใช้ฉบับนี้ดีแล้ว เพราะฉบับที่กำลังร่างอยู่ระบุชัดเจนว่าประชาชนมีอำนาจมากขึ้นจริงๆ อำนาจรัฐลดน้อยลง การควบคุมการตรวจสอบฝ่ายการเมืองฝ่ายบริหาร ข้าราชการประจำมีสูงขึ้น ซึ่งรายละเอียดตรงนี้หากไม่เคยผ่านการร่างรธน.40 มา จะไม่สามารถพูดได้