สามปีที่หายไปของทนายสมชาย

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

อรพิณ ยิ่งยงพัฒนา

 

ราวๆ สองปีก่อน ได้มีโอกาสพบและรู้จักคุณอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของทนายสมชาย นีละไพจิตร ผู้ที่ถูกอุ้มหายไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2547 หลังจากเขาออกมาเปิดข้อมูลการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐต่อการดำเนินคดีในเหตุการณ์ภาคใต้ และล่ารายชื่อให้ยกเลิกกฎอัยการศึก

 

เรื่องราวที่ทนายสมชายหายตัวไป ไม่ได้จบลงไปเงียบๆ ตามกาลเวลาเหมือนกรณีฮอตฮิตอื่นๆ ในบ้านเรา นั่นก็เพราะมีคุณอังคณา ที่ไม่เคยหยุดหย่อนทำงานติดตามเรื่องนี้

 

 

เพื่อนคนนึงตั้งคำถามขึ้นด้วยความห่วงใยว่า เวลาล่วงเลยมาจนป่านนี้ คำถามที่สังคมต้องคิดต่อเรื่องนี้คืออะไร มันคือการค้นหาว่าสมชายหายไปไหนเหรอ? มันคือการหาทางที่ไม่ให้กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีกเหรอ? ฯลฯ

 

คดีการหายตัวไปของทนายสมชายยังไม่จบ ศาลอาจจะตัดสินไว้แล้วว่า จำเลยคนที่หนึ่ง (อาชีพตำรวจ) ที่มีพยานเห็นว่าเป็นผู้ที่ผลักทนายสมชายขึ้นรถไป มีความผิดฐานข่มขืนใจให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด

 

คำตัดสินบอกได้เพียงเท่านั้น เพราะยังไม่มีคำว่า "อุ้มหาย" ในกฎหมายอาญาไทย

 

ที่ว่าคดีการหายตัวไปของทนายสมชายยังไม่จบ หรืออีกนัยหนึ่งคือ จบไม่ได้ เพราะคำตัดสินของศาล ยังไม่ได้ตอบโจทย์ที่จำเป็นต้องตอบ เช่น ทำไมจำเลยต้องทำเช่นนั้น มีอะไรเป็นแรงจูงใจ มีใครเกี่ยวข้อง และที่สำคัญ ยังไม่ได้เชื่อมโยงกับโครงสร้างที่มองไม่เห็น เช่นว่าเกี่ยวพันกับกรณีภาคใต้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหน

 

และที่สำคัญ สำหรับครอบครัวนีละไพจิตรแล้ว เชื่อว่าการได้รู้ว่า อะไรเกิดขึ้นกับหัวหน้าครอบครัวของพวกเขาในวันนั้น เป็นเรื่องสำคัญต่อจิตใจของคนที่รักกัน

 

ทุกวันนี้ คุณอังคณาไม่อาจจะหยุดเข็นครกขึ้นภูเขา ผลักดันให้คดีคืบหน้า แม้ว่าอาจจะทำให้ชีวิตของเธอต้องไปพัวพันกับทั้งเรื่องราวและบุคคลต่างๆ ที่อาจจะทำให้ชีวิตไม่เป็นปกติสุขนัก รวมทั้งอาจก่อความทุกข์ใจบ้างก็ตาม

 

ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ เคยเสนอที่จะจ่ายเงินค่าชดใช้ให้เพื่อแลกกับการให้คุณอังคณาไม่ต้องทำอะไรต่อ แต่นั่นไม่ใช่! ความสบายจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าในใจยังถามถึงความจริงและความเป็นธรรม

 

การเข้าไปพัวพันต่อกระบวนการติดตามคดี อาจทำให้ชีวิตของเธอและครอบครัวไม่สู้จะปกติเท่าไร และก็ไม่มีทางเลือกที่ต้องให้คนจากหน่วยงานของรัฐเข้ามา "ติดตาม" และ "คุ้มครอง"

 

ในช่วงปีที่ผ่านมา ที่เข้าสู่ปีที่สามที่ทนายสมชายถูกทำให้หายไปนั้น แม้จะมีคำตัดสินของศาลออกมาแล้วก็ตาม แต่สังคมและครอบครัวยังไม่ได้คำตอบ ปัญหาที่รอการคลี่คลายยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการ "ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม"

 

การเคลื่อนไหวก้าวต่อๆ ไปที่สังคมต้องก้าวไปด้วยกัน โดยอาจมีคุณอังคณานำขบวนนี้ แม้จะมีเป้าหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่าต้องตามหาว่าทนายสมชายหายไปไหน ทว่า ระหว่างทางของการค้นหา นั่นคือกระบวนการสำคัญ

 

 

เรื่องขำๆ เรื่องหนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้คือ คุณอังคณาเพียรทำหนังสือเพื่อติดตามคดีถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นระยะๆ ล่าสุดได้ทำหนังสือทวงถามความคืบหน้า ไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ซึ่งครั้งที่ผ่านๆ มา หนังสือตอบกลับก็จะแจ้งให้ทราบว่ากำลังดำเนินการ แต่คำตอบล่าสุดจากผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภานั้นแจ้งว่า เนื่องจาก รัฐธรรมนูญ 2540 ถูกยกเลิกไปแล้ว ผู้ตรวจการฯ จึงไม่มีอำนาจใดๆ แล้ว

 

และก็น่าแปลกดี ขณะที่ทางการไทยมีท่าทีที่เงียบๆ ต่อกรณีนี้ ปรากฏว่าเรื่องนี้ เป็นกระทู้หนึ่งในสภาสหภาพยุโรป เพื่อถามถึงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของเพื่อนร่วมโลกนี้ และไม่เพียงเท่านั้น ในคณะทำงานด้านคนหายของสหประชาชาติ ได้รับเอาคดีการหายตัวของทนายสมชายเข้าไปในการดูแล

 

น่าสังเกตว่า คดีนี้ถือเป็นคดีแรกของประเทศไทยที่สหประชาชาตินำเข้าไป ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นั่นเพราะคดีของทนายสมชายได้รับการผลักดันอย่างหนัก มีการร่วมมือจากครอบครัว ขณะที่ประเทศไทยก็มีกรณีการหายตัวเกิดขึ้นนับไม่ถ้วนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ การจู่ๆ ก็หายตัวไปของคนคนหนึ่งเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย แต่ส่วนใหญ่ ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ทำให้ครอบครัว ญาติพี่น้องมักจะถอดใจก่อน ทำให้การติดตามคดีไปไม่ถึงที่สุด

 

ด้วยปัญหาเหล่านี้ การหายตัวไปของทนายสมชาย จึงไม่ใช่แค่เรื่องของคนคนเดียว จากกรณีนี้ มีผลทำให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งคณะอนุกรรมาธิการติดตามการหายตัวไปของทนายสมชาย ทำให้การค้นหาเบาะแสบุคคลใดๆ ก็ตาม จะนำมาพิสูจน์ว่าเป็นทนายสมชายหรือไม่

 

เมื่อพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ รายละเอียด-ข้อมูลทั้งหมด จะถูกรวบรวมเป็นฐานข้อมูลคนหายอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยยังไม่เคยทำมาก่อน

 

ทั้งหมดที่ผ่านมา ล้วนเป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวของคุณอังคณาและเพื่อนๆ

 

ก้าวต่อไปที่ต้องทำต่อคือ ทางสหประชาชาติมีอนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการถูกทำให้หายตัวไป กติกานี้จะเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานให้ประชาชนได้ในระดับหนึ่ง แต่ประเทศไทยยังไมได้ลงนาม

 

ทั้งที่ไม่น่าจะมีเหตุผลใดที่จะสมเหตุสมผลสำหรับการปฏิเสธการลงนามนี้…

 

"สมชาย" อาจจะเป็นชื่อโหลๆ ในสังคมไทยก็จริง แต่อย่าให้กรณีที่เกิดกับทนายสมชาย กลายเป็นกรณีโหลๆ ไปด้วยเลย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท