กลุ่มนักวิชาการออกมาเคลื่อนไหว ให้ ศธ.ตั้งกรรมการกลางสอบสวนวินัยของอธิการบดีและผอ.สถาบันชาติพันธุ์ หากพบมีความผิดให้ดำเนินการในทางวินัยและทางกระบวนการตามกฎหมายจนถึงที่สุด และเรียกร้องสถานฑูตปฏิเสธการออกตราประทับหนังสือเดินทางเข้าประเทศ (วีซ่า) กรณีที่นาย
โดยในแถลงการณ์แถลงการณ์นักวิชาการ ฉบับที่ 1 กรณีปัญหาการล่อลวง ล่วงละเมิดทางเพศในมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ระบุว่า จากข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนที่ได้แสดงว่านาย
แต่เหตุการณ์ปรากฏว่า นักศึกษาต้องจ่ายค่าเล่าเรียนและค่ากินอยู่เอง จนกระทั่งนักศึกษาและผู้ได้รับความเดือดร้อนได้ออกมาร้องเรียนต่ออธิการบดี แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากผู้รับผิดชอบสูงสุดของสถาบันที่ไม่นำพาต่อความเดือดร้อนของนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจากการกระทำที่เกิดขึ้นทั้งหลาย ซึ่งองค์กรและบุคคลดังปรากฏรายชื่อข้างท้ายหนังสือนี้ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวว่ามีลักษณะที่อาจเป็นอาชญากรรมโดยผู้เป็นครูเป็นปัญญาชนกระทำต่อศิษย์และผู้อยู่ในความดูแลและผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
จึงขอเรียกร้องดังต่อไปนี้ 1.ขอให้มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายยกเลิกคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนวินัยของนักศึกษาหรืออาจารย์ที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากผู้เรียกร้องไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด หากเป็นผู้เสียหาย ทั้งนี้การเรียกร้องเป็นสิทธิโดยชอบที่จะกระทำได้ ประกอบกับการไม่ได้รับความเอาใจใส่ จากผู้มีอำนาจในเรื่องการกระทำซึ่งเป็นความเสียหายร้ายแรงทางเพศและสิทธิทางสังคมเศรษฐกิจต่อบุคคลหลายกลุ่ม ของผู้อำนวยการศูนย์ชาติพันธุ์
2.ขอให้กระทรวงศึกษาธิการตั้งกรรมการกลางสอบสวนวินัยของอธิการบดีและผู้อำนวยการศูนย์ชาติพันธุ์ หากพบว่ามีความผิดให้ดำเนินการในทางวินัยและทางกระบวนการตามกฎหมายจนถึงที่สุด โดยคณะกรรมการต้องเป็นคนกลางที่มีความเข้าใจในความซับซ้อนเรื่องเพศภาวะและชาติพันธุ์
3.พฤติกรรมที่อาจเป็นการหลอกลวงนักศึกษาชาติพันธุ์ให้มาเรียนหนังสือและใช้นักศึกษาชาติพันธุ์เป็นข้ออ้างและเงื่อนไขในการขอสนับสนุนเงินทุนเพื่อดำเนินกิจกรรมของศูนย์ชาติพันธุ์ ตลอดจนการล่วงละเมิดทางเพศต่อหญิงชาติพันธุ์ทั้งที่เป็นศิษย์และผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างต่อเนื่องและยาวนานต่างกรรมต่างวาระ มีลักษณะเป็นการล่วงละเมิดต่อจรรยาบรรณของวิชาชีพทั้งอาจารย์และนักสังคมวิทยา-มานุษยวิทยา และขณะนี้ผู้อำนวยการฯผู้นี้กำลังจะไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกในต่างประเทศ จึงขอให้บุคคลผู้มีส่วนสนับสนุนการศึกษาต่อในครั้งนี้ได้โปรดถอนการช่วยเหลือในทุกรูปแบบ ขอให้สถานทูตปฏิเสธการออกตราประทับหนังสือเดินทางเข้าประเทศ (วีซ่า) ขอให้ผู้ทำหนังสือรับรองถอนการทำหนังสือรับรอง และขอให้หน่วยงาน แหล่งทุนต่างๆ ยุติการสนับสนุนเงินทุนในการศึกษาต่อครั้งนี้ พฤติกรรมของผู้อำนวยการศูนย์ชาติพันธุ์ที่กระทำต่อกลุ่มชาติพันธุ์หากเป็นจริงก็เป็นการย่ำยีและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดระงับการเดินทางไปต่างประเทศจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ
4.พฤติกรรมของผู้อำนวยการศูนย์ชาติพันธุ์หากเป็นจริงเป็นการใช้ "ความรู้" แสวงหา "อำนาจ" ตลอดจนผลประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างฉ้อฉลกระทำโดยมีเยาวชน หญิงชายชาติพันธุ์เป็นเหยื่อ จึงขอให้บุคคล คณะบุคคล องค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ที่ทำงานด้านชาติพันธุ์ ทรัพยากรธรรมชาติ สิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม หรืออื่นๆ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนกิจกรรมด้านชาติพันธุ์ของศูนย์ชาติพันธุ์ ระงับความร่วมมือและการให้ความช่วยเหลือ กับศูนย์ชาติพันธุ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จนกว่าจะได้มีการแก้ไขสะสางปัญหานี้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ปราศจากระบอบอำนาจนิยม ชายเป็นใหญ่ การกดขี่ทางเพศ ชาติพันธุ์ ชนชั้นและอายุ ซึ่งเป็นรากเหง้าความคิดของการย่ำยีมนุษย์ ผู้หญิง ชาติพันธุ์และ ผู้อ่อนแอทางสังคม ทั้งที่เกิดขึ้นในสังคมไทยและสังคมโลกอยู่ในขณะนี้
5.ขอเรียกร้องให้มีการช่วยเหลือเฉพาะหน้าในด้านภาวะจิตใจและการดำรงชีพแก่นักศึกษา ตลอดจนให้มีการคุ้มครองจากการข่มขู่คุกคามจากฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องโดยด่วน
6.องค์กรและผู้มีรายนามเบื้องล่างนี้ขอสนับสนุน ให้กำลังใจนักศึกษาและอาจารย์ที่กล้าทำการเปิดเผยเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมต่อพฤติกรรมที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้หญิง นักเรียน นิสิต นักศึกษาและกลุ่มชาติพันธุ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมาโดยตลอด เหตุการณ์ที่มีการขอความเป็นธรรมในลักษณะเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยราชภัฎนี้เป็นตัวอย่างของปัญหาในระดับชาติที่ถูกเพิกเฉยหรือได้รับการแก้ปัญหาแบบปัดสวะให้พ้นหน้า ซึ่งเท่ากับเป็นการสนับสนุนปัญหานี้ให้สืบทอดและผลิตใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยเหตุนี้การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกรณีนี้จึงมีความสำคัญยิ่งต่อการแก้ไขปัญหาความไม่เสมอภาคและการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้หญิง เยาวชนและชาติพันธุ์ สืบต่อไปอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ได้ลงรายชื่อนักวิชาการ ดังนี้คือ รศ.
นอกจากนั้น ยังมีเครือข่ายวิจัยและรณรงค์เพื่อสตรี, มูลนิธิผู้หญิง กฎหมายและการพัฒนาชนบท, สมาคมผู้หญิง กฎหมายและการพัฒนาแห่งเอเชียแปซิฟิก, มูลนิธิพัฒนาศักยภาพเยาวชน และกำลังอยู่ในระหว่างการติดต่อกับนักวิชาการและองค์กรอื่นๆ ด้วย
ผู้สื่อข่าวยังได้รายงานอีกว่า นอกจากนี้ "เครือข่ายเด็กและเยาวชนปกป้องสิทธิมนุษยชนภาคเหนือ" ได้ออกแถลงการณ์ทวงถามจุดยืนของอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายที่พึงปรารถนาคืออะไร?
โดยแถลงการณ์ ระบุว่า ในนาม "เครือข่ายเด็กและเยาวชนปกป้องสิทธิมนุษยชนภาคเหนือ" ได้ติดตามประเด็นปัญหาของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ที่ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิ์อันพึงมีพึงได้มาโดยตลอด และเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ได้ออกมาชี้แจงปัญหา และเรามีคำถามและความคิดเห็น 7 ประการดังนี้
1.คนที่ทำความผิดหรือถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดนั้น ไม่ว่าเป็นความผิดอาญา หรือทางแพ่ง กระทำการหนีชี้แจงปัญหา ไม่โต้แย้งข้อเท็จจริง โดย "การบวช" และผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ เป็นผู้บังคับบัญชา ไม่กระทำการสอบสวนข้อเท็จจริง เป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่?
และการที่ผู้บริหารสูงสุดอนุญาต ให้ลาบวช เป็นการกระทำที่ถูกต้องชอบธรรม หรือไม่? และวิธีแก้ปัญหาของผู้กระทำความผิดต่างๆ ควร"บวชเป็นพระ" เป็นทางออกเพื่อหนีปัญหา หรือหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษไม่ว่าหนักหรือเบาเป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่?
2.การกล่าวหาว่านักศึกษาชาติพันธุ์ชั้นปี 1 แอบอ้างชื่อ ไม่มีลายเซ็นของอธิการบดี นั้น เราพบว่าพวกเขานักศึกษาทั้ง 15 คนนั้นล้วนเป็นนักศึกษาจริง และมีพร้อมทั้งบัตรประจำตัวนักศึกษา หลักฐานใบสมัคร หลักฐานจ่ายค่าเทอม ฯลฯ) ส่วนนักศึกษาอีกสองคนเป็นนักศึกษาจีน และอีกหนึ่งคนเป็นนักศึกษาไร้สัญชาติจีนฮ่อที่ไม่ร่วมเรียกร้องสิทธิ์ในครั้งนี้ ซึ่งอาจจะมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป เราขอยืนยันว่าเป็นนักศึกษาจริง มิใช่แอบอ้าง อย่างที่อธิการบดีกล่าวอ้างแต่อย่างใด
3.การกล่าวอ้างว่า ถ้านักศึกษา 15 คน รับทุน แล้วนักศึกษาอีกจำนวนมากจะทำอย่างไร เมื่อเขาก็ต้องการทุน? นับว่าเป็นการกล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอยเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า สาเหตุที่พวกเขาในฐานะมาเรียน ณ สถาบันเป็นรุ่นแรกแห่งนี้ ส่วนสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทางสถาบันได้บอกแก่พวกเขาหรือสัญญาว่าจะมีทุนให้ โดยปกติแล้วถ้าไม่มีทุน พวกเขาเลือกที่จะเรียนใกล้บ้าน เรียนในสถาบันที่ค่าใช้จ่ายที่พวกเขามีเงินเพียงพอสมฐานะ เรียนในสถาบันที่ไม่ก่อให้พวกเขาเป็นหนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานทั่วไปของมนุษย์ในการตัดสินใจในเรื่องราวต่างๆ มิใช่หรือ ? และในช่วงเทอมที่สอง เมื่อไม่มีทุนให้นักศึกษาตามสัญญา พวกเขาไม่มีทางเลือก พวกเขาจำเป็นต้องกู้เงิน กรอ. เงิน กยศ. ซึ่งเป็นการกู้เงินและต้องจ่ายตามเงื่อนไข มิใช่ทุนการศึกษาแต่อย่างใด
และนักศึกษาทั่วไปที่ไม่ได้เข้ามาเรียนในสถาบันแห่งนี้ ไม่ได้รับสัญญาว่าจะมีทุนให้ หลายคนเข้ามาเรียนในสาขา คณะต่างๆ ต้องจ่ายค่าเล่าเรียนเงื่อนไขของพวกเขา ไม่มีการหลอกลวงพวกเขาว่าจะให้ทุน นักศึกษาบางส่วนอาจจะกู้เงินกรอ. กู้เงิน กยศ. ซึ่งอธิการบดีไม่ควรนำมากล่าวอ้างอย่างปนเปโดยมีเจตนาเพื่อที่จะทำให้สังคมสับสน และเพื่อลอยตัวไม่แก้ไขปัญหาเรื่องทุนการศึกษาของพวกเราอย่างไร้จริยธรรมคุณธรรม
4. เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ภายหลังจากที่นักศึกษาได้ออกมาเรียกร้องทวงสิทธิ์ของพวกเขา พวกเขาได้บอกกล่าวปัญหาของพวกเขา ที่ถูกหลอกลวง ไม่ทำตามสัญญา ไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้กับเพื่อน พี่ ทั้งอยู่ในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ และเพื่อนร่วมสถาบัน ตลอดทั้งสังคมมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายโดยรวมนั้น
เป็นผลทำให้คณะ ชมรมนักศึกษาต่างๆ จำนวนไม่น้อยได้เข้าใจปัญหาของพวกเขา ได้ร่วมฟังปัญหาของพวกเขาสนับสนุนพวกเขา เมื่อพวกเขาได้จัดกิจกรรมรณรงค์ปัญหาของพวกเขาท่ามกลางการข่มขู่คุกคามจากบุคคลต่างๆไม่พึงประสงค์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
ซึ่งการกระทำของชมรม คณะต่างๆ นั้นถือเป็นสิทธิเสรีภาพในสังคมประชาธิปไตยที่จะสนับสนุนให้สังคมมีความถูกต้องเป็นธรรม มิใช่เป็นการผสมโรงอย่างที่อธิการบดีกล่าวหาแต่อย่างใด และการที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยทำการตรวจสอบการใช้ IP ของอาจารย์ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยไม่ให้แสดงความคิดเห็นเท่ากับเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในสังคมประชาธิปไตยรอบรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายเท่ากับเป็นการกระทำเยี่ยงสังคมเผด็จการยุคไดเสาร์เต่าล้านปี
5. เรายอมรับความเป็นจริงว่า ในการเรียกร้องสิทธิ์พึงมีพึงได้ของนักศึกษาที่ถูกหลอกลวงในครั้งนี้พวกเขาได้ขอคำปรึกษาต่างๆจากอาจารย์ผู้เคยสอนพวกเรา ในขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี และหลายๆ คนรวมทั้งอธิการบดีด้วยก็ล้วนมีที่ปรึกษา ใช่หรือไม่? ไฉนพวกเขาจะขอคำปรึกษาจากอาจารย์ไม่ได้เชียวหรือ? เราคิดว่าพวกเขามีสิทธิที่จะขอคำปรึกษาจากใครก็ได้ที่เข้าใจปัญหาพวกเรา ขณะที่พวกเขาไม่สามารถได้รับความจริงใจจากผู้บริหาร และผู้บริหารกลับพยายามสร้างบิดเบือนว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งในหมู่อาจารย์ด้วยกันเพื่อบ่งบอกว่าพวกเขาถูกชักจูงได้ง่ายดั่งเช่นวัวควายกระนั้นหรือ?
และเราคาดหวังว่าอาจารย์ทุกคนไม่ว่าอยู่สถาบันแห่งหนใดที่เป็นความหวังของสังคม เป็นครูบาอาจารย์ที่ควรยกย่องเชิดชูได้ ต้องกล้ายืนหยัดต่อต้านความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น
6.เรารู้สึกยินดีชื่นชมในปรัชญาของมหาวิทยาลัยที่ว่าเป็นมหาวิทยาลัยหัวใจของประชาชนและมีเจตนารมณ์เพื่อพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับสถาบันแห่งนี้ แต่เมื่อเราได้เจอปัญหานักศึกษาที่ถูกหลอกลวง ไม่กระทำตามสัญญา และการหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดทางเพศนักศึกษาจากอาจารย์
เราคิดว่า มีความจำเป็นต้องเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลเพื่อขจัดเนื้อร้ายในสถาบัน เพื่อมิให้ปลาตัวเดียวต้องทำให้มหาวิทยาลัยต้องสูญเสียเกียรติภูมิ และชื่อเสียง แต่การกระทำของนักศึกษา กลับถูกผู้บริหารใส่ร้ายป้ายสีว่า เป็นผู้ทำลายชื่อเสียงสถาบัน
ทั้งๆ ที่การกระทำของนักศึกษา เป็นการปกป้องสถาบัน และไม่ต้องการให้คนชั่วลอยนวล และกระทำย่ำยีผู้หญิงเพศแม่อีกต่อไป เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่คนระดับผู้บริหารไร้ซึ่งความเป็นเหตุเป็นผลอย่างที่ควรจะเป็น
7.เราหวังว่าสถาบันราชภัฏเชียงราย จะต้องเป็นสถาบันที่ยกย่องเชิดชู คุณธรรม จริยธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักศึกษา มีหลักธรรมาภิบาล โดยกระบวนการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วน มีความโปร่งใส ให้มีการตรวจสอบและถ่วงดุล แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ.