"ครูหยุย" ลงเชียงรายเก็บข้อมูลนศ.ร้องถูกหลอก-ด้านสมัชชาชนเผ่าฯแถลงค้านยุบสถาบันชาติพันธุ์ฯ

ประชาไทภาคเหนือ รายงาน

 

"ครูหยุย" นำทีมช่วยเหลือนักศึกษาชาติพันธุ์ที่เชียงราย

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2550 คณะกรรมาธิการ จำนวน 30 คนนำโดย นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็กและเยาวชนสตรีผู้สูงอายุผู้พิการและความมั่นคงของมนุษย์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติและคณะกรรมาธิการฯ จำนวน 30 คน อาทิ นางกัญจนา ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ, นางทิชา ณ นคร, ครูมุกดา อินต๊ะสารและครูชบ ยอดแก้ว ฯลฯ ได้เดินทางมาจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามหาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีกลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 1 โปรแกรมชาติพันธุ์ศึกษาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย

 

ซึ่งทั้งหมดเป็นนักศึกษากลุ่มชาติพันธุ์ลัวะ ปกาเกอญอ ลีซู ลาหู่ ดาราอ้าง ฯลฯ ได้ทำการร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการฯ ถึงพฤติกรรมของผู้อำนวยการสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษาที่ชักชวนให้เข้าเรียนในสถาบันฯ โดยอ้างว่าจะให้ทุนการศึกษาจำนวน 15 ทุน จนจบหลักสูตรแต่ก็ไม่ให้ทุนตามที่อ้างไว้ทำให้นักศึกษาต้องกู้หนี้ยืมสินมาเรียนหนังสือ

 

 

นศ.ยืนยันให้ ผอ.ชาติพันธุ์ชดใช้ค่าเสียหาย-ให้ทุนตามที่สัญญา

นายสุรพจน์ มงคลเจริญสกุล ตัวแทนนักศึกษากล่าวว่าทางนักศึกษายังขอยืนยันเรียกร้องว่า 1.ให้ทางมหาวิทยาลัยรับผิดชอบต่อสิ่งที่ผู้อำนวยการสถาบันชาติพันธุ์ฯ ในฐานะที่เป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายได้กระทำไว้กับพวกตนและครอบครัว โดยชดใช้หนี้สินและค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ตลอดปีการศึกษา 2549 เป็นทุนการศึกษาจำนวน 200,000 บาทต่อคน ตามที่ผู้อำนวยการสถาบันฯ ได้สัญญาไว้

 

2.ให้ทางมหาวิทยาลัยตั้งคณะกรรมการในการแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยมีตัวแทนนักศึกษา คณาจารย์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ องค์กรที่ร่วมเซ็นสัญญาความร่วมมือกับสถาบันฯ คือ มูลนิธิพัฒนาชุมชนและภูเขา (พชภ.) สมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมชาวไทยภูเขาในประเทศไทย (IMPECT) ศูนย์ประสานงานองค์กรเอกชนพัฒนาชาวไทยภูเขา (ศอข.) โครงการพัฒนาพื้นที่สูง (UHDP) เครือข่ายผู้รู้ 13 ชาติพันธุ์ หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

3.ให้ทางมหาวิทยาลัยตั้งคณะกรรมการที่มีตัวแทนหลายฝ่ายเพื่อตรวจสอบวินัยของผู้อำนวยการสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษาโดยด่วน

 

4.ให้ทางมหาวิทยาลัยทำหนังสือตักเตือนอาจารย์และเจ้าหน้าที่บางกลุ่มในสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษาที่ปฏิบัติตนไม่เหมาะสมต่อนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือนักศึกษา

 

 

นศ.ร้องถูกคุกคาม ยืนยันเคลื่อนไหวเพื่อความถูกต้องชอบธรรม

นายสุรพจน์ ยังได้กล่าวว่าขณะนี้ ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาใดๆ ตามข้อเรียกร้องของนักศึกษาและองค์กรประชาชนต่างๆ แต่กลับใช้วิธีการยุบสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษาและปล่อยให้ฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัย อาจารย์ประจำ และเจ้าหน้าที่บางกลุ่มดำเนินการข่มขู่คุกคาม ดูถูกเหยียดหยามในทำนองว่า พวกเราเป็นนักศึกษาไร้คุณภาพ ตัวสร้างปัญหา ทำลายชื่อเสียงมหาวิทยาลัย ไม่เคารพกฎกติกา ทั้งๆ ที่พวกเราได้ชี้แจงมาโดยตลอดว่า การกระทำครั้งนี้เป็นไปเพื่อการรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในด้านศีลธรรม จริยธรรมอันดีงาม และความถูกต้องชอบธรรม อันเป็นบทบาทหนึ่งที่นักศึกษาและพลเมืองที่ดีของสังคมไทยพึงกระทำ

 

 

อจ.จุฬาหนุน นศ.เคลื่อนไหวไม่ทำสถาบันเสื่อม-ถือเป็นการปกป้องเกียรติ

ด้าน รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวให้กำลังใจนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวและกล่าวว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เป็นการทำให้สถาบันเสื่อมเสียแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามเป็นการปกป้องเกียรติของสถาบันให้คำนึงถึงความถูกต้อง และการเคลื่อนไหวเพื่อทวงความเป็นธรรมนั้นเป็นสิทธิของนักศึกษา ที่ผู้ใหญ่และองค์กรเครือข่ายชาติพันธุ์ต่างๆ ต้องเข้าใจและให้การสนับสนุน เราไม่สามารถแยกบทบาทนักศึกษาออกจากบทบาทของผู้ใหญ่ได้ และผู้ใหญ่ไม่ควรปล่อยให้นักศึกษาโดดเดี่ยวด้วย

 

 

นศ.เสนอมาตรการเร่งด่วนต่อคณะกรรมาธิการฯ

ทางกลุ่มนักศึกษาได้ประชุมปรึกษาหารือและประเมินผลกระทบระยะสั้น ระยะยาว จนได้ข้อสรุปและมีข้อเสนอเพิ่มเติมเร่งด่วนต่อคณะกรรมาธิการ ฯ 2 ข้อ ดังนี้

 

1.นักศึกษาทั้ง 15 คนจะขอย้ายหลักสูตรชาติพันธุ์ศึกษาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงไปยังมหาวิทยาลัยอื่นที่เหมาะสมกว่า และขอผลักดันให้มีการจัดตั้ง "คณะกรรมการหลายฝ่าย" เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีจริยธรรมที่ดีงาม และจัดสรรทุนการศึกษาตามความเหมาะสม

 

2.ให้คณะกรรมาธิการฯ ทำหนังสือถึงฝ่ายบริหาร อาจารย์ เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายให้เคารพสิทธิเสรีภาพ และยุติการกระทำที่ส่อไปในทางข่มขู่คุกคาม ดูถูกนักศึกษาว่าไร้คุณภาพ เป็น ตัวสร้างปัญหาให้กับราชภัฏ โดยให้คณะกรรมาธิการฯ ผลักดันให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบทางวินัยต่อคณะบุคคล ดังต่อไปนี้ คือ รศ.ดร.มาฆะ ขิตตะสังคะ ผู้อำนวยการวิทยาลัยนานาชาติอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง, นายธีรวัฒน์ วังมณี ผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์, นางสาวอัมพกา มาตา อาจารย์ประจำวิทยาลัยนานาชาติอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง, นายธนธร ทาคำฟู นิติกร มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นายสุรพจน์กล่าว

 


ธีรวัฒน์ วังมณี ผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์ (เสื้อสีแดงซ้ายมือ)

 


สำหรับนายธีรวัฒน์ วังมณี ผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์นั้น เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ.เข้าไปขัดขวางนักศึกษากลุ่มชาติพันธุ์และสันติศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่กำลังใช้เครื่องขยายเสียงชี้แจงข้อร้องเรียนของพวกตนที่ลานใกล้โรงอาหาร หน้าอาคารเรียนรวมตึก 26 ปี มรภ.เชียงราย โดยนายธีรวัฒน์แจ้งให้นักศึกษาหยุดใช้เสียงทันที  เพราะรบกวนการสอบของนักศึกษาปริญญาเอก และนายธีรวัฒน์ได้นำกล้องขึ้นมาถ่ายรูปนักศึกษาทีละคน พร้อมขู่ว่าจะตรวจสอบนักศึกษาที่มาชุมนุมทุกคน

 

 

"ครูหยุย" ระบุจะรับฟังสองด้าน เสนอเชิญทุกฝ่ายประชุมที่รัฐสภา 8 มี.ค.

ภายหลังการรับฟังปัญหาแล้ว นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็กและเยาวชนสตรีผู้สูงอายุผู้พิการและความมั่นคงของมนุษย์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวสรุปว่า คณะกรรมาธิการฯ หลายคนได้มาสัมผัสและได้ฟังปัญหาของเด็กนักศึกษาละเอียดขึ้นจะติดตามเรื่องนี้ทั้งสองด้าน โดยจะไปถามข้อมูลข้อเท็จจริงจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายด้วย ส่วนประเด็นเรื่องการยุบสถาบันชาติพันธุ์ฯ นั้น ก็จะถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่าเด็กจะหาเรียนที่ไหนและเรื่องทุนการศึกษาจะทำอย่างไร ขณะเดียวกันการเอาผิดเรื่องล่วงละเมิดทางเพศคงต้องติดตามข้อมูลต่อเนื่องและเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางศาลด้วย โดยจะให้มีการประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2550 ที่อาคารรัฐสภา โดยจะเชิญอธิการบดี ม.ราชภัฏเชียงราย ผู้อำนวยการวิทยาลัย ตัวแทนนักศึกษา 2 คน ไปให้ข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาโดยด่วน

 

ด้านนายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2550 ว่า หากข้อร้องเรียนของนักศึกษาเป็นจริง ถือว่าร้ายแรงมาก ทั้งการล่วงละเมิดทางเพศ หรือหลอกลวงให้ทุน ทั้งนี้ ปัญหาของชนกลุ่มน้อยจะต้องดูแลเพราะเป็นปัญหาพิเศษ ซึ่งตั้งใจว่าก่อนปิดภาคเรียนนี้ จะลงไปตรวจเยี่ยมสักครั้ง เพราะมีปัญหาอื่นๆ ต้องดูแลแก้ไขด้วย

 

 

ชนเผ่าออกแถลงการณ์คัดค้าน มรภ.เชียงรายยุบสถาบันชาติพันธุ์ฯ

 


 

 

 

นอกจากนี้ ตามที่มีรายงานข่าว มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เรื่อง ยุบเลิกหน่วยงาน ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 ลงนามโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มาณพ ภาษิตวิไลธรรม เนื้อหาโดยสังเขป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 31 (1) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 จึงให้ยุบเลิกหน่วยงานและโอนภารกิจตลอดจนบุคลากรในสังกัดของ 1.สถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา 2.สถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง ให้ไปเป็นของวิทยาลัยนานาชาติภูมิภาคลุ่มน้ำโขงนั้น

 

ในวันเดียวกันนี้ ที่ห้องประชุมในสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เครือข่ายผู้รู้ภูมิปัญญาชนเผ่า 13 ชนเผ่า, สมัชชาชนเผ่าแห่งประเทศไทย, เครือข่ายสตรีชนเผ่าประเทศไทย และเครือข่ายชนเผ่ารวม 12 องค์กร ได้ออกแถลงการณ์กรณีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายประกาศยุบสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา แสดงจุดยืนคัดค้าน คำสั่งประกาศยุบสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ และเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยทบทวนคำประกาศดังกล่าว ดังมีรายละเอียดท้ายข่าว

 

หลังการประกาศคำแถลงการณ์ นายวิวัฒน์ ตามี่ ชาวลีซู ผู้ประสานกองเลขานุการ สมัชชาชนเผ่าแห่งประเทศไทย ระบุว่า ก่อนที่จะมีการตั้งสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นายสมบัติ บุญคำเยืองได้มีการชักชวนให้ชนเผ่าต่างๆ เข้าไปร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ มีการจัดมหกรรม กิจกรรมสนับสนุนการตั้งศูนย์ชาติพันธุ์ศึกษา มีคนมาร่วมเป็นหมื่น ทุกชนเผ่าระดมเงินไปสร้างบ้านของแต่ละเผ่าให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ของแต่ละชาติพันธุ์ บางเผ่าเสียเงินห้าหมื่นก็มี สองแสนก็มี

 

แต่พอศูนย์ชาติพันธุ์ศึกษาได้รับการรับรองจากสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายให้เป็นสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา ก็ไม่มีการเชิญเครือข่ายชนเผ่ามาร่วมอีก และการจัดกิจกรรมกับเครือข่ายชนเผ่าก็ไม่มี ส่วนศูนย์การเรียนรู้ที่ให้ชนเผ่า 6-7 เผ่าไปสร้าง ก็ร้างไปแล้ว เพราะไม่มีคนไปใช้ นายวิวัฒน์กล่าว

 





แถลงการณ์

กรณี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายประกาศยุบสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา

 

ตามที่นักศึกษากลุ่มชาติพันธุ์ลัวะ ปกาเกอญอ ลีซู ลาหู่ ดาราอั้ง ชั้นปีที่ 1 รุ่นที่ 1 ของสาขาวิชาชาติพันธุ์ศึกษาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จำนวน 15 คนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากพฤติกรรมของนายสมบัติ บุญคำเยือง ผู้อำนวยการสถาบันฯ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2550 ที่ผ่านมานั้น

 

บัดนี้การแก้ไขปัญหาตามเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด อีกซ้ำมหาวิทยาลัยฯ กลับมีพฤติกรรมปกป้องการกระทำมิชอบของนายสมบัติ บุญคำเยือง ด้วยการประกาศยุบสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา ตามประกาศของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 เพื่อกลบเกลื่อนปัญหาที่เกิดขึ้น และโยนความผิดให้กับสถาบันและระบบการศึกษาว่าไม่มีคุณภาพ ซึ่งไม่ใช่ข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษาแต่อย่างใด เครือข่ายผู้รู้ 13 ชนเผ่า สมัชชาชนเผ่าแห่งประเทศไทย และองค์กรชนเผ่าต่างๆ ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนที่จัดตั้งขึ้น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ และเรียกร้องความเป็นธรรมของพี่น้องกลุ่มชนเผ่าและชาติพันธุ์ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐและการพัฒนาที่ผ่านมา ขอแถลงท่าทีและข้อเรียกร้องต่อกรณีละเมิดสิทธิชนเผ่าดังกล่าว ดังนี้

 

1.เราขอคัดค้าน คำสั่งประกาศยุบสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ อย่างถึงที่สุด เราเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยทบทวนคำประกาศดังกล่าว ทั้งนี้ เพราะเราเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความผิดของนักศึกษา หรือความด้อยคุณภาพทางวิชาการหรือการกลั่นแกล้งของกลุ่มบุคคลใด หากแต่เป็นพฤติกรรมที่เกิดจากความบกพร่องทางศีลธรรมจริยธรรมของบุคคล ซึ่งมหาวิทยาลัยจะต้องตรวจสอบและลงโทษ

 

2.เราขอยืนยันว่า "สถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา" มิใช่เป็นสมบัติส่วนตัวของนายสมบัติ บุญคำเยือง แต่เป็นผลพวงจากการผลักดันต่อสู้ของพี่น้องชนเผ่าและชาติพันธุ์ ที่ต้องการให้สถาบันการศึกษาจัดตั้งมีสถาบันทางวิชาการเกี่ยวกับ "ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา วิถีวัฒนธรรมและองค์ความรู้" ของชนเผ่าและชาติพันธุ์ เพื่อรองรับการเรียนรู้ของนักศึกษาและประชาชน โดยเฉพาะลูกหลานของพวกเรา ให้มีแหล่งข้อมูลการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาและยกระดับให้เป็นภาควิชาการของภาคประชาชนทั่วโลกได้ศึกษาเรียนรู้

 

3.เราจะได้ประสานไปยัง กลุ่มนักศึกษาสาขาวิชาชาติพันธุ์ศึกษาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้ยกเลิกคำประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เรื่อง ยุบเลิกหน่วยงาน ฉบับลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 และขอความกรุณาให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อขอคุ้มครองสิทธิ์ชั่วคราวให้นักศึกษาสามารถศึกษาต่อจนกว่าการพิจารณาคดีจะแล้วเสร็จ

 

4.เราขอเรียกร้องต่อรัฐบาล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการที่มีความเป็นอิสระ เป็นกลาง และเป็นการยอมรับทางสังคมขึ้นมา ตรวจสอบพฤติกรรมไม่ชอบของผู้บริหารมหาวิทยาลัยในคำประกาศยุบสถาบันดังกล่าว เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้เกิดความชอบธรรมให้นักศึกษาและทุกฝ่าย โดยระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดนี้ ให้มีกลไกและมาตรการคุ้มครองสิทธิของกลุ่มนักศึกษาให้ได้รับความปลอดภัย โดยไม่เลือกปฏิบัติ และสามารถศึกษาต่อจนจบหลักสูตร

 

เราขอยืนยันว่า เครือข่ายผู้รู้ภูมิปัญญาชนเผ่า 13 ชนเผ่า สมัชชาชนเผ่าแห่งประเทศไทย และองค์กรชนเผ่าต่างๆ จะได้ติดตามตรวจสอบ และผลักดันให้การแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิกลุ่มนักศึกษาชาติพันธุ์กรณีดังกล่าวให้ได้รับความเป็นธรรม จนถึงที่สุด นอกจากนี้ เราขอเรียกร้องต่อรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ และสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จะต้องเปิดโอกาสสร้างพื้นที่และสนับสนุนการจัดตั้งและยกระดับสถาบันทางวิชาการด้านชาติพันธุ์ที่ชนเผ่ามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

 

ด้วยเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยและเคารพศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์

เครือข่ายผู้รู้ภูมิปัญญาชนเผ่า 13 ชนเผ่า, สมัชชาชนเผ่าแห่งประเทศไทย, เครือข่ายสตรีชนเผ่าประเทศไทย, เครือข่ายลีซู, เครือข่ายลาหู่, เครือข่ายม้ง, เครือข่ายอาข่า, เครือข่ายกะเหรี่ยง, เครือข่ายเมี่ยน, เครือข่ายลัวะ, เครือข่ายดาระอั้ง, เครือข่ายคะฉิ่น

 

3 มีนาคม 2550 ณ ห้องประชุมสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่

 

อ่านข่าวย้อนหลัง

นศ.มรภ.เชียงรายโวยถูก ผอ.ศูนย์ชาติพันธุ์หลอกให้เรียนฟรี แต่กลับต้องกู้เงินจนเป็นหนี้ทั้งชั้น 2 ก.พ. 2550

นศ.ชนเผ่า มรภ.เชียงราย สุดทนยื่นหนังสือร้อง กสม. สอบ-แฉพฤติกรรมของ ผอ.สถาบันชาติพันธุ์หลอกมาเรียน 3 ก.พ. 2550

ศิษย์เก่านศ.เชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ประณาม ผอ.สถาบันชาติพันธุ์ ราชภัฎเชียงราย 4 ก.พ. 2550

มรภ.เชียงรายแจงรอสอบข้อเท็จจริงกรณี นศ.ร้องเรียน ผอ.สถาบันชาติพันธุ์ฯลวงมาเรียน 6 ก.พ. 2550 ที่มา : สำนักข่าวประชาธรรม

คนงานเก่าอ้าง ผอ.ชาติพันธุ์ ลวงออกงานมาเรียนต่อแล้วลอยแพ  7 ก.พ. 2550

เครือข่ายชาติพันธุ์ออกโรงจี้อธิการบดี มรภ.ชร.รับผิดชอบกรณี นศ.ร้องเรียนพฤติกรรม ผอ.ชาติพันธุ์ฯ 7 ก.พ. 2550

เครือข่ายเยาวชนฯ ออกแถลงการณ์ขอความเป็นธรรมให้น้องชนเผ่า มรภ.เชียงราย 11 ก.พ. 2550

ศิษย์เก่า มรภ.เชียงรายออกโรงจี้อธิการบดีเร่งสอบกรณี นศ.ร้องเรียนพฤติกรรม ผอ.สถาบันชาติพันธุ์ 12 ก.พ. 2550

กรณี มรภ.เชียงรายกับ น.ศ.ชนเผ่าลาม สนนท. ออกโรงเรียกร้องความเป็นธรรม 13 ก.พ. 2550

นศ.ชนเผ่าสุดทนบุกสำนักงานอธิการบดี มรภ.เชียงรายยื่นหนังสือตามความคืบหน้า 17 ก.พ. 2550

นศ. มรภ.เชียงรายเร่งอธิการบดีสอบสวนกรณี นศ.ร้องเรียน ผอ.ชาติพันธุ์ฯ 19 ก.พ. 2550

นศ.มรภ.เชียงราย เขียนจดหมายแฉพฤติกรรม ผอ.ชาติพันธุ์ฯ หลอกมาเรียนก่อนปล่อยให้เคว้ง 22 ก.พ. 2550

นศ.มรภ.เชียงราย เขียนจดหมายแฉ หลอกมาเรียนก่อนปล่อยเคว้ง (2) 25 ก.พ. 2550

นศ.ชาติพันธุ์ปราศรัยทั่วมหาวิทยาลัย ฝ่ายบริหารเปิดฉากคุกคาม 25 ก.พ. 2550

นศ.สถาบันชาติพันธุ์ฯ เชียงราย หอบหลักฐานแจ้ง ตร.เอาผิด ผอ. 27 ก.พ. 2550 ที่มา:สำนักข่าวประชาธรรม

นศ.ชาติพันธุ์เข้ากรุงเทพฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนครูหยุย-กสม.-รมช.ศธ. 1 มี.ค. 2550

ราชภัฏ ชร.ชิงยุบสถาบันชาติพันธุ์ ก่อน "ครูหยุย" เข้าสอบข้อเท็จจริง 3 มี.ค. 2550

เปิดประกาศมรภ.เชียงรายยุบเลิกสถาบันชาติพันธุ์และสันติศึกษา 3 มี.ค. 2550

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท