Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 28 ก.พ.50 หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติ (ครม.) รับทราบการปลด พล.ท.นพ.มงคล จิวะสันติการ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา


 


นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า การออกจากตำแหน่งในครั้งนี้จะมีผลในอีก 1 เดือน ทำให้น่าเป็นห่วงว่า ในช่วงช่วงสุญญากาศ องค์การเภสัชกรรมจะเป็นกลไกหลักที่ต้องดำเนินการเรื่องมาตรการบังคับใช้สิทธิใน(CL-Compulsory License) พอดี ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการตัดสินใจ การต่อรองขององค์การเภสัชกรรมกับบริษัทยาต่างชาติ  


 


ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ตั้งคำถามต่อไปว่า ก่อนจะมีคำสั่งปลด ได้มีแผนการหรือการเตรียมการใดรองรับไว้หรือไม่ โดยยกกรณีตัวยาหนึ่งคือ ยาต้านไวรัสชนิดใหม่ล่าสุดชื่อคาเล็ทตรา ซึ่งประเทศไทยใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิในตัวยานี้โดยจะนำเข้าจากประเทศอินเดียด้วย และดำเนินการเอายาเข้ามา นอกจากหน่วยงานอย่างองค์การเภสัชกรรมแล้ว ยังต้องมาจากกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติด้วย อย่างไรก็ดี คนดำเนินการหลักยังต้องมาจากฝ่ายบริหารขององค์การเภสัชกรรม


 


"การทำ CL ไม่ใช่แค่ซื้อ แต่มันต้องถ่ายทอดเทคโนโลยี ซื้อสูตร ซื้อวัตถุดิบ และคนขององค์การเภสัชต้องเรียนรู้วิธี และเตรียมตัวที่จะผลิตยาเอง เรื่องแบบนี้ ต้องมาดำเนินการโดยคนในระดับบริหาร ที่จะเป็นผู้เจรจา" นายนิมิตร์กล่าว


 


เขากล่าวต่อว่า ในระหว่างสุญญากาศนี้ ประเทศไทยอาจจะมียาในสต็อกที่จะใช้ได้ในอีก 1 เดือน แต่หลังจากนี้ ต้องมีคนขององค์การเภสัชกรรมตัดสินใจ ซึ่งนั่นต้องมีความชัดเจนในตัวบุคคล ทั้งนี้ไม่รู้ว่าก่อนมติขอให้ผอ.องค์การเภสัชกรรมออกจากตำแหน่ง ได้มีการวางแผนหรือเตรียมการอะไรหรือไม่


 


ส่วน พล.ท.นพ.มงคล จิวะสันติการ ก็ได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงในวันนี้เช่นกัน หลังจากถูกพาดพิงว่าทำงานไม่มีคุณภาพ โดยระบุว่า เป็นความเข้าใจผิดที่คิดว่าองค์การเภสัชกรรมผลิตยาไม่มีคุณภาพ


 


เขากล่าวว่า การทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชฯ ถือเป็นสัญญาจ้าง และมีคณะกรรมการประเมินการทำงานโดยวัดจากแผนงานที่ทำผ่านกระทรวงการคลัง ผ่าน 80% และเงื่อนไขพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ คือตาย ลาออก ปลดออกและให้ออกโดยเลิกสัญญาจ้าง ซึ่งขอยืนยันว่า ไม่ได้ถูกปลดออก หากเป็นการให้ออกโดยเลิกสัญญาจ้าง แต่ไม่ได้บอกเหตุผล ซึ่งเท่าที่ทราบเป็นเรื่องด่วนมาก โดยเข้าสู่วาระการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรมเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ แต่เลื่อนมาจากวันที่ 27 กุมภาพันธ์ แล้วจึงนำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีทันที


 


ด้าน นพ.วิชัย โชควิวัฒน อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า เมื่อประมาณปลายปีที่ผ่านมา พล.ท.นพ.มงคล จิวะสันติการเคยเข้ามาขอลาออกจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการอภ. ซึ่งการออกจากตำแหน่งถือเป็นการยกเลิกสัญญาจ้างไม่ใช่การปลดออก อีกทั้งต้องการให้จากกันด้วยดี จึงขอให้ออกจากตำแหน่งโดยไม่ต้องลาออก เพราะหากลาออกพล.ท.นพ.มงคล จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ อภ. 6 เดือน แต่หากเป็นการให้ออก ตามสัญญาอภ.จะเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียโอกาสจำนวน 6 เดือน อีกทั้งเป็นมติที่ผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารไม่ใช่การตัดสินใจเพียงคนเดียว


 


นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการออกจากตำแหน่งของผอ.องค์การเภสัชกรรมครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบด้านการดำเนินงานขององค์การเภสัชกรรมแต่อย่างใด องค์กรเภสัชกรรมยังคงเป็นหน่วยงานหลัก ในการพัฒนาและผลิตยาตอบนสองนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนผู้ที่จะรักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมขณะนี้ยังไม่มีการวางตัวไว้เนื่องจากตามสัญญาพล.ท.นพ.มงคลยังปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การเภสัชอีก 1 เดือน


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net