ภาคีคนฮักเจียงใหม่แถลงค้าน ทส.รับช่วงไนท์ซาฟารีต่อจาก อพท. ชี้ขาดทุน ไม่โปร่งใส ขัดข้อ กม. กระทบ สวล.มาแต่ต้น แจงการรับช่วงต่อจึงเท่ากับ อพท.โยนเผือกร้อนให้ ทส. ซ้ำจี้ สตง.ตรวจสอบการใช้อำนาจสั่งการดำเนินการของ "ปลอดประสบ"

ตามที่นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รวว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากการประชุม ครม.วันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง นายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ได้เสนอให้ปรับรูปแบบการบริหารงานของโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีออกจากความรับผิดชอบของ อพท. เนื่องจากเห็นว่า อพท.เป็นองค์กรมหาชนที่ทำหน้าที่วางแผนและนโยบายเท่านั้น แต่ไม่ควรบริหารโครงการเอง

ทั้งนี้ ครม.มอบหมายให้ ทส.รับดำเนินโครงการไนท์ซาฟารีต่อจากอพท. โดยเห็นว่าควรจัดตั้งเป็นบริษัทที่รัฐถือหุ้น 100% เพื่อให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และจะแตกต่างจากการบริหารในรูปแบบรัฐวิสาหกิจขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมอบหมายให้นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ปลัด ทส. พิจารณารูปแบบต่อไปนั้น

ล่าสุดวันนี้ (23 ก.พ.) ที่สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ ตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ นำโดยนายชัยพันธุ์ ประภาสะวัตร นายนิคม พุทธา ศ.เฉลิมพล แซมเพชร และนายสุริยัน ทองหนูเอียด เปิดแถลงข่าวต่อกรณีดังกล่าวขึ้น

นายนิคม พุทธา ผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ภาคเหนือ และสมาชิกภาคีคนฮักเจียงใหม่ กล่าวว่า ตนเห็นว่าไม่ควรอย่างยิ่งที่กระทวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) จะเข้ามารับเอาโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเข้ามาดำเนินการในรูปของบริษัท และนายปลอดประสพ สุรัสวดี มีหน้าที่ให้ ทส.เข้ามารับผิดชอบ โดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ได้ทราบมาตั้งแต่แรกแล้วว่าโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไม่มีความถูกต้องทางกฎหมายมาตั้งแต่แรก แต่ก็ยังที่จะดึงดันดำเนินการก่อสร้าง ดังนั้นกรณีดังกล่าวจึงเป็นการพยายามที่จะปัดความรับผิดชอบนี้ออกไปให้พ้นตัว

นายนิคม กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวเท่ากับว่า ทส.รับเอาปัญหาที่รัฐบาลชุดที่แล้วทำมาแบกรับไว้เอง เพราะในขณะนี้ ทส.เองยังไม่มีความพร้อมในเรื่องของการจัดการท่องเที่ยว รวมทั้งการดูแลสัตว์ป่า เพื่อที่จะไม่ให้ไนท์ซาฟารีขาดทุน รวมทั้งรูปแบบการบริหารงานของรัฐจะเป็นอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะให้คำตอบที่ชัดเจนได้ในเรื่องนี้

นอกจากนี้ นายนิคม ยังได้เสนอให้ ทส.ตรวจสอบการใช้อำนาจของนายปลอดประสพ ว่ามีความชอบธรรมในการใช้อำนาจหรือไม่ ถ้าไม่มีความถูกต้องควรจะต้องรีบดำเนินการทางด้านกฎหมายโดยด่วน และให้ตั้งคณะกรรมการกลาง โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรภาคประชาชนเข้ามาเป็นคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสวนสัตว์ดังกล่าว รวมทั้งการใช้จ่ายงบประมาณต่างๆที่มีความไม่ชอบธรรม

นายชัยพันธุ์ ประภาสวัต ผอ.สถาบันเพื่อสิทธิชุมชน และเป็นสมาชิกภาคีคนฮักเจียงใหม่ กล่าวว่า ตนอยากเรียกร้องให้คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑะกา และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบการใช้อำนาจของนายปลอดประสพ สุรัสวดี และการจัดตั้งโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  เพราะกระบวนการดำเนินการนั้นมีความผิดมาตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลชุดที่ผ่านมา และรัฐบาลชุดนี้ก็กำลังจะเข้ามาดำเนินการสานต่อความผิด โดยการเข้าไปรับช่วงต่อเพื่อไปดำเนินการเอง และไม่ได้สนใจต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นและจะไปทำในรูปแบบของบริษัทเอกชน แบบนี้จะเรียกว่าใช้เศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างไร

นายชัยพันธุ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้นรัฐต้องปิดโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และคืนที่ดินให้กับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ และนำสัตว์ป่าไปให้กับสวนสัตว์แต่ละแห่งเป็นผู้ดูแล เพราะการดำเนินกิจการสวนสัตว์ที่ผ่านมาทั่วประเทศเป็นเครื่องที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าขาดทุนทุกที่ รวมทั้งที่โครงการไนท์ซาฟารีด้วย แต่ทางสวนสัตว์กลับไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการเข้ามาเที่ยวชมสวนสัตว์ของนักท่องเที่ยว.

....................................................................

ที่มา สำนักข่าวประชาธรรม