Skip to main content
sharethis



การเมือง


 


"เสรีพิศุทธ์" คาดโทษ ตร.นอกแถว-ใส่เกียร์ว่าง "ระวังตัวให้ดี!"


ผู้จัดการออนไลน์ : รักษาการ ผบ.ตร.ระบุจะทำงานด้วยความยุติธรรม กำชับตำรวจอย่าแบ่งพรรคแบ่งพวกและแบ่งสี คาดโทษตำรวจนอกแถวใส่เกียร์ว่างระวังจะเจ็บตัว พร้อมเตรียมเรียกประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.ลงมาในวันพรุ่งนี้ สางคดีสำคัญ ทั้งระเบิด 9 จุด บึ้มเดลินิวส์ และสถานการณ์ภาคใต้ เผยไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะได้รับความไว้วางใจจากนายกรัฐมนตรี


 


 


สมาคมสื่อร่อนจม.ถึง "ไทม์" โต้ทักษิณบิดเบือน


สำนักข่าวเนชั่น :  สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยทำจดหมายชี้แจงไปยังผู้บริหารนิตยสารไทม์ หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์นิตยสารไทม์ มีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า สื่อมวลชนไทยลงข่าวเกี่ยวกับตนเอง โดยไม่มีหลักฐาน และลงความจริงไม่หมด พร้อมกับยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงและคุกคามสื่อในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจดหมายมีเนื้อหาระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่ในการรายงานข่าวของสื่อสารมวลชนไทยในระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และการตรวจสอบรัฐบาลนั้น ได้กระทำอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ โดยมีแหล่งข้อมูลกับแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ซึ่งปรากฏชัดว่าหลายกรณีนโยบายรัฐบาลไม่โปร่งใส และมีปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในโครงการต่างๆ ดังนั้น ข้อกล่าวหาดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริง


 


สมาคมวิชาชีพสื่อยังยืนยันด้วยว่า ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น มีการปิดกั้นและคุกคาม แทรกแซงสิทธิเสรีภาพการทำงานของสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยใช้อำนาจทางการเมือง ควบคุมสื่อของรัฐ คือ วิทยุ โทรทัศน์ ทำให้ไม่สามารถเสนอข่าวสารต่างๆ ได้อย่างเสรี มีการกดดันให้ผู้บริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์ถอดผู้ดำเนินรายการที่วิพากษ์วิจารณ์การเมืองอย่างกะทันหัน ใช้อำนาจทุนและกฎหมายฟ้องร้องทางคดี เพื่อเรียกค่าเสียหายเป็นมูลค่าสูงเกินจริงกับสื่อหนังสือพิมพ์และผู้ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลหลายฉบับ


 


สมาคมวิชาชีพสื่อยังเรียกร้องไปยังนิตยสารไทม์ และสื่อต่างประเทศทุกแขนงว่า ในการรายงานข่าวใด ๆ ที่พาดพิงหรืออ้างถึงการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ในประเทศไทย ขอให้สอบทานข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน รอบด้านจากทุกฝ่าย เพื่อความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งสมาคมฯ พร้อมจะให้ความร่วมมือในการให้ข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพสื่อในรัฐบาลที่ผ่านมา


 


 


สมเกียรติชี้ทักษิณอาจจ่ายเงินเพื่อขึ้นปก "ไทม์"


คมชัดลึก : นายสมเกียรติ อ่อนวิมล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวในรายการ "ข่าวยามเช้า"ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 101 เมกกะเฮิร์ตซ์ ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์แก่นิตยสารไทม์ว่า จากการพูดคุยกับคนในวงการสื่อสิ่งพิมพ์ต่างประเทศ ก็ได้ทราบว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขึ้นปกนิตยสารไทม์ฉบับล่าสุดนั้น อาจเป็นไปได้ที่ใช้วิธีการซื้อพื้นที่ลงหน้าปก เหมือนกับลักษณะการซื้อหน้าโฆษณา โดยติดต่อผ่านตัวแทน เพราะสังเกตว่าเรื่องหลักของนิตยสารไทม์ฉบับล่าสุดนี้ คือ รายงานพิเศษการศึกษาเกี่ยวกับสมองของมนุษย์ หัวข้อ "The New Map Of The Brain" แต่ฉบับที่เผยแพร่ทวีปเอเชีย กลับใช้รูปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นหน้าปก พร้อมกับมีข้อความพาดหัวว่า "Staying Power" รวมถึงเนื้อหาจากปกที่รวมบทสัมภาษณ์แล้วก็มีประมาณ 2 หน้าครึ่ง ซึ่งถือว่านี่ไม่ใช่เรื่องหลักของเล่ม และรูปของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ใช้ประกอบเรื่องนั้น ก็เป็นเสื้อผ้าชุดเดียวกันทั้งหมด ซึ่งน่าจะเป็นการดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาและปกกะทันหัน จากรูปของแผนผังสมองมาเป็นรูป พ.ต.ท.ทักษิณ อีกทั้งก็เคยมีผู้ซื้อพื้นที่นิตยสารเพื่อขอลงตีพิมพ์รายงานผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของบริษัทยามาแล้ว นอกจากนี้ นิตยสารไทม์ยังป็นหนึ่งในธุรกิจของบริษัท วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ซึ่งเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นด้วย ซึ่งอาจมีการกระทำเชิงธุรกิจที่เมื่อซื้อสื่อหนึ่งแล้วอาจได้ใช้พื้นที่สื่อในเครือเป็นของแถมมาด้วยก็เป็นได้



 


"นพดล" โต้ "สมเกียรติ" กล่าวหาจ้าง ลงหนังสือไทม์


คมชัดลึก : นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัวชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่นายสมเกียรติ อ่อนวิมล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการใช้เงินซื้อสื่อในการขึ่นปกนิตสาร ไทม์ ขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยใช้เงินซักแดงเดียว ทางหนังสือไทม์มีการติดต่อมาเอง และเป็นคนตัดสินใจให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นน่าปกหนังสือเอง ซึ่งในส่วนนี้ก็เป็นการพิจารณาภายใน ของกองบรรณาธิการของไทม์ ไม่มีใครสามารถเข้าไปควบคุมได้ และทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ดีใจที่ทางนิตยสารให้เกียรติในการที่จะสัมภาษณ์ เพราะเป็นสำนักข่าวระดับโลกที่มีความน่าเชื่อถือ คงไม่มีใครสามารถนำเงินไปซื้อได้ ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้นายสมเกียรติ กล่าวหาอย่างมีมาตรฐานมากกว่า



 


สื่อ ตปท.เชื่อ รุมสัมภาษณ์ "ทักษิณ" เป็นแค่กระแส


คมชัดลึก : นายเอียน วิลเลี่ยม อดีตประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ กล่าวว่า กรณีที่สื่อต่างประเทศให้ความสนใจขอสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นเป็นเพียงกระแสและอยู่ในความสนใจของสังคม หากต่อไป พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ มากขึ้น ความสนใจของสื่อที่มีให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงน้อยลง ประกอบกับเมื่อประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการนำเสนอไม่มีความแปลกใหม่ไปจากเดิม และมีเนื้อหาซ้ำๆ จากที่เคยให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ไปแล้ว เชื่อว่า ประชาชนจะเบื่อไปเอง


 


 


กกต. เตรียมล้อบบี้พรรคลงสัตยาบัน ห้ามคว่ำรัฐธรรมนูญ


ผู้จัดการรายวัน : นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมพรรคการเมืองทั้งที่จดทะเบียนอยู่ในขณะนี้จำนวน 44 พรรค ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจ ให้ทุกพรรคการเมืองปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากพรรคการเมืองต้องจัดทำบัญชีของพรรคการเมือง ต้องจัดทำงบการเงิน รวมทั้งต้องจัดประชุมใหญ่ภายในเดือน เม.ย.50  


 


นางสดศรี กล่าวอีกว่า ประเด็นที่จะพูดคุยกับพรรคการเมืองยังมีเรื่องการจัดสรรเงินให้กับพรรคการเมือง ที่ยังมีกองทุนในปี 49 จำนวน 600 ล้านบาท แต่ในปี 50 กองทุนยังไม่ได้รับงบประมาณ จึงต้องแจ้งให้พรรคการเมืองรับทราบถึงแนวทางในการจัดสรรเงิน ที่สำคัญจะรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะในการยกร่างรัฐธรรมนูญ และกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องจากตัวแทนพรรคการเมืองด้วย รวมถึงทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ของประเทศ เพื่อให้เกิดความสามัคคี และขอความร่วมมือในการจัดทำประชามติในการเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งอาจจะให้พรรคการเมืองทำสัตยาบันร่วมกัน ไม่ให้มีการคว่ำการลงประชามติด้วย


 


 


ออกปกดำฝังระบอบทักษิณ แฉ 34 โครงการโคตรโกง


ผู้จัดการรายวัน :  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดตัวหนังสือปกดำ "เมนูคอร์รัปชันระบอบทักษิณ" จัดทำโดยนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะทำงานตรวจสอบทุจริตพรรคประชาธิปัตย์และคณะ โดยเป็นการร่วมกันเขียนของอดีตส.ส. สมาชิกพรรค และนักวิชาการ เนื้อหาทั้งหมดมี 313 หน้า ประกอบไปด้วยข้อมูลการทุจริต 34 เมนู อาทิ คดีเลี่ยงภาษีชินคอร์ป และเทมาเส็ก มูลค่า 73,000 ล้านบาท คดีคอร์รัปชันอัปยศ CTX 9000 คดี CDMA ภูมิภาค มูลค่า 7,000 ล้านบาท คดีทุจริตกล้ายางพารา มูลค่า 1,440 ล้านบาท เป็นต้น


 


 


ชู 20 ประเด็นรับฟังความเห็นร่าง รธน.


ผู้จัดการรายวัน : นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เลขานุการกมธ.ยกร่างฯ ได้ชี้แจงสาระสำคัญในการกำหนดกรอบระยะเวลาเบื้องต้นในการยกร่าง คือ


 


1. สภาร่างรัฐธรรมนูญจัดทำร่างรัฐธรรมนูญและพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน หรือตั้งแต่ วันที่ 8 ม.ค.-6 ก.ค.50


 


2. กมธ.ยกร่าง กำหนดหลักการกว้างๆ โดยรับฟังความคิดเห็นของ ส.ส.ร.และประชาชนควบคู่กันไป กำหนดการดำเนินงาน 15 วัน ในวันที่ 25 ม.ค.-8 ก.พ.นั้น ซึ่งความจริงแล้ว คงจะรับฟังความเห็นของประชาชนไปตลอดการร่างรัฐธรรมนูญ 180 วัน


 


3. คณะอนุกมธ.กำหนดหลักการย่อย 3 กลุ่ม คือ กรอบที่ 1 สิทธิเสรีภาพ การมีส่วนร่วมของประชาชนและการกระจายอำนาจ,กรอบที่ 2 สถาบันการเมือง และ กรอบที่ 3 องค์กรตรวจสอบอิสระและศาล ระยะเวลาดำเนินงาน 15 วัน ในวันที่ 9-23 ก.พ. ซึ่งได้เริ่มทำงานไปแล้วแต่ละกรอบ


 


4. กมธ.ยกร่างฯ พิจารณารายละเอียดของหลักการที่คณะอนุ กมธ.เสนอ และรับฟังความคิดเห็นจากคณะกมธ.ของสภาร่างรัฐธรรมนูญ กำหนดระยะเวลาดำเนินงาน 15 วัน ในวันที่ 24 ก.พ.-10 มี.ค. ซึ่ง กมธ.ทุกคณะ จะรายงานผลรับฟังความเห็นอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 1 ในวันที่ 1 มี.ค.ต่อกมธ.ยกร่างฯ


 


5. ฝ่ายเลขานุการของกมธ.ยกร่างฯ จัดทำร่างรัฐธรรมนูญในรูปแบบของกฎหมาย กำหนดระยะเวลาดำเนินงาน 10 วันใน วันที่ 11-20 มี.ค ซึ่งจะให้ตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกา 10 คนไปเขียนร่าง ทั้งนี้ กมธ.จะรายงานผลรับฟังความเห็นอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 มี.ค.ต่อกมธ.ยกร่างฯ


 


6. กมธ.ยกร่างฯ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา และรับฟังความคิดเห็นจากกมธ.ของสภาร่างฯ กำหนดระยะเวลา 30 วัน ในวันที่ 29 มี.ค.-19 เม.ย. โดยจะให้กมธ.รายงานผลรับฟังความเห็นอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 29 มี.ค. ต่อกมธ.ยกร่างฯ พร้อมจะมีการส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกเข้าสู่สภาร่าง


 


7. กมธ.ยกร่างฯ จัดทำรัฐธรรมนูญ และคำชี้แจงความแตกต่างกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 และพิมพ์เผยแพร่ กำหนดระยะเวลาดำเนินงาน 7วัน ในวันที่ 20-26 เม.ย. เมื่อร่างแรกเสร็จสิ้น ก็ทำการชี้แจงและความแตกต่างแล้ว จะต้องจัดพิมพ์เพื่อแจกเผยแพร่ไป 76 จังหวัด ต้องใช้ระยะเวลาอาจจะพิมพ์ จำนวน 1 ล้านชุด


 


8. กมธ.ยกร่าง จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากองค์กร และประชาชน รวมทั้ง ส.ส.ร.เสนอแปรญัตติแก้ไขเพิ่มเติม กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 30 วัน ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 28 ซึ่งกำหนดไว้วันที่ 27 เม.ย.-26 พ.ค.


 


9.กมธ.ยกร่างฯ พิจารณาความเห็นจากฝ่ายต่างๆและคำแปรญัตติของส.ส.ร. พร้อมจัดทำรายงานการพิจารณาเพื่อเสนอต่อสภาร่างรัฐธรรมนูญ พิจารณากำหนระยะเวลาดำเนินการ 15 วัน ในวันที่ 27พ.ค.-10 มิ.ย.


 


10.สภาร่างรัฐธรรมนูญ พิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ และในมาตราที่สมาชิกขอแปรญัตติไว้ หรือที่ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญเสนอ รวมทั้งตรวจร่างรัฐธรรมนูญ กำหนดระยะเวลาดำเนินงาน 25 วัน วันที่ 11 มิ.ย.- 5 ก.ค. ถือเป็นการส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 เข้ามาได้พิจารณา 15 วัน เพื่อร่างผ่านความเห็นชอบ


 


11. เมื่อร่างรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบแล้ว ให้จัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชน กำหนดระยะเวลาการจัดพิมพ์ 30 วัน วันที่ 6 ก.ค.-4 ส.ค.โดยจะจัดพิมพ์ จำนวน 18 ล้านฉบับ ให้ครบตามทุกครัวเรือน ซึ่งอาจใช้เวลาในการจัดพิมพ์นานพอสมควร


 


12. เพิ่มเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ 5 ส.ค. โดยทำเป็นประกาศของประธานสภาร่างฯ และจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ภายใน 30 วัน แต่ไม่เร็วกว่า 15 วัน นับแต่วันที่เผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ ตาม มาตรา 29 คาดว่าประมาณวันที่ 3 ก.ย. จะให้มีการออกเสียงประชามติได้


 


13.กมธ.ยกร่างฯ จัดทำพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญภายใน 45 วัน นับแต่วันที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ กำหนดระยะเวลาดำเนินการ ในวันที่ 5ก.ค.-18 ส.ค.


 


 


การทำประชามติเป็นสิทธิไม่ใชหน้าที่


นายวุฒิสาร ตันไชย โฆษก กมธ.ยกร่างหลักเกณฑ์และการออกเสียงประชามติ แถลงว่า ที่ประชุมเห็นว่าจำเป็นต้องมี พ.ร.บ.มารองรับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีสภาพบังคับต่อการดำเนินการทำประชามติ และกำหนดบทลงโทษ หากมีกระบวนการขัดขวางการทำประชามติ ส่วนสาระสำคัญมอบหมายให้กมธ.การเลือกตั้งไปพิจารณา ซึ่งปกติจะมี 2 รูปแบบ คือ การทำประชามติเรื่องทั่วไป และ เฉพาะเรื่อง ซึ่งเห็นว่าควรจำเป็นทำประชามติเป็นการเฉพาะว่า จะรับหรือไม่รับ นอกจากนี้ยังเห็นว่าการออกเสียงของประชาชน ถือเป็นสิทธิ ไม่ใช่หน้าที่ เพราะไม่ได้มีการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ดังนั้นจะใช้เสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ตัดสิน


 


 


สหรัฐร้อง WTO จีนไม่เป็นธรรม กับบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในอุตสาหกรรมไฟฟ้า


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค :  คณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ผู้นำสหรัฐ ตัดสินใจยื่นคำร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) กรณีที่รัฐบาลจีน ได้เอื้อประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรม เครื่องไฟฟ้า เหล็ก และกระดาษ ทำให้บริษัทคู่แข่งต่างชาติเสียประโยชน์ ในคำร้องสหรัฐฯระบุว่าจีนใช้นโยบายลดหย่อนภาษีอย่างไม่เป็นธรรมและยังให้การสนับสนุนด้านอื่นๆ ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ส่งออกของจีนเอง อีกทั้งยังเลือกปฏิบัติต่อบริษัทคู่แข่งต่างชาติ


 


ขณะที่นายไมเคิล แคมป์เบล ซีอีซีบริษัทอาร์ช เคมิคัลส์ กล่าวต่อวุฒิสภาสหรัฐฯว่า ผู้ผลิตบางรายมองว่า ราคาสินค้าของจีนมีมูลค่าต่ำเกินไป หรืออาจจะต่ำกว่าต้นทุนวัตถุดิบด้วยซ้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐฯ


 


 


อธิบดีกรมทางหลวง ระบุ ผลการตรวจสอบวัสดุก่อสร้างทางวิ่ง ทางขับ สุวรรณภูมิ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ


กรมประชาสัมพันธ์ : นายทรงศักดิ์ แพเจริญ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึง การนำวัสดุการก่อสร้างบริเวณพื้นผิว ทางวิ่ง (รันเวย์) และ ทางขับ (แท็กซี่เวย์) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่พบปัญหารอยร้าวมาตรวจสอบเพื่อหาผลกระทบโดยผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบ ว่า คุณสมบัติของทรายถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานยังไม่พบสิ่งผิดปกติ และผลการตรวจสอบหินคลุกผสมซิเมนต์ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุถึงปัญหาที่ชัดเจนได้ในขณะนี้ เนื่องจากผลการตรวจสอบขณะนี้รายละเอียดของการตรวจสอบหาข้อชัดเจนของปัญหารันเวย์มี เพียง 2 ชุด ซึ่งการตรวจสอบรายละเอียดต้องมีถึง 3 ชุด รวมทั้งจะต้องเจาะลึกพร้อมตรวจสอบในชั้นทรายที่ลึกที่สุดด้วย นอกจากนี้ จะต้องเจาะพื้นที่ส่วนอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบมาตรวจสอบ เพื่อขยายวงกว้างเปรียบเทียบว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการตรวจสอบจะได้ข้อสรุปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ โดยต้องมีการตรวจสอบหาค่าความแข็งแรง และสเปกที่กำหนดมาประกอบด้วย รวมถึงค่าของระดับน้ำที่อยู่ใต้ดินด้วย



 


ครป.ชูเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด


เดลินิวส์ :  นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิป ไตย (ครป.) แถลงข่าวกรณีการร่างรัฐธรรมนูญกรอบคิด โดย ครป. ขอเสนอแนวคิด 5 ข้อคือ 1. บัญญัติให้มีหมวดสิทธิชุมชนและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน เป็นอีกหมวดหนึ่งในรัฐธรรมนูญ 2. กำหนดเงื่อนเวลาในการตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน 3. เพิ่มเนื้อหาประชาธิปไตยทางตรงให้มากขึ้น โดยเฉพาะรูปแบบการทำประชามติ และให้ผลการลงประชามติมีผลผูกพันต่อการตัดสินใจของรัฐบาล 4. ลดต้นทุนและเงื่อนไขในการตรวจสอบถอดถอนหรือการเสนอร่างกฎหมายโดยภาคประชาชน และ 5. ปรับปรุงหมวดกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้ก้าวหน้าขึ้น โดยเฉพาะการกระจายอำนาจในการจัดเก็บภาษี  หรือการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด โดยนำร่องในจังหวัดที่มีความพร้อมก่อน


 


 


คตส.ยกคำร้องคัดค้านรายชื่ออนุฯ ไต่สวนคดี CTX ของ "ทักษิณ"


ผู้จัดการออนไลน์ :  นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. กล่าวว่า คตส. มีมติยกคำร้องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบทนายเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ซึ่งประกอบด้วย คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา นายไพฑูรย์ ทิพยทัศน์ และ พ.ต.อ.(พิเศษ) ชัยทัศน์ รัตนพันธุ์ เนื่องจากเห็นว่าทั้ง 3 คน ปฏิบัติตามหน้าที่ไม่ได้มีอคติส่วนตัว หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับคดีดังกล่าว พร้อมให้อนุกรรมการไต่สวนดำเนินการไต่สวนตามขั้นตอนต่อไป


 


 


คตส.มีมติชี้มูลความผิดบุคคลและนิติบุคคลอีก 8 รายรวม ITD กรณี CTX9000


 อินโฟเควสท์ : คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)มีมติชี้มูลความผิดบุคคลและนิติบุคคลเพิ่มอีก 8 รายที่เกี่ยวข้องกับเหตุทุจริตโครงการจัดซื้อและจัดจ้างติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX9000 คือ ITO Joint Venture ซึ่งประกอบด้วย บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์(ITD), บริษัท ทาเกนากะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท โอบายาชิ คอร์ปอเรชั่น จำกัด


 บริษัท ควอโต้เทค(Quatrotec Inc.),นายธวัชชัย สุทธิประภา ผู้อำนวยการโครงการกลุ่ม ITO, นายวรวิตร วิสูตรชัย ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัท Quatrotec,นาย Shiro Osada และนาย Masahide Kuniyoshi (ITO Joint venture) ระบุมีความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิดกับพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ และเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต


 


 



เศรษฐกิจ


 


กนศ.ตั้งงบ700ล.อุ้มเหยื่อเอฟทีเอ ปั้นงานวิจัย-พัฒนาเพิ่มศักยภาพการผลิต3-5ปี


แนวหน้า :  นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ได้เห็นชอบเสนองบกองทุนเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า(เอฟทีเอ) ปีงบประมาณ 2550 และ 2551 โดยในปี 2550 นี้กระทรวงพาณิชย์จะเสนอของบประมาณ 200 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2551 เสนอประมาณ 500 ล้านบาท รวมเป็น 700 ล้านบาท ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะไม่ ซ้ำซ้อนกับกองทุนของหน่วยงานอื่นๆที่มีอยู่แล้วกว่า 30 กองทุน ทั้งนี้การใช้กองทุนดังกล่าวจะไม่ให้เป็นลักษณะตัวเงิน แต่จะให้เป็นในรูปแบบของการช่วยเหลือ เช่น ส่งเสริมการวิจัยพัฒนาปรับปรุงเพิ่มขีดความสามารถการผลิต และการใช้เงินกองทุนจะมีระยะเวลาการใช้ 3-5 ปี ดังนั้นกลุ่มที่จะมาใช้กองทุนนี้ได้จะต้องมีการพิสูตรได้ว่ามีการได้รับผลกระทบจริง


 


 



การศึกษา คุณภาพชีวิต


 


รัฐลุยสางหนี้เกษตรกรปล่อยเงินกู้ซื้อที่ดินคืน


เว็บไซต์ไทยรัฐ : นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยความคืบหน้าช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นหนี้สิน และถูกสถาบันการเงินนำสินทรัพย์ไปขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองว่า กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรได้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟู และถูกสถาบันการเงินนำที่ดินขายทอดตลาด โดยให้ผู้ที่ยากจนมีรายได้ไม่เกินคนละ 53,000 บาทต่อปี สามารถขอสินเชื่อจากกองทุนในอัตราดอกเบี้ย 5-6% ต่อปี ไปซื้อที่ดินกลับคืน เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างต่อเนื่อง


 


 


"สุรพล" อ้อนประชาคม มธ.ไว้ใจดันโดมออกนอกระบบ


ผู้จัดการออนไลน์ : เสวนาเรื่องมองต่างมุม : เมื่อมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะออกนอกระบบราชการ เพื่อชี้แจงอาจารย์ นักศึกษาและประชาคม เกี่ยวกับการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ โดย ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดี มธ.กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.มธ.ยังอยู่ระหว่างคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา หากแล้วเสร็จ มธ.จะนำมาทำประชาพิจารณ์ แล้วจึงเสนอขอความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัย ก่อนจะเสนอ ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เรื่องนี้มีทั้งข้อดีข้อเสีย ทุกคนต้องไปพิจารณาเอาเอง โดยข้อดี คือ 1.มหาวิทยาลัยได้รับจัดสรรเงินเป็นก้อน โดยงบฯ ที่เหลือไม่ต้องคืนสำนักงบประมาณ 2.มหาวิทยาลัยสามารถกำหนดอัตราเงินเดือนค่าตอบแทนบุคลากรได้เอง และมีอิสระใมนการบริหารงานบุคคลได้ตามความเหมาะสม และ 3.จะทำให้สถานภาพของพนักงานมหาวิทยาลัยซึ่ง มธ.มีอยู่ประมาณ 30% หรือ 900 คน ได้รับการรับรองสถานภาพเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมาย


 


ส่วนข้อเสีย คือ 1.ยังไม่มีหลักประกันชัดเจนว่ารัฐบาลจะจัดสรรงบฯ ให้มากเพียงพอจนมหาวิทยาลัยอยู่ต่อไปได้ และ 2.ผู้บริหารมหาวิทยาลัยจะมีอำนาจมากกว่าในระบบราชการ เนื่องจากพนักงานจะต้องรับการประเมินเพื่อต่อสัญญาจ้าง


 


อธิการบดี มธ.ระบุด้วยว่า เป็นโอกาสของธรรมศาสตร์ ไม่ใช่ปัญหา เรียกร้องให้ไว้ใจ และมั่นใจว่า มธ.มีความพร้อมสูงที่จะออกนอกระบบได้


 


 


เผยยอดผู้ป่วยเอดส์ กทม.ปี 49 พุ่งสูงกว่า 3 พันราย


ผู้จัดการออนไลน์ : กทม.ต้อนรับวาเลนไทน์จัดกิจกรรมต้านภัยเอดส์ในกลุ่มเสี่ยง พร้อมเผยยอดผู้ป่วยเอดส์ กทม. ตั้งแต่ปี 2527 จนถึงขณะนี้มีจำนวน 34,565 ราย มีชีวิตอยู่ 26,371 ราย เสียชีวิต 8,400 ราย ส่วนใหญ่พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ในอัตราส่วน 2.9 : 1 ซึ่งปัจจัยเสี่ยงจากการติดเชื้อเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์สูงสุดถึงร้อยละ 79.51 และร้อยละ 62.53 มีอายุระหว่าง 25-39 ปี เป็นกลุ่มวัยแรงงานส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป สำหรับกลุ่มอายุที่เสียชีวิตมากที่สุดอยู่ระหว่าง 30-34 ปี คิดเป็นร้อยละ 22.27 ขณะเดียวกัน ยังพบว่า กลุ่มเด็กอายุ 0-4 ปี ป่วยเป็นโรคเอดส์ 1,047 ราย เสียชีวิตแล้ว 277 ราย หรือร้อยละ 3.30 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ทั้งนี้ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโรคเอดส์สูงสุดในปี 2549 จำนวน 3,690 ราย ขณะที่ใน กทม.เฉพาะเดือนมกราคมนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่สูงสุดใน 4 เขต คือ เขตบางคอแหลม 12 ราย บางกะปิ 11 ราย พระโขนง 10 ราย และเขตจตุจักร 10 ราย สำหรับเขตที่มีผู้ป่วยโรคเอดส์น้อยที่สุด คือ เขตลาดกระบัง มีเพียง 1 ราย


 


 


รมว.พัฒนาสังคมฯ เตรียมนำร่างพ.ร.บ.สภาชุมชนฯ เข้าครม. ใช้แก้ปัญหาชุมชน


กรมประชาสัมพันธ์ :  นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงแนวทางการสนับสนุนการจัดสวัสดิการชุมชนแห่งชาติ ในทุกตำบล ทั่วประเทศ ว่า โครงการสนับสนุนให้เกิดสวัสดิการชุมชน ที่กระทรวงดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากศูนย์การต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนภาคประชาชน จำนวน 30 ล้านบาท และรัฐบาลสมทบให้อีกตำบลละ 1 แสนบาท ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 500 ตำบล มีสมาชิก 222,316 ราย และมีเงินกองทุน 214 ล้านบาท



อย่างไรก็ตาม ได้ยกร่างพระราชบัญญัติสภาชุมชนท้องถิ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยพระราชบัญญัติดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมและรองรับประชาชนท้องถิ่นซึ่งเป็นเจ้าของปัญหาได้แก้ปัญหาเอง โดยเนื้อหาหลักเป็นการสรรหาบุคคลในชุมชนมาเป็นคณะกรรมการตัวแทนชุมชน ทำหน้าที่พิจารณา ปรึกษาหารือให้ข้อคิดเห็นถึงแนวทางการแก้ปัญหาของชุมชนนั้นๆ อีกทั้งเชื่อมโยงภาคประชาชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งคาดว่าจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ภายใน 1 -2 เดือนนี้



 


 



สิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติ


 


ทช.เฝ้าระวังคลื่นลมแรงซัดฝั่งอ่าวไทยจากความแปรปรวนของอากาศช่วงต้นเดือนนี้


กรมประชาสัมพันธ์ : นางนิศากร โฆษิตรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ขณะนี้ทางกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่ามวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่ปกคลุมลงมาในประเทศไทย ส่งให้ภาคกลางมีอากาศเย็นขึ้น และทางภาคใต้อาจมีคลื่นลมแรงเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เตรียมพร้อมรับมือ เฝ้าระวัง และเก็บข้อมูลผลกระทบคลื่นลมแรงที่อาจเกิดซ้ำช่วงต้นเดือนนี้ เนื่องจากสภาพอากาศมีความแปรปรวน อุณหภูมิลดต่ำลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ชี้ว่าอาจเกิดคลื่นลมแรงได้เช่นเดียวกับเหตุการณ์เมื่อปลายปี 2549 ที่ผ่านมาบริเวณอ่าวไทย โดยเฉพาะชายฝั่งภาคใต้ตอนบนและตอนล่างในจังหวัดชุมพรและนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ หน่วยงานในพื้นที่ได้ร่วมกับชุมชนบริเวณชายฝั่งเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยข้อมูลต่างๆจะนำมาใช้ประมวลแนวโน้มการกัดเซาะและการจัดทำแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป


 


 


หวั่นโครงการขนาดใหญ่กระทบพัฒนาอ่าวภูเก็ต


สำนักข่าวเนชั่น :  นายธนู แนบเนียม ผู้ประสานงานภาคสนามมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวถึงกรณีการจัดทำแบบสอบถามโครงการศึกษาผลกระทบต่อโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ซึ่งมีการเสนอไปจำนวน 1,500 ชุด ใน 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงาและกระบี่ นั้น ว่า ค่อนข้างน้อย เพราะจริงๆ แล้วโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบค่อนข้างกว้างขวาง ซึ่งต้องมีรายละเอียดค่อนข้างมาก และที่สำคัญผู้ที่จะไปสอบถามนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการพอสมควร เพราะไม่เช่นนี้ก็จะไม่สามารถประเมินผลออกมาได้ชัดเจน


 


 


กรีนพีซจี้รัฐประกาศมาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ


ผู้จัดการออนไลน์ : กรีนพีซเรียกร้องรัฐบาลประกาศนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นเขตควบคุมมลพิษทันที พร้อมแนะรัฐบาลส่งเสริมและกำหนดให้บริษัทต่างๆ ลด ละ เลิก การใช้สารพิษและทดแทนด้วยวัสดุที่ปลอดภัยกว่าในกระบวนการผลิต


 


 


 



ต่างประเทศ


 


 


กูเกิลเอิร์ธยอมเบลอจุดยุทธศาสตร์อินเดีย


ผู้จัดการออนไลน์ :  รายงานจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอินเดียระบุว่า บริการภาพถ่ายผ่านดาวเทียม "กูเกิลเอิร์ธ" จะยินยอมเบลอภาพเพื่อให้ผู้ใช้ไม่สามารถเห็นพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ของรัฐบาลอินเดียได้อย่างชัดเจน ทั้งอาคารที่ตั้งทำเนียบรัฐบาล และหน่วยบัญชาการทหาร หลังจากประธานาธิบดีอินเดียแสดงความกังวลว่ากูเกิลเอิร์ธอาจทำให้อินเดียไม่มีความปลอดภัย


 


 


ญี่ปุ่น ซ้อมรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดไข้หวัดนกในคน


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค :  เทศบาลจังหวัดโทกุชิมะ ทางภาคใต้ จัดการฝึกซ้อมรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดไข้หวัดนกในคน  รายงานระบุว่า การฝึกซ้อมดังกล่าว เพื่อเตรียมการตอบสนองของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานในการรับมือกับการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยจำลองเหตุการณ์ ที่มีชาวญี่ปุ่นป่วยเป็นโรคไข้หวัดนกหลังจากเดินทางกลับจากประเทศที่ไวรัสเอช 5 เอ็น 1 กลายพันธุ์ จนสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ การฝึกซ้อม เริ่มต้นตั้งแต่การรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาภายใต้การควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสอย่างเข้มงวด การควบคุมและกักตัวญาติและผู้ที่ติดต่อกับผู้ป่วย ตลอดจนเพื่อนบ้าน โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ประสานงาน ผ่านการประชุมทางไกลกับกระทรวงสาธารณสุขในกรุงโตเกียวตลอดเวลาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล อีกทั้งยังจะนำผลสรุปและมาตรการการป้องกันเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตต่อไป


 


 


สหรัฐและมาเลเซียเริ่มการเจรจาการค้าเสรีรอบที่ 5


กรมประชาสัมพันธ์ :  สหรัฐและมาเลเซียเริ่มการเจรจาการค้าเสรีหรือเอฟทีเอรอบที่ 5 ขณะที่การเจรจาดังกล่าวมีเรื่องละเอียดอ่อนและความขัดแย้งกรณีที่มาเลเซียทำข้อตกลงด้านพลังงานกับอิหร่าน ซึ่งเป็นศัตรูของสหรัฐ ทั้งนี้การเจรจาครั้งนี้เป็นความพยายามโอกาสสุดท้ายเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีก่อนถึงกำหนดเส้นตายในเดือนมีนาคมนี้จัดขึ้นที่สถานตากอากาศในเมืองโกตา คีนาบาลู บนเกาะบอร์เนียว แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการหารือ โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายจะแถลงเปิดข่าวหลังเสร็จสิ้นการเจรจาในสุดสัปดาห์นี้



 


เกาหลีใต้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นภาคแรงงาน หลังเผชิญปัญหาผู้สูงอายุล้น


อินโฟเควสท์ : รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ตัดสินใจประกาศใช้มาตรการต่างๆ ได้แก่ การขยายระยะเวลาสำหรับการเกษียณอายุ และลดเวลาในการเข้ารับราชการทหาร เพื่อเพิ่มจำนวนแรงงานในตลาด หลังจากที่ได้เผชิญกับปัญหาจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศ ทั้งนี้สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า อัตราการเกิดของเกาหลีใต้ตกลงมาอยู่ที่ 1.08 ในปี 2548 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในโลก โดยรัฐบาลกล่าวว่า จะผลักดันให้มีการเพิ่มระยะเวลาสำหรับการเกษียณอายุออกไปอีก 5 ปี และทบทวนระบบการศึกษา เพื่อลดกำหนดอายุของประชากรที่ต้องการเข้าทำงานลง 2 ปี จากปัจจุบันที่ 25 ปี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กลาโหมกล่าวว่า การลดระยะเวลาในการเข้ารับราชการในกองทัพบกจะเปลี่ยนจาก 2 ปี เป็น 18 เดือน ส่วนกองทัพอากาศและกองทัพเรือจะปรับลดลงเหลือ 21 เดือน และ 20 เดือน ตามลำดับ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีหน้า


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net