ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการปลด พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งในช่วงบ่ายวันนี้ว่าให้  พล.ต.อ. โกวิท มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวช มารักษาการตำแหน่งผบ.ตร. เพื่อช่วยงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

" เหตุผลในการย้าย ผบ.ตร. มาจากการหารือร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรีและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งได้มีการหารือร่วมกันมาเป็นระยะๆโดยตลอด เป็นการพิจารณาร่วมกันของผู้บังคับบัญชาเห็นว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมให้ พอ.ต.อ.โกวิ ท มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี" ร.อ.น.พ.ยงยุทธกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะตอบสังคมยังไง หากถูกมองว่าการปลด ผบ.ตร. เป็นการหาแพะหรือการเซ่นคดีระเบิดซึ่งไม่มีความคืบหน้า

ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะการพิจารณาครั้งนี้เป็นการพิจารณาร่วมกันของหลายฝ่ายและในส่วนการสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดในช่วงปลายปี่ผ่านมา ทุกฝ่ายก็ยังเดินหน้าหาข้อมูลสอบสวนอย่างเต็มที่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากถูกมองว่า พล.ต.อ.โกวิท ไม่ได้รับความเป็นธรรมที่จะต้องมารับผิดชอบเพียงผู้เดียว ในขณะที่ คมช.และรัฐบาลเองก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยความไม่สงบในบ้านเมืองเช่นเดียวกัน

ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่ายทั้งรัฐบาลและ คมช. ซึ่งต้องดูแลความมั่นคงความสงบเรียบร้อยร่วมกัน โดยทุกฝ่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคงกันทั้งนั้น ฉะนั้นในเรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจได้ดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการเปลี่ยนผบ.ตร.จะการันตี ได้หรือไม่ว่า จะสามารถหาผู้ต้องหามาลงโทษได้เร็วขึ้น

ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการสอบสวนสืบสวนทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐานที่มีอยู่ตามกฎระเบียบของบ้านเมือง การดำเนินการตรงจุดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับมาโดยตลอดให้หน่วยงานความมั่นคง และทางตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้น ส่วนนี้ก็ยังคงมีการเดินหน้าสืบสวนสอบสวนและหาข้อเท็จจริงเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทาง คมช. เป็นผู้เสนอบุคคลที่มารักษาการแทน ผบ.ตร.ใช่หรือไม่

ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากเป็นการหารือร่วมกันของนายกรัฐมนตรีและประธานคมช .

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของ คมช.หรือไม่

ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ เพราะเป็นเรื่องความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการแต่งตั้งพล.ต.ต.พงศพัศ พงษ์เจริญ แทน พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช หรือไม่

ร.อ.น.พ.ยงยุทธ ตอบว่า ตนยังไม่ทราบลายละเอียด

ผู้สื่อข่าวถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับตำรวจหรือไม่

ร.อ.น.พ. ยงยุทธ กล่าวว่า " ผมคิดว่าไม่กระทบเพราะทหารกับตำรวจเป็นข้าในแผ่นดินด้วยกัน เรามีความสมัครสมานสามัคคี โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ทุกคนต้องสามัคคีกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะเรามีปัญหาที่ต้องแก้ไขพร้อมๆกัน หลายด้าน ฉะนั้นทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ประชาชน ต้องร่วมมือกันเดินหน้าไปสู่สังคมที่สร้างสรรค์ ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยเต็มรูปแบบและการเลือกตั้งที่จะตามมา ดังนั้นทุกคนทราบดี ถึงหน้าที่ ที่ต้องปฏิบัติโดยเชื่อว่าความสามัคคีจะเพิ่มพูนอย่างต่อเนื่อง "

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลดีต่อคดีลอบวางระเบิดหรือไม่

ร.อ.น.พ.ยงยุทธ กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องการดำเนินคดีก็ดำเนินต่อไปอย่างเต็มที่เหมือนเดิม เพราะนายกรัฐมนตรีกำชับมาโดยตลอด เชื่อว่าคนที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดี ก็มีความมุ่งมั่นในการทำงานเพราะรัฐบาลก็สนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่และต้องการให้มีการดำเนินงานอย่างโปร่งใสเป็นธรรมกับทุกฝ่าย