Skip to main content
sharethis

สำนักข่าวอิรวดีรายงานวันที่ 2 ก.พ. 50 ว่า พลจัตวาเถ่งหม่อง ผบ.กองพลที่ 7 ของกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ถูกคณะกรรมการกลางปลดออกจากตำแหน่งเมื่อเร็วๆ นี้ เหตุเนื่องจากไปเจราจาสงบศึกกับรัฐบาลทหารพม่า ได้ประกาศจัดตั้งกองกำลังกลุ่มใหม่ โดยให้ชื่อว่าสภาสันติภาพกองทัพปลดปล่อยชนชาติกะเหรี่ยง (KNLAPC - Karen National Liberation Army Peace Council)


 


โดยการประกาศจัดตั้งกองกำลังกลุ่มใหม่ของพลจัตวาเถ่งหม่อง มีขึ้นระหว่างงานฉลองการปฏิวัติชนชาติกะเหรี่ยงครบ 58 ปี เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยพลจัตวาเถ่งหม่องได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกลุ่มพร้อมทั้งได้รับเลื่อนยศเป็นพลตรี นอกนั้นทางกลุ่มได้แต่งตั้งนางลาโพ อดีตภริยานายพลโบเมี๊ยะ ประธานองค์กรสตรีกะเหรี่ยง (KWO - Karen Women"s Organization) ใน KNU ขึ้นเป็นรองประธาน


 


ส่วนพันเอกพิเศษเนอดาเมี๊ยะ บุตรชายนายพลโบเมี๊ยะ ผู้บัญชาการด้านเทคนิคของกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU ซึ่งได้แยกตัวไปเข้าร่วมด้วยได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิคนที่ 1 พร้อมกับได้รับเลื่อนยศเป็นพลจัตวา ขณะที่พี่ชายของเขาพันตรีเหน่กอเมี๊ยะ หรือ ซอเหน่ก่อ ก็ได้เข้าร่วมกับกลุ่มใหม่นี้ด้วยเช่นเดียวกัน


 


สำหรับพลจัตวาเถ่งหม่อง ได้เข้าร่วมในขบวนการปฏิวัติกู้ชาติกะเหรี่ยงเมื่อปี 2492 และได้รับเลือกเป็นสมาชิกคณะกรรมการกลาง และได้รับแต่งตั้งเป็นผบ.กองพลที่ 7 ของ KNU เมื่อปี 2513 โดยเขาได้ถูกคณะกรรมการกลางของ KNU ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา เหตุเนื่องจากเขาได้ไปเจรจาสงบศึกกับรัฐบาลทหารพม่าโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกลาง 


 


อย่างไรก็ตาม กับการที่พลจัตวาเถ่งหม่องได้ประกาศแยกตัวไปจัดตั้งกองกำลังขึ้นใหม่นี้ ทางเลขาธิการของ KNU นายผะโด่ มานชา กล่าวสั้นๆ ว่า KNU ไม่เห็นด้วยและไม่ให้การสนับสนุน


 


ทั้งนี้ การประกาศแยกตัวออกจาก KNU ของพลจัตวาเถ่งหม่อง สร้างความไม่สบายใจให้กับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าที่เป็นสัมพันธมิตรกันเป็นอันมาก


 


โดยนายอ้ายต้าอ่อง เลขาธิการสันนิบาตแห่งชาติอาระกันเพื่อประชาธิปไตย (ANLD  - Arakan National League for Democracy) กล่าวว่า กับเหตุที่เกิดขึ้นในกลุ่มของ KNU ครั้งนี้นับได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และอาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มต่อต้านอื่นๆ ด้วย


 


ขณะที่ขุนโอ๊คก่า เลขาธิการของกลุ่มแนวร่วมชาติประชาธิปไตย (NDF - National Democratic Front) ซึ่งเป็นกลุ่มสัมพันธมิตรกล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจต่อการแตกแยกของ KNU แต่อย่างไรก็ตามตนจะยังคงให้การสนับสนุนสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU สืบต่อไป


 


 


 






ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ข่าวสาละวิน (Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ chuem@cm.ksc.co.th และ snn_news@cm.ksc.co.th พร้อมติดตามอ่านข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าภาคภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org และภาคภาษาไทยใหญ่ได้ที่ www.mongloi.org 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net