ประชาไท—31 ม.ค. 2550 นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ในปี 2550 เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีพระชนม์มายุครบ 80 พรรษา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีวาระแห่งชาติ เรื่องการให้และการอาสาช่วยเหลือสังคม เพราะถือเป็นอุดมการณ์ที่ดี ช่วยให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันมีการช่วยเหลือเกื้อกูลโดยอาศัยความรักความเมตตามุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน โดยในการนี้จะมีการรณรงค์จิตสำนึกการให้ และการอาสาช่วยเหลือสังคมด้วยการขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการต่างๆ อาทิ มาตรการการเงินการคลัง การศึกษา และมาตรการที่เอื้อให้ประชาชน เอกชน ข้าราชการ เข้าร่วมในงานอาสาสมัคร รวมทั้งพัฒนากลไกในการส่งเสริมเรื่องการให้และการอาสาช่วยเหลือสังคมทั้งในภาวะปกติและในภาวะวิกฤติ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในการนี้มอบหมายให้ หน่วยงานต่างๆ จัดกิจกรรม เพื่อตอบสนองต่อวาระแห่งชาติ โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานและส่งเสริมการดำเนินงาน ซึ่งกระทรวงได้ตั้งศูนย์ส่งเสริมการให้และการอาสาช่วยเหลือสังคม เพื่อประสานงานดังกล่าว นอกจากนั้น คณะรัฐมนตรีมีมติออกระเบียบอนุญาตให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐไปปฏิบัติงานเป็นอาสาสมัครโดยไม่ถือเป็นวันลาและให้ถือเป็นการปฏิบัติราชการภายในจำนวน 5 วันทำการ ต่อ 1 ปี รวมทั้งเชิญชวนภาคเอกชนให้พนักงานลาไปปฏิบัติงานอาสาสมัครตามแนวทางของราชการได้โดยไม่ถือเป็นวันลาเช่นกัน ซึ่งขณะนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯได้เริ่มดำเนินการไปแล้วโดยมีศูนย์ส่งเสริมการให้และการอาสาช่วยเหลือสังคมซึ่งได้ประสานงานกับภาคประชาชนจำนวนหนึ่ง มีกิจกรรมอาทิเช่น เป็นอาสาสมัคร มีการทำแผนที่ทำดี บอกว่าที่ไหนที่ควรไปช่วยเป็นอาสา เช่น ในสถานสงเคราะห์ต่างๆ หรือกรณีเกิดภัยพิบัติ ไปช่วยสร้างบ้าน ปลูกป่า ดูแลสิ่งแวดล้อม