Skip to main content
sharethis

หมายเหตุ : เรียบเรียงใหม่เพื่อความสะดวกต่อผู้อ่าน


                จากข่าวสัมภาษณ์ของ "ผู้จัดการรายวัน"


 


 


พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ในรายการ "เวิลด์นิวส์เอเชีย" โดยมีนายแดน ริเวอร์ส ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น เป็นผู้ดำเนินรายการ และมีการออกอากาศเมื่อเวลา 06.00น.วานนี้ (29ม.ค.) ตามเวลาของไทย


 


 


0 0 0


 


 


ซีเอ็นเอ็นสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ทำไมเมืองไทยรับภาพไม่ได้ ทาง คมช.มีการเซ็นเซอร์ หรือบล็อกสัญญาหรือไม่


ตนไม่ได้ขอร้องสื่อมวลชนไทย แต่เราเห็นความสำคัญของเรื่องความมั่นคง และเรื่องของความสงบ ขอความร่วมมือกับสื่อไทย ถ้าเป็นไปได้จะกรุณาไม่นำเสนอแถลงการณ์รายละเอียด แนวความคิด คาดว่า หรือการสัมภาษณ์อดีตนายกรัฐมนตรี หรือพรรคฝ่ายตรงข้าม มาออกชนิดถี่ยิบโดยแฝงนัย ทั้งเราขอร้องสื่อไทยไป ปรากฏว่า สื่อให้ความร่วมมือ และใช้ดุลพินิจของสื่อที่จะให้ความร่วมมือ คมช.จะไปบีบบังคับไม่ได้ ทุกอย่างเป็นดุลพินิจของสื่อไทย ยืนยันไม่ได้ทำอย่างอื่น ไม่ได้บล็อกสัญญาณ


 


อีนาฟ อิส อีนาฟ ที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ระบุว่าจะพอแล้วเกี่ยวกับเรื่องการเมือง


ถ้าพอจริงก็นับเป็นประโยชน์ต่อชาติ และประชาชน ที่ผ่านมาทุกคนรู้ว่าในช่วงที่อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นรัฐบาลอยู่ มีเรื่องราวต่างๆ ที่คนไทยไม่พอใจ ถ้าพอแล้วก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติ แต่ถ้าสิ่งที่พูดบอกว่าพอ แต่การปฏิบัติตรงกันข้าม ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนวิเคราะห์


 


ได้พูดคุยกับอดีตนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่


ก่อนหน้านี้เคยคุยกัน แต่ในช่วงระยะเวลาหลังไม่ได้คุย แต่ก็มีการพูดคุยกับคนใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า คมช.หวาดกลัวอดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่จริง เราไม่ได้หวาดกลัวอะไร ที่อดีตนายกรัฐมนตรีทำอยู่ถือว่าเป็นประโยชน์ การให้สัมภาษณ์หรือพูดในต่างประเทศ ตอบโต้ คมช.นั้นทำให้ประชาชนได้เห็นบุคลิกที่แท้จริงของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า สิ่งที่พูดกับการปฏิบัติสอดคล้องกันหรือไม่


 


หลังจากซีเอ็นเอ็นสัมภาษณ์อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีมาตรการทางการทูตกับสิงคโปร์ เป็นการถอยหลังทางการทูตระหว่างไทยกับสิงคโปร์หรือเปล่า


เรื่องนี้ต้องคำนึงผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นหลัก มิตรประเทศต้องเข้าใจมิตรประเทศด้วยกัน ถือเป็นมารยาททางการเมือง และเรื่องนี้เป็นข้อตกลงใจของรัฐบาล


 


ผ่านมา 4 เดือนแล้ว การตรวจสอบทุจริตคอร์รัปชันไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม


เป็นการไม่เข้าใจ เพราะมีองค์กรตรวจสอบ ทั้ง คตส. ป.ป.ช. ปปง. ซึ่ง คตส.มีเรื่องที่รับเข้ามาดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น 52 คดี และ 13 คดี ได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนแล้ว และพร้อมดำเนินการส่งฟ้อง 5 คดี ซึ่งประกอบไปด้วย ซีทีเอ็กซ์ ท่อร้อยสายไฟสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ดินรัชดาฯ กล้ายาง และ การขายหุ้นชินคอร์ป ส่วน ป.ป.ช.ได้มีคดีความที่เข้ามารับดำเนินการจำนวนมาก แต่ว่ามีอยู่ 23 คดี เข้าสู่กระบวนการแล้ว มีการไต่สวนแล้ว 23 คดี ภายในหนึ่งเดือน จะมีการสรุปคดีความชัดเจนได้


         


อยากให้อดีตนายกรัฐมนตรีกลับมาต่อสู้คดีหรือไม่


ขึ้นอยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ จะตัดสินใจ แต่หลักการต่อสู้ที่จะมาดำเนินการมี 4 วิธี คือ 1.ส่งเอกสารชี้แจง 2.ผ่านระบบทางไกล วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ 3.ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.และ คตส.เดินทางไปสอบปากคำที่ต่างประเทศ และ 4.เดินทางมาต่อสู้คดีที่ประเทศไทย ซึ่งท่านจะเลือกวิธีไหนก็แล้วแต่ท่าน


 


สงสัยหรือไม่ว่าอดีตนายกรัฐมนตรี รู้เห็นการวางระเบิดใน กทม.


เรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจในการสอบสวน เรื่องราวต่างๆ หาพยานหลักฐาน ขณะนี้ผลสรุปขั้นตอนยังไม่ชัดเจน แต่ยืนยันว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องที่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อมูล ผู้ต้องสงสัย เรื่องยังไม่ได้ชัดเจนว่าจะออกมาอย่างไร แต่คนที่มุ่งหวังก่อเหตุความวุ่นวายมีวัตถุประสงค์ชัดเจน พยายามทำความวุ่นวายให้เกิดขึ้น คนที่จะทำกับ คมช.ก็คงทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย แต่คนที่จ้องจะทำสร้างความวุ่นวาย กับคนระแวดระวังไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น ในการสร้างโอกาสแตกต่างกัน คนที่จ้องจะทำโอกาสมีมากกว่า คนที่ป้องกัน ยกตัวอย่างอังกฤษ อเมริกา มีระบบต่างๆ ก็ยังเกิดเหตุร้ายขึ้นได้


 


ปัจจุบันทหารเข้าไปแทรกแซงอยู่ทุกองค์กร ทั้งนายกรัฐมนตรี ประธาน คมช.บอร์ด และ ประธานกรรมาธิการ จะเป็นเผด็จการหรือลัทธิทางทหารหรือไม่


ไม่ได้แทรกแซง ก่อนวันที่ 19 ก.ย.เหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่เห็น แต่การปฏิรูปพี่น้องมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก นำดอกไม้มาให้ ประชาชนเห็นว่า รัฐบาลเก่าใช้อำนาจเกินขอบเขต ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง การปฏิรูปก็ทำไปตามข้อเรียกร้องของประชาชน ในการใช้อำนาจเกินขอบเขตของรัฐบาลชุดเก่า ก่อนหน้านี้คนไทยอึดอัดกับเรื่องนี้มาเป็นเวลานาน ในเวลาที่มีการปฏิรูปการปกครอง จึงถือว่าเป็นการผ่อนคลายความทุกข์ พี่น้องประชาชนเกิดความสงสัยในการทุจริตคอร์รัปชั่นในช่วงที่ผ่านมา คณะรัฐบาลจึงได้ส่งทหารเข้าไปดูแลในบอร์ดต่างๆ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ ดูแลการทุจริตคอร์รัปชัน องค์การโทรศัพท์ที่รัฐเสียประโยชน์เป็นหมื่นล้าน การทหารเข้าไปในองค์กรทำให้องค์กรเกิดความโปร่งใส่


 


เชื่อมั่นว่าในระหว่างสัมภาษณ์ ซีเอ็นเอ็น พ.ต.ท.ทักษิณ รับชมอยู่ จะส่งสัญญาณไปถึงทักษิณอย่างไร


 ฝากความระลึกถึงไปในฐานะที่เคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บังคับบัญชา เราคุยกันตลอด ในช่วงที่ผ่านมา ในเรื่องของการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เราเป็นคนไทย เราต้องรักชาติ เราต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม ทำอะไรก็ให้ระลึกถึงชาติอยู่เสมอ และสงสารชาติบ้าง


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net