Skip to main content
sharethis


สวดส่งวิญญาณ - ชาวบ้านเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด ทำพิธีสวดส่งวิญญาณ 2 เจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดที่ขัดขวางไม่ให้ชาวบ้านในตระ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ซ่อมแซมเส้นทางเข้าหมู่บ้าน


 


 


ประชาไท - 28 ม.ค. 2550 ระหว่างวันที่ 26 - 27 มกราคม 2550 นางเตือนใจ ดีเทศน์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลกรณีเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ทับที่ดินทำกินของราษฎร ที่บ้านทุ่งส้มป่อย ตำบลละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง และบ้านในตระ หมู่ที่ 2 ตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง


 


นางเตือนใจ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ว่า ทั้งบ้านทุ่งส้มป่อยและบ้านในตระ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ดั้งเดิม สังเกตได้จากสวนยางพาราที่บ้านทุ่งส้มป่อย ซึ่งถูกเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า ทับที่ดินทำกิน เป็นสวนยางพารารุ่นที่สาม หมายความว่าเป็นหมู่บ้านที่อย่างน้อยมีอายุร่วม 100 ปี มีผลงานการอนุรักษ์ป่าไม้ จนเป็นที่ยอมรับ


 


"หมู่บ้านนี้เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ตัดต้นยางพาราเพื่อปลูกใหม่ เท่าที่ทราบมีเจ้าหน้าที่บางคนเรียกรับประโยชน์จากเจ้าของสวนยางด้วย นอกจากนี้ ดิฉันยังพบที่ดินแปลงหนึ่ง มีลักษณะแตกต่างจากแปลงอื่นๆ เพราะอยู่บนที่สูงและลาดชัน กั้นรั้วลวดหนามตลอดแนว จากการสอบถามเป็นที่ดินของข้าราชการระดับสูง จากนอกชุมชน" นางเตือนใจ กล่าว


 


นางเตือนใจ เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับบ้านในตระ เป็นหมู่บ้านที่ถูกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ทับที่ดินทำกิน เป็นหมู่บ้านเก่าแก่มีอายุกว่าร้อยปี คนสมัยโบราณใช้เป็นที่พัก ขณะเดินทางข้ามไป - มา ระหว่างเมืองปะเหลียนกับเมืองพัทลุง วิถีของผู้คนเรียบง่ายและพอเพียงสุดๆ เส้นทางเข้าหมู่บ้าน จากด่านตรวจของหน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนเต๊ะเข้าหมู่บ้าน เป็นเพียงถนนปูนเล็กๆ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านเท่านั้น ตนไม่เคยพบเห็นการใช้ชีวิตแบบพอเพียงสุดๆ เช่นนี้มาก่อน นอกจากนี้ ตนยังพบต้นไม้ขนาดใหญ่อายุเป็นร้อยปี ที่ชาวบ้านสมัยก่อนปลูกไว้กินผล เช่น ทุเรียน ขนุน ต้นเนียง เป็นต้น


 


นางเตือนใจ เปิดเผยอีกว่า ปัญหาที่เกิดกับบ้านในตระ คือ เจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด  ยึดปูน 20 กระสอบ ที่ชาวบ้านนำมาใช้ซ่อมแซมเส้นทางเข้าหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2550 โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกัน ได้บุกรื้อและเผาบ้านของผู้หญิงในหมู่บ้าน และจับกุมชาวบ้านที่ออกกรีดยางพารากว่า 10 รายมาแล้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์เทือกเขาบรรทัด ยังขัดขวางไม่ให้ชาวบ้านติดตั้งไฟฟ้าโซล่าเซลล์ พร้อมกับห้ามไม่ให้พัฒนาสาธารณูปโภคใดๆ ในหมู่บ้าน


 


"จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าชาวบ้านถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ สิทธิที่ทำกิน สิทธิในที่อยู่อาศัย ตลอดจนสิทธิในการได้รับสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานจากรัฐบาล แม้แต่ไฟฟ้ายังไม่มีใช้ ดิฉันยังไม่เคยเห็นที่ไหนทำกันแบบนี้ จึงไม่แปลกใจที่ชาวบ้านเรียกร้องให้ย้ายหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดออกจากพื้นที่ เพราะข่มเหงน้ำใจชาวบ้านมานาน แต่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขอเวลาตรวจสอบ 7 วัน ดิฉันเกรงว่าหากปล่อยเวลาเนิ่นนานออกไป กรณีนี้จะบานปลายกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว" นางเตือนใจ กล่าว


 


ทั้งนี้ ทางเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองตรัง ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ในความผิดข่มขู่ คุกคาม กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำลายทรัพย์สิน ขัดขวางการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นต้น ในหลายท้องที่และหลายวาระ โดยพนักงานสอบสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองตรัง จะประสานไปยังพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุดำเนินการต่อไป


 


วันเดียวกัน ที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด ยังคงปักหลักชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทับที่ดินทำกิน เป็นวันที่ 3 มีการจัดพิธีสวดส่งวิญญาณนายสนิท องศารา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และนายคม ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนเต๊ะ ออกจากพื้นที่


 


ขณะเดียวกัน บรรดาเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนและทยอยเดินทางมาให้กำลังใจอยู่เป็นระยะ เช่น เครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซไทย - มาเลเซียและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง, สมัชชาคนจน, สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้, ชมรมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง, ครือข่ายสลัม 4 ภาค, เครือข่ายแรงงาน และเครือข่ายนักวิชาการ เป็นต้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net