Skip to main content
sharethis

การเมือง

 

"สนธิ" ติงทักษิณไม่ควรพูดผ่านสื่อกระทบต่อชาติ จวกสิงคโปร์ดักฟังโทรศัพท์

เว็บไซต์คมชัดลึก - พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศดำเนินมาตรการทางการทูตกับสิงคโปร์ว่า เรื่องของต่างประเทศก็ว่ากันไป ส่วนในประเทศเราไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่ เพราะงานที่วางไว้เพียงพอต่อการดำเนินการทั้งหมด

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ เพราะอาจจะมีบางคนไม่เข้าใจและอาจจะเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ได้ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่มี สิ่งที่เกิดขึ้นคิดว่าประชาชนทุกคนคงเข้าใจปัญหา เพราะจริง ๆ แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ควรให้สัมภาษณ์สื่อเช่นนั้น เพราะส่งผลกระทบต่อชาติบ้านเมือง แต่ในส่วนของทหารไม่มีผลกระทบอะไร เพราะเรื่องการทหารก็คือเรื่องการทหาร

 

พล.อ.สนธิ กล่าวตอนหนึ่งในการให้โอวาทกับตัวแทนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ 450 คนว่า ที่ผ่านมาคนไทยก้าวกระโดดเร็วเกินไป คือมีการเปลี่ยนแปลงจากรากแก้วข้ามไปอีกมิติหนึ่ง ทำให้เศรษฐกิจตามไม่ทัน เพราะการโดดเข้าสู่เทคโนโลยีใหม่ และสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปเป็นระบบสังคมบริโภคนิยม พยายามใฝ่หาของ เพื่อจะเป็นเจ้าของทำให้ขาดความพอเพียง และทำให้คนไทยเริ่มจนลง ซึ่งจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของนายทุน และกำลังแปลงประเทศเข้าไปเป็นทุนนิยม

 

"ทำทุกอย่างจะเข้าไปอยู่กับเรื่องของตลาดหุ้น ทรัพย์สมบัติของชาติ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ ไฟฟ้า ประปา ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคหลักของประเทศ จะตกไปอยู่กับนายทุน ประเด็นเหล่านี้หากเกิดในปัจจุบันยังพอรับไหว แต่ในอนาคตจะขึ้นอยู่กับนายทุนว่านายทุนจะให้ราคาเท่าไร อยากถามว่าจะเหลืออะไร" พล.อ.สนธิ กล่าวและว่า

 

ขณะนี้กองทัพกำลังเกิดปัญหา เพียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อจะใช้สักเครื่องหนึ่ง คลื่นก็วิ่งไปสู่ประเทศสิงคโปร์ จะพูดความลับทางราชการ มันก็วิ่งไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ความมั่นคงของชาติเป็นเรื่องที่สำคัญ และเป็นความลับของชาติ ปัญหาต่างๆเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากทุกอย่างตกไปอยู่ฝั่งตรงข้าม ประเทศชาติจะตกอยู่ในความลำบาก

 

"หากถามว่าประเทศสิงคโปร์เป็นศัตรูหรือเปล่าก็ไม่ใช่ การต่อสู้แข่งขันอีก 10 ปี เราจะไม่มีการรบขนาดใหญ่กับใคร แต่การต่อสู่ในยุคปัจจุบัน เป็นการต่อสู้กันทางเศรษฐกิจ สงครามเศรษฐกิจระหว่างชาติกำลังจะเกิดขึ้น ดังนั้น การที่เขารับรู้แนวความคิด และการสั่งการของกองทัพหรือภาคเศรษฐกิจ กระจายไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม อยากถามว่าเขาจะไม่รู้แนวคิดเราหรือ" พล.อ.สนธิ กล่าวและว่า

 

 

นักวิชาการ ชี้สะท้อนรัฐบาลกังวล"ทักษิณ"เคลื่อนไหว

เว็บไซต์คมชัดลึก - นายสุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศมีมาตรการตอบโต้สิงคโปร์ จากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพบรองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ว่า มาตรการที่ออกมาจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะประเทศไทยไม่เคยใช้มาตรการเช่นนี้กับประเทศเพื่อนบ้านมาก่อน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ประเทศในกลุ่มอาเซียนไม่สามารถพูดคุยกันภายในได้แล้ว จึงต้องใช้วิธีทางการทูตกดดัน

 

"นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลกังวลกับการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ มากจนเกินไป ซึ่งความจริงไม่ควรจะนำปัญหาของคน ๆ เดียว มาสร้างปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน" นายสุรชาติ กล่าว

 

ส่วนการถอนหนังสือเดินทางการทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายสุรชาติ มองว่าเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีสิทธิในความเป็นคนไทยในการเดินทางไปที่ต่าง ๆ และเชื่อว่า การเดินทางไปประเทศต่าง ๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ส่งผลทางจิตวิทยาต่อการเมือง และความมั่นคงภายในประเทศ หากรัฐบาลมีสถานะทางการเมืองที่เข้มแข็ง

 

 

น.ต.ประสงค์ - "รัฐบาลมีสื่ออยู่ในมือ รัฐบาลน่าจะใช้สื่อที่อยู่ทำความเข้าใจกับประชาชนและต่างประเทศ"

เว็บไซต์คมชัดลึก - น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงการดำเนินมาตรการทางการทูตกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบกับรองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ว่า สิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการในกรณีนี้ ถือเป็นการกระทำที่เหมาะสม เป็นการใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก และหากรัฐบาลได้ดำเนินการในลักษณะนี้ไปแล้วน่าจะทำให้ประชาชนมีความเข้าใจดีขึ้น ขณะเดียวกันประเทศสิงคโปร์จะเข้าใจท่าทีของรัฐบาลไทยดีขึ้นด้วย

 

"เรื่องนี้เป็นหลักสากล เมื่อเขาไม่ใช้ดินแดนของประเทศตน แต่ไปใช้ดินแดนของคนอื่น ทำให้เกิดผลกระทบกับประเทศที่เป็นมิตรกับเรา ผมคิดว่าเหมาะสมที่กระทรวงการต่างประเทศทำไปอย่างนั้น" น.ต.ประสงค์ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศอื่น รัฐบาลควรแสดงท่าทีในลักษณะเดียวกันกับที่ทำกับสิงคโปร์หรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า เมื่อกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการถึงขั้นนี้ ตนคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศควรให้ทูตในประเทศต่าง ๆ ชี้แจงถึงสถานภาพและการใช้เอกสิทธิทางการทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นอย่างไร และอยู่ระหว่างการมีคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งมีหลายประเด็นได้ชี้มูลมายังอดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงต้องชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงในต่างประเทศให้เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีสถานะเหมือนพลเมืองคนหนึ่ง ไม่ควรได้รับเอกสิทธิ์ที่มากกว่าพลเมืองคนหนึ่งจะได้รับ

 

เมื่อถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรัฐบาลไทยไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาอดีตนายกรัฐมนตรี และไม่ได้แจ้งให้ต่างประเทศทราบ จึงเกิดกรณีนี้ใช่หรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า เหตุผล 4 ข้อของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เป็นเหตุผลสำคัญที่กระทรวงการต่างประเทศควรนำไปบอกทุกประเทศว่ารัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ หมดอำนาจในการบริหารประเทศแล้วด้วยเหตุผล 4 ข้อ ซึ่งคงความผิดที่ตั้งไว้และดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่ เมื่อคณะมนตรีความมั่นแห่งชาติ (คมช.) ทำถึงขนาดนี้ กระทรวงการต่างประเทศเป็นกลไกของรัฐบาลก็ควรคำนึงถึงเหตุผล 4 ข้อ ของ คมช.ซึ่งชัดเจนอยู่แล้ว

 

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความพยายามเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่านสื่อต่างประเทศนั้น น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า รัฐบาลมีสื่ออยู่ในมือ รัฐบาลน่าจะใช้สื่อที่อยู่ทำความเข้าใจกับประชาชนและต่างประเทศในกรณีนี้ โดยชี้ให้เห็นความคืบหน้าของการตรวจสอบของ คตส. รัฐบาลควรใช้สื่อที่มีอยู่เพื่อสื่อให้เห็นถึงการทำงานและความคืบหน้าในการตรวจสอบอดีตนายกรัฐมนตรี

 

 

ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ จะส่งนายทหารพระธรรมนูญ ร่วมเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - พลเอกสนธิบุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะมนตรีแห่งชาติ หรือ คมช. กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายชื่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 25 คน จากประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. แล้ว และได้มอบหมายให้เลขาธิการคมช.ไปศึกษาถึงคุณวุฒิของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 25 คน ว่ามีความครอบคลุมทุกสาขาอาชีพ และมีผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านมากน้อยเพียงใด เพื่อที่การสรรหาในสัดส่วนของคมช.จำนวน 10 คน จะได้มีความครอบคลุมและเหมาะสมมากที่สุด

 

ประธานคมช.เปิดเผยว่า จะคัดเลือกนายทหารพระธรรมนูญ 1 คน จากกระทรวงกลาโหมเข้าไปเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญด้วย ส่วนจะทำหน้าที่ดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทหารเป็นหลักหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ

 

"ผมจะขอทหารเข้าไปคนนึงนะครับ เรียนกันตามตรงก็คือว่าเราจะเอานายทหารพระธรรมนูญจากกระทรวงกลาโหมเนี่ย ใส่เข้าไปคนนึง"

 

ทั้งนี้ ในส่วนที่คมช.ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เสนอรายชื่อเข้ามา 1 คน ซึ่งนาวาอากาศตรีประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสนช.ได้รับเลือกเข้ามานั้น ประธานคมช. กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และเป็นดุลยพินิจของสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่จะพิจารณา

 

 

กมธ.ยกร่างรธน.ภาคประชาชนต้าน ตัวแทนโควต้า คมช. นั่งประธาน

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นางอังคณา นีละไพจิตร หนึ่งในกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แสดงความเห็นถึงการล็อคตำแหน่งประธานกรรมาธิการไว้ให้นาวาอากาศตรีประสงค์ สุ่นศิริ ว่า ผู้ที่จะเป็นประธานยกร่างรัฐธรรมนูญควรจะมาจาก 25 คนที่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) คัดเลือกกันมา เพราะถือว่ามาจากการกระบวนการคัดสรรหลายขั้นตอน ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งถ้าจะนำคนที่มาจากโควต้าของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) มาเป็นประธาน ที่ผ่านมาได้พยายามฝ่ากฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ คมช.กำหนด จนสามารถเลือก 25 คนได้อย่างอิสระ ถ้าคมช.วางตัวประธานไว้จริง จะทำให้ประชาชนไม่สบายใจ และมองว่า คมช.ตีกรอบให้เดิน ขณะที่คนที่ถูกวางให้เป็นประธานจะไม่สง่างามไปด้วย

 

 

ป.ป.ช.ได้ข้อสรุปประกาศต้านทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ เดือน มี.ค.

เว็บไซต์แนวหน้า - นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวว่า คณะกรรมการมีมติให้นายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธานอนุกรรมการผลักดันการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยมี นายภักดี โพธิศิริ และนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. เป็นอนุกรรมการร่วม เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา

 

นายปานเทพ กล่าวว่าได้กำหนดรูปแบบเบื้องต้นไว้ 4 รูปแบบ คือ 1 .เปิดให้มีการปฏิญาณตนของทุกภาคส่วนสังคม และมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปี อาทิ การจัดสัมมนาให้กับกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ และการเสนอความคิดเห็นเรื่องแก้ กฎหมาย ป.ป.ช. 2.เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคประชาชน และองค์กรอิสระ 3.มีการรณรงค์ผ่านสื่อมวลชนและ 4 .เร่งปลูกจิตสำนึกเกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรมให้สังคม ทั้งนี้ได้กำหนดกรอบเวลาเริ่มประกาศให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติภายในเดือน มี.ค. นี้

 

 

อดีตทูตอาวุโสสิงคโปร์ตำหนิทักษิณ

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - หนังสือพิมพ์ Today ของสิงคโปร์ ฉบับวานนี้ รายงานข่าวโดยมีข้อความส่วนหนึ่งว่า นายกีชอร์ มาห์บูบานิ อดีตนักการทูตอาวุโส และผู้อำนวยการโรงเรียน ลี กวน ยิว ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เป็นธรรมและไม่มีความเมตตาต่อสิงคโปร์ เพราะนำสิงคโปร์ไปอยู่ในจุดที่ล่อแหลม อาจจะดีกว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นที่อื่น ซึ่งไม่ใช่สิงคโปร์ ขณะที่ประเทศไทยพยายามแก้ไขปัญหาอย่างยากลำบาก ก็ย่อมคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก

 

 

 

เศรษฐกิจ

 

 

หม่อมอุ๋ยรอดูผลกระทบ ไทยตัดความสัมพันธ์สิงคโปร์

เว็บไซต์คมชัดลึก - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผลกระทบกรณีที่รัฐบาลไทยประกาศตัดความร่วมมือกับประเทศสิงคโปร์ กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีขอพบรองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ เรื่องดังกล่าวกำลังรอดูจะมีผลกระทบ ก่อนที่รัฐบาลจะออกมาตรการตอบโต้นายกรัฐมนตรีไม่ได้หารือตน และเมื่อนายกรัฐมนตรีตัดสินใจแล้ว รัฐบาลก็ต้องเดินตาม

 

ไอเอ็มเอฟ คาด ศก.โลก ยังขยายตัวต่อเนื่อง แต่ยังต้องระวังเรื่องน้ำมัน และ อัตราแลกเปลี่ยน

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายโรดริโก ราโต กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกยังคงแข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยได้แรงหนุนสำคัญจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดในจีน นายราโต กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระยะ 4 ปี และจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอัตราราวร้อยละ 4.9 ในปีนี้ เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นไปอย่างนิ่มนวล (ซอฟท์ แลนดิ่ง) ในขณะที่เศรษฐกิจจีน จะยังคงเติบโตในอัตราที่สูงกว่าร้อยละ 10 ตลอดจนเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่น ก็กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงในช่วงต้นปีนี้ ช่วยส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก แต่อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟเตือนว่า ปัจจัยเสี่ยงเรื่องราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกบ้าง จึงเตือนว่า เศรษฐกิจโลก อาจเผชิญภาวะ "การปรับตัวอย่างไม่เป็นระเบียบ" สาเหตุจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และราคาน้ำมันในตลาดโลก ตลอดจนภาวะความไม่สมดุลทางการค้า คือ สหรัฐยังคงขาดดุลการค้าจำนวนมาก ในขณะที่จีน และกลุ่มประเทศในเอเชียจะเกินดุลการค้า พร้อมทั้งเตือนให้จีน เร่งเปิดตลาดการเงิน การธนาคาร เพื่อให้กลไกตลาดเข้าไปกำหนดราคาและการจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจจีนอย่างเสรี และมีประสิทธิภาพ

 

 

รัฐมนตรีน้ำมันซาอุ ฯ ระบุ ยังไม่จำเป็นที่โอเปก จะเปิดประชุมฉุกเฉิน

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - หลังจากที่ นายราฟาเอล รามิเรซ รัฐมนตรีน้ำมันเวเนซุเอลา เรียกร้องชาติสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก เปิดประชุมนัดพิเศษ ผลักดันให้ลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ราคาน้ำมันลดต่ำลงไปอีก เนื่องจากในปัจจุบัน มีการผลิตน้ำมันล้นตลาดวันละ 7 แสน - 1 ล้านบาร์เรล

 

นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ในขณะนี้ ยังไม่มีความจำเป็นที่กลุ่มโอเปก จะต้องเปิดการประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือการตัดลดกำลังการผลิต นับแต่สถานการณ์ในตลาดน้ำมันดิบ เริ่มดีขึ้นกว่าเมื่อครั้งที่เปิดการประชุมที่กรุงโดฮา เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว เนื่องจากแผนการลดกำลังการผลิตตามที่ตกลงในกลุ่มโอเปกกำลังดำเนินไปด้วยดี และไม่ควรตื่นตระหนกต่อราคาน้ำมันขณะนี้ ซึ่งตกลงถึงร้อยละ 14 นับแต่ต้นปี 2550 เป็นต้นมา นอกจากนี้ รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ตลาดกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และเชื่อว่า มาตรการทั้งในการประชุมที่กรุงโดฮาและกรุงอาบูจา ของไนจีเรีย ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ก่อนหน้านี้ โอเปก เพิ่งประกาศจะลดกำลังการผลิตลงรวมแล้ววันละ 1 ล้าน 7 แสนบาร์เรล และในจำนวนนี้ 5 แสนบาร์เรล จะเริ่มมีผลในทางปฏิบัติวันที่ 1 ก.พ.นี้

 

 

 

ต่างประเทศ

 

 

สิงคโปร์เสียใจไทยตอบโต้กรณีทักษิณ

กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ได้ออกแถลงการณ์เมื่อคืนนี้ ระบุว่า รัฐบาลสิงคโปร์รู้สึกเสียใจที่รัฐบาลไทยถอนคำเชิญนาย จอร์จ เยียว รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ที่จะเดินทางมาเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมประชุม โครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานข้าราชการพลเรือนไทย-สิงคโปร์ หรือ ซีเสป ครั้งที่ 8 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 มกราคมนี้ รวมทั้งการระงับความร่วมมือโครงการซีเสป และยกเลิกการประชุมซีเสป เพื่อเป็นการตอบโต้ ต่อกรณีที่สิงคโปร์ได้อนุญาตให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบนายเอส ชยากุมาร รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์

กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณเข้าพบและหารือกับนายชยากุมารเป็นการส่วนตัว และหวังว่ารัฐบาลไทยจะเข้าใจในสถานะของสิงคโปร์ด้วย

ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยตัดสินใจด้วยตัวเองในการเดินทางมาสิงคโปร์ และพลเมืองไทยก็ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า ดังนั้น สิงคโปร์ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ และรัฐบาลไทยไม่ได้แจ้งให้สิงคโปร์ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกตั้งข้อหาในการกระทำผิดกฎหมายใด ๆ และไม่ได้ห้ามให้เขาเดินทางไปประเทศใดบ้าง

 

ซาอุฯ และคูเวต สนับสนุนนโยบายอิรักฉบับใหม่ของผู้นำสหรัฐ

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - แผนยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐในอิรัก ที่มีหลายประเทศคัดค้าน ขณะที่ 2 ชาติอาหรับทั้งซาอุดีอาระเบียและคูเวต สนับสนุนนโยบายอิรักฉบับใหม่ของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ผู้นำสหรัฐ ภายหลังการหารือร่วมกับ ดร.คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่อยู่ระหว่างการเยือนภูมิภาคตะวันออกกลาง เชค โมฮัมหมัด อัล-ซาเลม อัล-ซาบาห์ รัฐมนตรีต่างประเทศคูเวต ระบุว่า คูเวต หวังที่จะเห็นการเพิ่มกำลังทหารในกรุงแบกแดดเป็นเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพกรุงแบกแดด และป้องกันไม่ให้อิรักเข้าสู่ยุคสงครามกลางเมือง

 

ขณะที่เจ้าชายซาอุด อัล-ไฟซาล รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า เห็นด้วยกับเป้าหมายของนโยบายฉบับใหม่ที่จะนำมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่อิรักเผชิญในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เจ้าชายซาอุด กล่าวว่า รัฐบาลอิรัก ก็จะต้องทำหน้าที่และมีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการสลายกลุ่มติดอาวุธชีอะห์

 

ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบีย แสดงความกังวลว่าหากกองกำลังสหรัฐถอนตัวจากอิรักเร็วเกินไปจะทำให้กลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะห์มีอำนาจมากขึ้น และจะทำให้กลุ่มนิกายสุหนี่อันเป็นชนกลุ่มน้อยของประเทศตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

 

 

ผบ.ทบ.อิสราเอลยอมลาออก หลังปราบฮิซบอลเลาะห์ไม่ได้

เอเอฟพี (ผ่านผู้จัดการออนไลน์) - พลโท แดน ฮาลุตซ์ ผู้บัญชาการทหารอิสราเอลประกาศลาออกวานนี้เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการที่อิสราเอลยกทัพโจมตีเลบานอน สังหารผู้คนพลเรือนไปกว่า 1,000 คน แต่ไม่สามารถบีบให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ปล่อยตัวประกันทหารยิว 2 นาย ที่ลักพาตัวไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว

 

โฆษกของกองทัพอิสราเอลประกาศการลาออกของพลโทฮาลุตซ์ หลังจากก่อนหน้านี้มีการเผยแพร่ผลการสอบสวนความล้มเหลวของกองทัพอิสราเอลในสงครามเลบานอน โดยการสอบสวนดังกล่าวระบุว่าบรรดาผู้บัญชาการทหารวางแผนทำสงครามได้ย่ำแย่มาก

 

นอกจากนั้น คณะกรรมาธิการอิสระ ที่สอบสวนเอฮุด โอเมิร์ต นายกรัฐมนตรีและอามีร์ เปเรตซ์ รัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งทั้งคู่มีบทบาทสำคัญในสงครามถล่มเลบานอน ก็เตรียมจะเผยแพร่ผลการสอบสวนในไม่กี่สัปดาห์นี้ โดยคาดกันว่า การประกาศลาออกของผู้บัญชาการทหารจะทำให้ประชาชนเร่งกดดันให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมลาออกตาม

 

 

คุณภาพชีวิต

 

 

สนช.รับหลักการกม.อาญาเรื่องการข่มขืน ตัดเงื่อนไขความเป็นหญิง-ชาย

ผู้จัดการรายวัน - ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)วานนี้ (17 ม.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช. เป็นประธาน ได้รับหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..)พ.ศ.... ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เสนอ และเห็นชอบในร่าง พ.ร.บ.เดียวกัน ที่เสนอโดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ สมาชิก สนช. และให้ตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อพิจารณา โดยยึดร่างของครม.เป็นหลัก จากนั้น สนช.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ ..)พ.ศ. ...ตามที่ ครม.เสนอ และเห็นชอบในร่าง พ.ร.บ.เดียวกันที่เสนอโดยนายบวรศักดิ์ และให้ตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณา โดยยึดร่างของครม.เป็นหลัก

 

สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมให้คู่หมั้น มีสิทธิเรียกร้องค่าทดแทนจากผู้อื่น ซึ่งได้ร่วมประเวณี ข่มขืนกระทำชำเรา หรือพยายามข่มขืนกระทำชำเราคู่หมั้นของตน และแก้ไขเพิ่มเติมเหตุฟ้องหย่า และสิทธิเรียกร้องค่าทดแทนกรณีการฟ้องหย่า เนื่องจากคู่สมรสอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี หรือเป็น ชู้หรือมีชู้

 

ส่วนร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญานั้น มีสาระสำคัญแก้ไขเพิ่มเติมให้การกระทำข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ซึ่งไม่ใช่ภริยา หรือสามีของตนให้เป็นความผิด และแก้ไขเพิ่มเติมให้การดำรงชีพจากรายได้ของผู้ซึ่งค้าประเวณีไม่ว่าชายหรือ หญิงเป็นความผิด

 

นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นซึ่งมิใช่ภริยา ให้ถือเป็นความผิด ก็แสดงว่า การข่มขืนภรรยาไม่ใช่ความผิด ทำให้ที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้แก้ไขมาตลอด ดังนั้น ในการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ จะเป็นเรื่องดีที่ในขั้น กมธ.จะตัดคำว่า "ซึ่งมิใช่ภริยา"ออก

 

 

ปิดถนน 7 จังหวัดตั้งด่าน 2 ชั้นคุมหวัดนกระบาด

เว็บไซต์คมชัดลึก - หลังจากตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกในฟาร์มเป็ดไข่ ที่หมู่ 5 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ วงศาโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ออกประกาศให้เขตอำเภอเมืองเป็นเขตโรคระบาดสัตว์ปีกทันทีนั้น นายพนธ์สมิทธิ์ กลางนภา หัวหน้าด่านกักกันสัตว์พิษณุโลก เปิดเผยว่า ระดมเจ้าหน้าที่จากด่านกักกันสัตว์นครราชสีมา อุตรดิตถ์ ตาก พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และสุโขทัย ให้มาช่วยปฏิบัติหน้าที่เป็นการเฉพาะกิจทันทีจำนวน 40 นาย

 

โดยทีมเฉพาะกิจตั้งด่านกักกันสัตว์โซนชั้นใน 3 จุด บริเวณสี่แยกอินโดจีน-หล่มสัก แยกต้นหว้า-นครสวรรค์ และบ้านไผ่ขอดอน อ.เมือง-สุโขทัย ส่วนโซนชั้นนอกตั้งด่านเขตต่อ จ.พิษณุโลก-กำแพงเพชร, พิษณุโลก-พิจิตร และพิษณุโลก-สุโขทัย หากจุดใดมีสัตว์ปีกป่วยตายเกิน 5% ก็จะสั่งทำลายทันที

 

ขณะเดียวกัน ปศุสัตว์พิษณุโลกเร่งเก็บตัวอย่างหาเชื้อจากอุจจาระเป็ดไล่ทุ่งในเขตอำเภอเมืองที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยช่วงเช้าเข้าเก็บเป็ดของนายล้อม หมีนิ่ม ที่เลี้ยงเป็ดไข่ไล่ทุ่งอยู่ที่หมู่ 4 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก จำนวน 60 ตัว จาก 1,200 ตัว นายล้อม กล่าวว่า ไม่กลัวว่าจะติดเชื้อไข้หวัดนก เพราะดูแลฉีดวัคซีนเป็ดเป็นอย่างดี เลี้ยงมาได้ 4-5 ปีแล้ว ยังไม่มีปัญหาเป็ดป่วยตายผิดปกติ

 

อย่างไรก็ตาม นายทองพูน บริยัง สาธารณสุขอำเภอเมืองพิษณุโลกได้เรียกประชุมฉุกเฉิน อสม. กำนัน สมาชิก อบต.และผู้ใหญ่บ้านในเขต ต.พลายชุมพล ทันที เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจกับผู้นำท้องถิ่นและติดตามและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกจากสัตว์สู่คน ได้แสดงความเป็นห่วงจุดที่ตรวจพบเชื้อไข้หวัดนก ชื่อนางประจบ อู่ไทย เป็นแม่ค้าขายไข่เป็ดอยู่ที่ตลาดบ้านคลอง อ.เมือง แต่ลูกจ้าง 2 ราย เป็นคนใบ้ 1 ราย ยังไม่สามารถตามตัวลูกจ้างทั้ง 2 รายมาซักประวัติและสืบสวนโรคได้เลย

 

วันเดียวกัน นายสุวิทย์ วัชโรทยางกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เรียกประชุมนายอำเภอและปศุสัตว์อำเภอ 12 อำเภอ ขณะนี้ได้ตั้งด่านจุดสกัด ตรวจการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก รวม 15 จุด บนถนนทุกสายเข้า-ออก จ.พิจิตร พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนอาสาสมัคร ออกสำรวจตามหมู่บ้านเก็บตัวอย่าง

 

ด้านนายประชา อัศวเมธา ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา พบเป็ดเทศ 28 ตัว จากฝูงที่มีกว่า 40 ตัวล้มป่วย ตายผิดปกติอย่างกะทันหันที่บ้านของนายแบน แป้นทับ บ้านเลขที่ 12 หมู่ 10 ต.ย่านยาว อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการฝังทำลาย พร้อมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเป็ดที่เหลืออีก 12 ตัว ได้เก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจหาเชื้อไข้หวัดนกต่อไป

 

นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ส่งหนังสือชี้แจงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้เฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก และให้แจ้งเตือนไปยังตำบลต่างๆ นอกจากนี้ ยังขอให้ผู้ว่าฯ ให้ความร่วมมือ และสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มที่ จังหวัดใดไม่ทำหน้าที่จะถือว่ามีความผิด แต่คงไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการลงโทษที่เด็ดขาด

 

ส่วนนายภิรมย์ ศรีจันทร์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ยังไม่พบพื้นที่เกิดเชื้อไข้หวัดนกเพิ่มเติม นอกจากฟาร์มเป็ดไล่ทุ่งที่ จ.พิษณุโลก ขณะนี้ พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทุกแห่งเพิ่มความเข้มงวดในพื้นที่ที่เคยเกิดโรคไข้หวัดนกมาแล้ว โดยให้ติดตามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไปเก็บตัวอย่างนกป่า 3 ชนิด แล้วผลเป็นบวกพบเชื้อ เอ็น 1 ชนิดเดียวนั้น ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด

 

 

ฮ่องกงพบเหยี่ยวติดหวัดนก ด้านอินโดเตรียมฆ่าไกบ้านแสนตัว

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - ตามที่ทางการฮ่องกงยืนยันว่า นกป่าตัวที่พบในย่านจับจ่ายซื้อขายในตัวเมืองของฮ่องกง เป็นพาหะไวรัสไข้หวัดนก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ของเมือง ตรวจสอบที่บริเวณชายแดนติดกับจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้น หลังจากที่มีการตรวจพบการลักลอบขนส่งนกท้องถิ่นติดเชื้อหวัดนกในปีนี้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ด้านการเกษตรของฮ่องกง กล่าวว่า พบเชื้อไวรัสหวัดนก H5N1 ในเหยี่ยวขนาดใหญ่ตัวหนึ่งที่ตายแล้ว นับเป็นสัตว์ปีกตัวที่ 2 ที่มีผลการตรวจสอบเชื้อโรคไข้หวัดนกที่ออกมาเป็นบวกในฮ่องกงในปีนี้

 

ด้านสำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์ รายงานว่า พบเหยี่ยวขนาดใหญ่เมื่อวันที่ 9 ม.ค. และโฆษกกระทรวงเกษตร ได้ขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากโรคไข้หวัดนก

 

ด้านสถานการณ์ของโรคไข้หวัดนกในอินโดนีเซียนั้น อินโดฯ จะฆ่าไก่เลี้ยงตามบ้านหลายแสนตัว ยับยั้งการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก หลังจากที่อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรคไข้หวัดนก มากที่สุด นางสิตี ฟาดิเลาะห์ ซูปารี รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า อินโดนีเซีย จะฆ่าไก่เลี้ยงตามบ้านหลายแสนตัว เพื่อหวังยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ที่ทำให้ชาวอินโดนีเซียเสียชีวิตแล้ว 61 คน

 

ขณะที่ ทางการท้องถิ่น จะออกคำสั่งห้ามประชาชนเลี้ยงไก่ในบริเวณที่พักอาศัย ส่งสัญญาณว่าอินโดนีเซีย จะใช้วิธีการเชิงบังคับมากขึ้นในการควบคุมไข้หวัดนกแพร่ระบาด ส่วนการฆ่าไก่จะจ่ายเงินชดเชยให้ผู้เลี้ยงตัวละไม่เกิน 1 ดอลลาร์ 50 เซนต์ หรือราว 54 บาท โดยเน้นพื้นที่ในกรุงจาการ์ตาและทางตะวันตกที่มีประชากรหนาแน่นและมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด

 

 

จนท.ญี่ปุ่น เริ่มตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีก ที่อยู่ใกล้กับฟาร์มที่พบหวัดนก

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ญี่ปุ่นพบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในฟาร์มในเมืองคิโยทาเกะ สำนักข่าวเกียวโด รายงานการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นว่า เจ้าหน้าที่จากเขตมิยาซากิ เริ่มตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกทั้งหมด ซึ่งตั้งอยู่ในเขตรัศมี 10 กิโลเมตร ใกล้กับฟาร์มที่พบการระบาดครั้งแรก การตรวจสอบฟาร์มดังกล่าว ครอบคลุมฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกจำนวน 11 แห่งในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเลี้ยงสัตว์ปีกจำนวนโดยรวมประมาณ 1 แสน 9 หมื่น 4,000 ตัว นอกจากนี้ ยังมีฟาร์มไก่อีก 5 แห่ง ที่ยังไม่มีการตรวจสอบ

 

คณะผู้ตรวจสอบ จากศูนย์บริการด้านสุขอนามัยในปศุสัตว์ประจำเขตมิยาซากิและองค์กรต่างๆ ได้รวบรวมตัวอย่างเลือดและของเหลวจากไก่ 10 ตัวจากแต่ละฟาร์มโดยผลการทดสอบอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

 

ส่วนฟาร์มทานิกูชิ ฟูรันโจ คูโรซากะ ซึ่งเป็นฟาร์มสัตว์ปีกที่เกิดการระบาดของไข้หวัดนกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้รับคำสั่งจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขญี่ปุ่นไม่ให้เคลื่อนย้ายไก่และไข่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการฉุกเฉินภายใต้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันโรคติดต่อในปศุสัตว์ เนื่องจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกดังกล่าว ยังมีไก่ที่กำลังใกล้จะจัดส่งก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดได้ไม่นานนัก ด้านเกษตรกรในท้องถิ่น ร้องเรียนไปยังนายโตชิคัทสึ มัตซูโอกะ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น ให้จ่ายเงินชดเชยในช่วงที่รัฐมนตรีได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เมื่อวันอังคารด้วย

 

 

สสจ.สุราษฎร์ฯ เตือนผู้บริโภคหอยนางรมสดเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

ไอ.เอ็น.เอ็น. - นพ.วุฒิไกร ศักดิ์สุรการต์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด หรือ สสจ. สุราษฎร์ธานี กล่าวเตือนผู้บริโภคหอยนางรมควรนำมาปรุงให้สุกก่อนรับประทาน โดยเฉพาะคอสุรา ไม่ควรรับประทานหอยนางรมสด เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เพราะในน้ำทะเลหรือน้ำกร่อยจะมีเชื้อวิบริโอ วัลนิฟิคัส (Vibrio vulnificus) อาศัยอยู่และปะปนอยู่กับอาหารทะเลสดซึ่งมีอันตรายต่อชีวิต ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเกิดอาการโลหิตเป็นพิษ หลังจากได้รับเชื้อแล้วจะแสดงอาการ 12-72 ชั่วโมง ทั้งนี้ สถิติการเฝ้าระวัง พบผู้ติดเชื้อดังกล่าวในกระแสโลหิต จำนวน 56 ราย จากการรับประทานอาหารทะเลดิบ โดยเฉพาะหอยนางรม ในปี 2549 มีผู้ได้รับเชื้อในกระแสโลหิตจำนวน 6 ราย พบที่ รพ.ตะกั่วป่า จ.พังงา 2 ราย รพ.พระจอมเกล้าจ.เพชรบุรี 1 ราย รพ.อำนาจเจริญ 1 ราย รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี 1 ราย รพ.พระมงกุฎเกล้า กรุงเทพฯ 1ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย รอด 1 ราย อัตราป่วยตายสูงถึงร้อยละ 83

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net