ข่าวมอนิเตอร์วันที่ 10 มกราคม 2549

การเมือง

ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถาบันพระบรมราชชนก

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น- พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถาบันพระบรมราชชนก ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ซึ่งเป็นการจัดตั้งสถาบันพระบรมราชชนกเป็นสถาบันอุดมศึกษา มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวจะอำนวยประโยชน์ให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิงประชาชนในชนบท เพราะผู้ที่ผ่านการอบรมและผ่านการศึกษาจากสถาบันนี้แล้ว จะเป็นพยาบาลที่มีคุณภาพ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขให้คำนิยามว่าเป็นพยาบาลสายพันธุ์ใหม่ซึ่งสามารถอยู่กับชุมชนได้อย่างใกล้ชิดเพราะเป็นคนที่ได้รับการคัดเลือกมาจากชุมชนเอง อีกทั้งจะเป็นการช่วยเหลือปัญหาการขาดแคลนพยาบาลในพื้นที่ต่างๆ ด้วย

 

 

นายกฯจะร่วมประชุม ASEAN Summit ที่ฟิลิปปินส์ 12-15 ม.ค.นี้

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 12 ที่เมืองเซบู สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 12-15 มกราคมนี้ โอกาสนี้นายกรัฐมนตรียังจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย ครั้งที่ 2 (2nd Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle Summit- IMT-GT Summit) การประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 10 การประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลี ครั้งที่ 10 เป็นประธานการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง เพื่อทบทวนกลางรอบอย่างไม่เป็นทางการ การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 2 อย่างไม่เป็นทางการ

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดหารือทวิภาคีกับผู้นำ 3 ประเทศสำคัญ คือ การหารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายโนห์ มู-เฮียน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และ ดร.มานโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีอินเดีย เพื่อกระชับความร่วมมือในระดับทวิภาคีด้วย

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจกคู่มือประชาชนป้องกันระเบิด

เว็บไซต์แนวหน้า-วานนี้ สารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แจกจ่ายคู่มือประชาชนสำหรับป้องกันอันตรายจากวัตถุระเบิด วิธีสังเกตวัตถุต้องสงสัย และแนวทางปฏิบัติเบื้องต้น ให้กับประชาชนบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสยาม และศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อให้ประชาชนช่วยกันระมัด ระวัง และเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยวัตถุต้องสงสัยมักจะมีลักษณะเป็นกล่องพัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์ หีบห่อ กระเป๋าเดินทาง หรืออื่นๆ ซึ่งจะเกิดการระเบิดเมื่อมีการเปิดหีบห่อดังกล่าว

 

คู่มือดังกล่าวบรรยายว่าวิธีสังเกตไปรษณีย์ระเบิด อาทิ มีน้ำหนักมากเกินไป โป่งบวมผิดปกติ ลักษณะการห่อแน่นหนาเกินควร มีสายไฟเส้นเล็กยื่นออกมา มีคราบน้ำมัน มีการเขียนข้อความหรือติดภาพเรียกร้องความสนใจ ติดแสตมป์มากเกินไป มีการทำเครื่องหมายพิเศษบนซอง หรือพัสดุภัณฑ์ ซึ่งหากประชาชนพบเห็นของในลักษณะดังกล่าวให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอย่าแตะต้องอย่างเด็ดขาด

 

สำหรับในรายที่ได้รับโทรศัพท์ขู่วางระเบิด อย่าตื่นเต้นตกใจ ให้พยายามจดจำรายละเอียด ลักษณะของผู้พูดทั้งหมด ถ่วงเวลาพูดให้นาน หรือพยายามอัดเทปคำพูดไว้ จากนั้นให้รีบแจ้งตำรวจทันที หากเกิดการระเบิดแล้วห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆโดยพลการ เพื่อป้องกันการระเบิดซ้ำสอง และเพื่อไม่ให้วัตถุพยานต่างๆ สูญหายไป โดยให้พยายามออกห่างจากวัตถุระเบิดให้มากที่สุด

 

รายงานข่าวว่า วันนี้ (10 ม.ค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธานคณะมนตรีความมั่งคงแห่งชาติ(คมช.)ได้เรียกประชุมนายตำรวจระดับผู้บังคับการ ในเวลา 10.00 น. ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต

 

เผยโครงสร้าง ตร.ใหม่ ลดอำนาจ ผบ.ตร.

เว็บไซต์เดลินิวส์ - วันที่ 9 ม.ค.ที่กระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานการพัฒนาระบบงานตำรวจ เปิดเผยถึงโครงสร้างตำรวจใหม่ที่จะเปิดกว้างให้บุคคลภายนอก สมัครเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า โครงสร้างใหม่ไม่ใช่การเข้าไปรื้อหรือทำลายระบบตำรวจ เพราะการพิจารณาแต่งตั้งผู้บริหารสูงสุดขององค์กรต้องพิจารณาจากคนในเป็นหลัก แต่แนวทางใหม่เป็นเพียงการเปิดทางให้กับผู้ที่จะเป็นแคนดิเดทในตำแหน่ง ผบ.ตร.ไม่จำกัดว่าต้องเป็นตำรวจเท่านั้น นอกจากนี้จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านเวปไซต์ของกระทรวงยุติธรรมพบว่า มีผู้เห็นด้วยให้ปรับปรุงงานตำรวจถึงร้อยละ 90 แต่มีข้อกังวลว่าการเปิดกว้างให้บุคคลภายนอกเข้าแข่งขันเป็น ผบ.ตร.อาจเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ

นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญในโครงสร้างตำรวจใหม่ไม่ใช่ตำแหน่ง ผบ.ตร. แต่เป็นตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะคัดสรรจากบุคคลภายนอก เข้ามาทำงานเต็มเวลา กำกับนโยบายตำรวจ บริหารงานบุคคล รวมถึงทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล อาทิ เรื่องการร้องทุกข์จากประชาชน การแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ตลอดจนทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการนายตำรวจระดับสูง นำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ ส่วน ผบ.ตร.จะอยู่ในตำแหน่งเป็นวาระ 4-5 ปี มีอำนาจเฉพาะงานด้านปฏิบัติการ โดยมีกองกำลังเหลืออยู่ 3 ส่วน คือ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับกองปราบปราม และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคต่าง ๆ การปฏิบัติหน้าที่จะเบ็ดเสร็จในภาคคล้ายระบบของศาล

นายกิตติพงษ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของโรงพักจะปรับเปลี่ยนรูปแบบอย่างเห็นได้ชัด โดยงานที่ไม่ใช่ภารกิจหลักของตำรวจจะถูกถ่ายโอนไปสู่ชุมชนและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เพื่อกระจายงานให้กับอาสาสมัครให้มากขึ้น ซึ่งจะสอดรับกับกฎหมายไกล่เกลี่ยและระงับข้อพิพาทในคดีทั่วไป ที่จะให้ไกล่ เกลี่ยให้ยุติภายในชุมชน โดยโครงสร้างตำรวจใหม่จะไม่เทอะทะ สำหรับอัตราเงินเดือนและสวัสดิการของตำรวจจะปรับเพิ่มแน่นอน โดยมีแนวโน้มว่าจะต้องแยกบัญชีเงินเดือนของข้าราชการในกระบวนการยุติธรรมให้สูงกว่าข้าราชการพลเรือน ร้อยละ 15

 "โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จะปรับเปลี่ยนให้คล้ายกับมหาวิทยาลัย เพราะตำรวจไม่จำเป็นต้องอบรมกึ่งทหาร จึงต้องปรับหลักสูตรให้เน้นเนื้องานตำรวจและการทำงานใกล้ชิดประชาชน ส่วนผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจต้องมีคุณสมบัติเทียบเคียงอธิการบดี ไม่ใช่เป็นทางผ่านไปสู่ตำแหน่งอื่น นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีการเปิดรับผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเข้ารับอบรมเป็นตำรวจด้วย"นายกิตติพงษ์กล่าวและว่า สถานการณ์การเมืองที่วุ่นวายทำให้มีการเร่งรัดให้เร่งปรับโครงสร้างตำรวจให้เสร็จภายในวันที่ 13 มี.ค.นี้ จากนั้นจะเปิดเวทีให้ประชาชนมาลงประชามติ และเสนอร่างกฎหมายพร้อมโครงสร้างตำรวจให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วที่สุด

 

ศพครูจูหลิง ปงกันมูล ถึงบ้านแล้ว ขณะจังหวัดเชียงราย เตรียมรับเป็นเจ้าภาพบำเฑ็ญกุศลอย่างสมเกียรติ

กรมประชาสัมพันธ์ - ศพของครูจูหลิง ปงกันมูล ถึงท่าอากาศยานเชียงราย เมื่อเวลาประมาณ 18.45 น. โดยเครื่องบิน C130 ของกองทัพอากาศ ขณะที่ข้าราชการผู้ใหญ่ ประชาชนชาวเชียงรายคอยรับ การกลับมาบ้านเกิดครั้งสุดท้าย

พล.ท.จีระเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย นายอมรพันธ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประชาชน และกองทหารเกียรติยศ คอยรับการกลับมาของร่างที่ไร้วิญญาณของครูจูหลิง ปงกันมูล เมื่อเครื่องบินถึงท่าอากาศยานเชียงราย เจ้าหน้าที่ ได้อัญเชิญพวงมาลาพระราชทานหน้าหีบศพ จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นำหน้า และได้เคลื่อนศพผ่านกองทหารเกียรติยศ และประชาชนชาวเชียงรายที่มาคอยรับ ก่อนจะนำขึ้นรถ เพื่อไปบำเพ็ญกุศล ที่บ้านปงน้อยใต้ ม.10 ต. ปงน้อย กิ่ง อ.ดอยหลวง เพื่อรับคำสั่งจากทางสำนักพระราชวัง ในการกำหนดพิธีพระราชทานเพลิงศพ

ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ ข้าราชการในจังหวัดเชียงราย ร่วมเป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมและบำเพ็ญกุศลศพในคืนแรก

 

ศธ.ขอเครื่องราชฯ ขั้น 4-เพิ่มเงินเดือน 7 ขั้น-ตั้งมูลนิธิให้ "ครูจูหลิง"

ผู้จัดการออนไลน์ - ศธ.ขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์-เพิ่มเงินเดือน 7 ขั้นให้ "ครูจูหลิง" พร้อมเตรียมหารือสร้างอนุสรณ์หรือตั้งหอศิลป์เพื่อระลึกถึงคุณงามความดี รวมทั้งตั้งมูลนิธิด้วยทุนจดทะเบียน 2 แสนบาทโดยที่ประชาชนสามารถบริจาคที่ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา

 

   

เศรษฐกิจ

หุ้นไทยปิดต่ำสุดกว่า 2 ปี หลังครม.เห็นชอบแก้กม.ธุรกิจต่างด้าว

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น- ดัชนีหุ้นไทยลบ 2.69% มาต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี หลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบในหลักการร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ส่งผลให้นักลงทุนตื่นตระหนกเทขายหุ้นออกมาในหลายกลุ่ม

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนต่างประเทศเทขายหุ้น ขณะที่คาดดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลงตลอดสัปดาห์นี้ และมีโอกาสหลุดระดับต่ำกว่า 600 จุดได้

 

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดลบ 17.07 จุด มาที่ 616.75 ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ 25 ส.ค.47 ซึ่งปิดที่ 607.69 โดยระหว่างวันดัชนีปรับลงต่ำสุดที่ 615.66 และปรับขึ้นสูงสุดที่ 636.59 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายที่ 21,808.91 ล้านบาท

 

ขณะที่ SET50 ปิดลบ 12.44 จุดหรือ 2.82% มาที่ 428.73 และ SET100 ปิดลบ 27.53 จุด หรือ 2.87% มาที่ 933.35

 

ดัชนีกลุ่มแบงก์ลบ 3.99% ด้วยมูลค่าซื้อขายสูงสุดของตลาดที่ 18.89% นำโดยหุ้น ธ.ไทยพาณิชย์(SCB) ลบ 6.60%,กลุ่มพลังงานลบ 2.54% นำโดยหุ้นบมจ. ปตท.(PTT)ลบ 3.03%,กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลบ 3.80% นำโดยหุ้นบมจ.แลนด์ แอนด์เฮ้าส์(LH)ลบ 6.25%

 

สำหรับตลาดอนุพันธ์ (TFEX) มีสินค้า คือ SET50 ซึ่งมี 4 ประเภทสัญญาได้แก่ ส่งมอบเดือนมี.ค.50(MAR7),มิ.ย.50(JUN7),ก.ย.50(SEP7) และธ.ค.50(DEC7)

 

ปิดตลาด TFEX มีการซื้อขาย 4,240 สัญญา โดยสัญญาซื้อขาย MAR7 มี 4,085 สัญญา มูลค่า 1.76 พันล้านบาท ปิดที่ 427.50 ลดลง 15.8 จุด ขณะที่ JUN7 มี 123 สัญญา มูลค่า 53.41 ล้านบาท ปิดที่ 427.70 ลดลง 15.7 จุด

 

ส่วน SEP7 มี 32 สัญญา มูลค่า 14.07 ล้านบาท ปิดที่ 428.00 ลดลง 14.5 จุด ขณะที่ DEC7 ไม่มีการซื้อขาย

 

"นักลงทุนตื่นตกใจเทขายหุ้นออกมาทุกกลุ่ม หลังจากครม.รับในหลักการ พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว"นายเกียรติก้อง เดโช ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซิกโก้ กล่าว

 

เขากล่าวว่า สถาบันการเงินที่นักลงทุนต่างประเทศถือหุ้น ไม่น่าจะได้รับผลกระทบ เพราะมีพ.ร.บ.สถาบันการเงินคุ้มครองอยู่ แต่การที่ราคาหุ้นสถาบันการเงินปรับตัวลดลงมามาก เพราะเป็นผลทางอ้อมจากการที่นักลงทุนตื่นตกใจเทขาย

เขากล่าวว่า ปัจจัยเกี่ยวกับพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว จะเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต่างประเทศมองว่าเป็นปัจจัยลบ มากกว่ามาตรการสกัดเก็งกำไรเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เพราะ พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ถือว่าส่งผลกระทบโดยตรงกับนักลงทุนต่างประเทศ

 

นายเกียรติก้อง กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ คาดว่ามีโอกาสลดลงต่อได้อีก เพราะตลาดหุ้นยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้น และแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศยังมีอยู่

 

เขากล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ดัชนีตลาดหุ้นไทย มีโอกาสที่จะหลุด 600 จุดได้ ดังนั้นนักลงทุนควรจะถือเป็นเงินสด เพื่อลดความเสี่ยง ขณะที่คาดว่าตลาดหุ้นจะกลับมาเริ่มทรงตัวภายในต้นเดือนก.พ.เพราะจะมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)

 

เขากล่าวว่า ปัจจัยทางเทคนิคด้านแนวรับและแนวต้านในขณะนี้ประเมินได้ยาก เพราะทิศทางตลาดหุ้นอยู่ในสภาพไม่ปกติ เพราะเป็นไปตามอารมณ์ซื้อขายของนักลงทุน

   

ภูมิภาค

ชาวบ้านปัตตานีเริ่มประสบปัญหาน้ำท่วม

ไอ.เอ็น.เอ็น - ชาวบ้าน จ.ปัตตานี เริ่มเดือดร้อนจากระดับน้ำท่วมที่เพิ่มสูงขึ้น หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง ขณะที่หัวหน้าสำนักงานป้องกันภัยฯยืนยัน เตรียมมาตรการช่วยเหลือไว้พร้อมแล้ว

 

หลังจาก ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้พื้นที่ จ.ปัตตานี เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีพื้นที่หลายแห่ง เริ่มมีน้ำท่วมขังบ้างแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.กระโต อ.ยะรัง พื้นที่ อ.หนองจิก และอ.โคกโพธิ์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มติดเชิงเขา จึงทำให้มีน้ำท่วมขังได้ง่าย ด้านนายไฟซอล เกษตรกาลาม์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปัตตานี เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วม จ.ปัตตานี ว่า ในขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงมาหนัก อีกทั้ง น้ำในพื้นที่จ.ยะลา ยังไม่ทะลักเข้ามาในพื้นที่ จ.ปัตตานี จึงไม่น่าเป็นห่วง แต่อย่างไรก็ตาม จ.ปัตตานี ได้กำหนดมาตรการ และเตรียมความช่วยเหลือให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ไว้พร้อมแล้ว

  

ต่างประเทศ

อันวาร์อิบราฮิมขึ้นศาลฟ้องมหาเธร์คดีหมิ่นประมาทว่าเป็นเกย์

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังของมาเลเซีย ได้ท้าทายอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ในศาล ที่เขาเป็นคนยื่นฟ้องนายมหาเธร์ เมื่อปีที่แล้ว ในข้อหาหมิ่นประมาท ที่กล่าวหาว่าเขาเป็นเกย์ จากคำกล่าวที่ว่า เขาไม่อาจยอมนายอันวาร์ ที่ก่อนหน้านี้ถูกมองว่าจะเป็นทายาททางการเมืองของเขา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากเขาเป็นพวกรักร่วมเพศ

 

ด้านทนายความของนายมหาเธร์ ได้พยายามจะหักล้างข้อกล่าวหาในสำนวนฟ้องร้องของฝ่ายนายอันวาร์ ที่มีความหนา 48 หน้ากระดาษ และกล่าวหาว่านายอันวาร์ มีความปรารถนาที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีและใช้การฟ้องร้องทางกฎหมายเพื่อกอบกู้ตัวเองเพื่อจะได้ก้าวไปสู่ตำแหน่งสำคัญ ขณะเดียวกัน นายมหาเธร์ได้ย้ำข้ออ้างที่ว่า เขาปลดนายอันวาร์เพราะเป็นพวกรักร่วมเพศ และยังอ้างหลักฐานที่ว่า เขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนเขียนสุนทรพจน์และน้องชายบุญธรรมของนายอันวาร์ ที่เป็นคนขับรถด้วย ก็มีความสัมพันธ์ทางเพศกับเขา

 

การฟ้องร้องครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากนายมหาเธร์ กล่าวต่อสื่อมวลชน เมื่อเดือนกันยายน ปี 2548 ว่าเขาปลดนายอันวาร์ออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวมาเลเซีย ที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมต้องมีผู้นำเป็นเกย์ ซึ่งนายอันวาร์ได้ถูกปลดเมื่อปี 2541 ในความผิดฐานวิปริตทางเพศและคอรัปชั่น ทั้งยังต้องรับโทษจำคุกนาน 6 ปี จนกระทั่งมีคดีวิปริตทางเพศถูกล้มล้างไปเมื่อปี 2547 ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ข้อกล่าวหานายอันวาร์ ที่ว่า เขามีความสัมพันธ์ทางเพศกับคนเขียนสุนทรพจน์และน้องชายบุญธรรม เป็นวามพยายามจะขัดขวางไม่ให้เขาท้าทายอำนาจทางการเมืองของนายมหาเธร์

 

รัสเซียหยุดส่งออกน้ำมันไปยุโรป

ผู้จัดการออนไลน์- รัสเซียสั่งระงับการส่งออกน้ำมันไปยัง 5 ประเทศในยุโรปตอนกลาง ซึ่งใช้ท่อน้ำมันพาดผ่านประเทศเบลารุสเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (8) ได้แก่ เยอรมนี ฮังการี สาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ และสโลวาเกีย หลังจากเกิดกรณีพิพาทกับเบลารุส

 

มอสโกระบุว่า ทางเบลารุสเป็นผู้ก่อปัญหาก่อน ด้วยการลักลอบสูบน้ำมันของรัสเซียไปอย่างผิดกฎหมาย ทว่า ทางการของเบลารุสออกมาโต้ว่า น้ำมันเหล่านี้ถือเป็นการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางที่ทางรัฐบาลประกาศเรียกเก็บตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เนื่องจากทางรัสเซียปฏิเสธที่จะจ่ายเป็นเงินตามที่เบลารุสเรียกร้อง

 

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกขยับสูงขึ้น ก่อนจะปรับตัวลงมาเพราะตลาดดูจะให้ความสำคัญกับพยากรณ์อากาศในสหรัฐฯ มากกว่าที่ชี้ว่าอุณหภูมิในฤดูหนาวอบอุ่นกว่าปกติ ซึ่งจะทำให้ดีมานด์พลังงานลดต่ำลง

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท