6 ม.ค. 2550 สมาพันธ์ประชาธิปไตยออกแถลงการณ์กรณีระเบิดกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 49 เชื่อเป็นฝีมือของบุคคลในแวดวงทหารแก่งแย่งอำนาจกันเอง โดยแสดงความเห็นว่า ผลของการวางระเบิดจะเพิ่มอำนาจให้ คมช. และต่ออายุกฎอัยการศึก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ คมช. คืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน โดยให้รัฐบาลต้องดำเนินการให้คณะกรรมการเลือกตั้งจัดการเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็ว ให้รัฐสภาจากการเลือกตั้งเป็นตัวกลางจัดให้ประชาชนได้ร่างรัฐธรรมนูญ แล้วจึงเลือกตั้งใหม่หลังร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น ส่วนคดีความต่างๆ ก็ให้ดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรมที่เข้มงวดตามหลักนิติธรรมสากล

00000

แถลงการณ์สมาพันธ์ประชาธิปไตย

กลุ่มทหารเผด็จการสร้างสถานการณ์โค่นล้มกันเอง

ซ้ำเติมประเทศให้เลวร้ายต่อเนื่องจากรัฐประหาร19กันยายน

และอาจจะก่อรัฐประหารอีก

อันที่จริงกลุ่มเผด็จการทหารก็รู้อยู่ว่า สังคมไทยกำลังจะก้าวเดินไปตามครรลองประชาธิปไตย กล่าวคือ จะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน2549 แต่พวกเขาก็ชิงลงมือทำรัฐประหารทำลายระบอบประชาธิปไตยไทยลงอย่างสิ้นเชิงโดยอ้างเหตุผลสี่ข้อ คือ

1.มีการสร้างความแตกแยก 2.มีการทุจริตคอรัปชั่น 3.มีการแทรกแซงองค์กรอิสระ 4.มีการกระทำเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ผ่านมาแล้วกว่า 100 วันก็ยังไม่สามารถแสดงผลงานตามสี่ข้อกล่าวหาออกมาได้

ที่หนักไปกว่านั้นก็คือ พวกกลุ่มเผด็จการทหารทำให้ขบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวโดยจงใจตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่เป็นผู้อาฆาตพยาบาทรัฐบาลเดิม และหลายคนมีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะทำลายหลักนิติธรรมสากล และทำให้ประชาชนไทยส่วนมากรวมทั้งประชาคมโลกด้วย ไม่ยอมรับผลการกระทำดังกล่าว

การวางระเบิดในวันสิ้นปี 2549 หลายจุด (หากรวมที่วางไว้แต่ไม่ระเบิดกล่าวกันว่ามีถึง 30 จุด) ในกทม.ซึ่งเป็นการกระทำของคณะบุคคลชุดเดียวกันอย่างแน่นอนเพราะเครื่องระเบิดเหมือนกันทุกจุด (เป็นกล่องเหล็กสี่เหลี่ยมขนาดกว้างยาวเท่ากัน3.5นิ้วหนา1นิ้ว) ใช้ระเบิดแอนโฟจุดชนวนด้วยนาฬิกาดิจิตอล ใช้เศษตะปู และตลับลูกปืนเป็นชิ้นส่วน กำหนดเวลาให้ระเบิดใกล้เคียงกัน ทำลายโทรทัศน์วงจรปิดในหลายที่

เมื่อประมวลแล้วคณะบุคคลที่ทำการได้ก็มีแต่ผู้ที่เชี่ยวชาญและเกี่ยวข้องกับวงการเท่านั้น ซึ่งก็เป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากบุคลากรในแวดวงทหาร และน่าจะนึกถึงผู้ที่กุมอำนาจกองทัพในปัจจุบันไว้ในลำดับแรก (ผู้ที่สูญเสียอำนาจไปแล้วจะไปสั่งให้ทหาร(และครอบครัวของเขา)มาตายแทนตนได้ด้วยเงินอย่างนั้นหรือ) หรือไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นกลุ่มมุสลิมสามจังหวัดภาคใต้ซึ่งก็มีความเป็นไปได้น้อยกว่ามาก

ผลของการวางระเบิดย่อมทำให้กลุ่มคมช.สามารถเสริมอำนาจเผด็จการในการปกครองประเทศได้มากขึ้น ยืดอายุกฎอัยการศึก ทำลายการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐประหาร

หยุดยั้งการตรวจสอบความไร้คุณธรรมจริยธรรมของผู้นำปัจจุบัน เสริมความชอบธรรมของการจัดตั้งศปศ.คมช.และกอรมน.รวมไปถึงการใช้งบลับทหารอย่างไม่มีใครตรวจสอบได้

นอกจากนี้ การแก่งแย่งกันเป็นใหญ่ในหมู่ทหารกันเอง ความขัดแย้งกันในการใช้ความเด็ดขาดเข้าแก้ปัญหา ย่อมทำให้กลุ่มแข็งกร้าวต้องการโค่นอีกกลุ่มเพื่อสร้างอาณาจักรทรราชย์เฉกเช่นสมัยจอมพลสฤษดิ์ธนะรัชต์ให้เกิดขึ้น ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการกระทำของพวกกลุ่มทหารเผด็จการด้วยกันเองเพื่อสร้างเงื่อนไขทำรัฐประหารเพิ่มเติมจากวันที่19กันยายนที่เลวร้ายหนักอยู่แล้วให้ดิ่งลงสู่ห้วงหายนะมากยิ่งขึ้น

สมาพันธ์ประชาธิปไตยคัดค้านการทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยรัฐประหาร19กันยายน2549 ตั้งแต่ต้น มาในวันนี้ก็ยังคงยืนยันว่าความเสียหายทั้งหมดของสถานการณ์ในปัจจุบันล้วนเกิดจากการทำรัฐประหาร19กันยายนทั้งสิ้น การสร้างเงื่อนไขเพื่อรัฐประหารอีกก็ยิ่งจะนำความพินาศมาสู่สังคมเพิ่มขึ้น

ดังนั้น เพื่อไม่ให้สังคมไทยดิ่งลงไปในปลักตมหายนะหนักหน่วงกว่านี้ คมช.ต้องประกาศสลายตัวในทันที คืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนไทย รัฐบาลต้องดำเนินการให้คณะกรรมการเลือกตั้งจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นโดยเร็ว ให้รัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นตัวกลางจัดให้ประชาชนได้ร่างรัฐธรรมนูญด้วยตนเองแล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายหลังประชาชนร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ส่วนคดีความต่างๆก็ให้ดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรมที่เข้มงวดตามหลักนิติธรรมสากล

สมาพันธ์ประชาธิปไตย

 4 มกราคม 2550