สังคมไทย ณ ขณะนี้มีหลายหลายบริบทประกอบเข้าด้วยกัน นับวันยิ่งซับซ้อนและมองเห็นถึงความจริงได้ยาก แต่เนื่องจากสังคมไม่ได้แน่นิ่ง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหว หลายๆสิ่งจึงต้องเป็นไปในลักษณะแบบ
"ตามสภาพ"ข้อมูลข่าวสารและการร่วมกันแสดงความคิดเห็นเป็นสิ่งหนึ่งที่เด็กที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะมาได้ไม่กี่วันนั้น ยังเชื่อมั่นอยู่ว่า จะเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่จะเป้นตัวกระตุ้นให้สังคมคลายตัวออกมาในสภาพที่ยุ่งเหยิงน้อยที่สุดเท่าที่มันจะเป็นได้ ผมไม่แน่ใจว่าการปลดปล่อยทางความคิดของประชาชนในเหตุการณ์ต่างๆ รอบโลกในอดีตนั้น ผ่านกระบวน การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นเพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่าที่ ประชาไท กำลังสนับสนุนอยู่หรือไม่ แต่ถ้าเหตุการณ์เหล่านั้น มีส่วนของกระบวนการเหล่านี้ ผมก็อุ่นใจได้ระดับหนึ่งแล้วว่า นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดี สู่การสร้างสังคมอย่างที่เราต้องการ
ผมไม่แน่ใจว่า ความผิดพลาดของการ
"อภิวัฒน์" ประชาธิปไตยเมื่อเกือบๆ ๘๐ ปีก่อนจะมาจากการที่ไม่ได้เตรียมพร้อมคนในสังคมให้มีความรู้ความเข้าใจกลไกและโครงสร้างในระบอบประชาธิปไตยหรือเปล่า เราถึงได้พบกับจุดเปลี่ยนที่รุนแรงทางสังคมเสมอมาหากจะดีไม่น้อย หากว่า
" การวิพากษ์ " อย่างเป้นเหตุเป็นผล และพูดถึงเรื่องของโครงสร้างหรือระบบ จะมีมากกว่าการใส่อารมณ์ผ่านตัวอักษรที่ปรากฏอยู่ตามกระทู้ในเวปบอร์ดต่างๆหลายครั้งที่อ่านแล้วไม่สบายใจ เพราะรู้สึกว่า เรากำลังตีจาก
"ความจริง" และ "เหตุผล" มากไปเรื่อยๆ เราเข้าข้างอารมณ์และความรู้สึก ของตัวเองและสะท้อนออกมาด้วยถ้อยคำที่รุนแรงและไม่สร้างสรรค์เชื่อว่าหลายๆ ท่านที่เข้าเวปบอร์ด คงจะมีประสบการณ์ทางโลกและทางธรรมมากกว่าเด็กอายุ ๒๐ อย่างผมแน่นอน แต่กลับกลายเป็นว่า
"การสะท้อนความคิด" กลายเป็นการระบายอารมณ์ อารมณ์ที่ไม่สามารถแสดงออกได้ เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงการแสดงความคิดเห้นจึงออกมาในรูปของ การระเบิด ปลดปล่อย และ ทุ้มทิ้งอารมณ์ เหตุผลที่เจือลงไป ดูจะจางเสียจนเข้าไม่ถึงแก่นสารของการวิพากษ์
ขึ้นชื่อว่าไทย ย่อมมีความมีอิสระสูง แต่การจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง เราจะหาความเป้นสังคมที่อารยะในเชิงความคิด และก้าวไปสู่สังคมแห่งปัญญาได้อย่างไร
สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้น เด็กๆ ที่ยังด้อยในทุกด้าน กำลังมองเห็นและเฝ้าดูพฤติกรรมของ
"ผู้ใหญ่" อยู่ผมไม่ได้โทษว่า ผู้ใหญ่ไม่ได้ทำหน้าที่ นำเด็ก ไปสู่สิ่งที่ควรจะเป็น แต่เรากำลังโตและซึมซับจากการกระทำที่ปรากฏชัดอยู่ เพราะความไม่รู้ และสับสน ต้นแบบอย่างดีที่ประจักษ์ เราเองก็แทบจะหาไม่ได้อีกเลย บ่อยครั้งถึงเกิดคำถามว่า หรือเวปบอร์ดนี้จะเป็นสนามเด็กเล่นเพื่อให้ผู้ใหญ่บางคนที่ขาดโอกาสแสดงออกในวัยเด็กมาปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองหรือไม่
ผมไม่ได้คาดหวังจากใครทั้งนั้น ที่จะรอให้เกิดสังคมที่เป็นเหตุเป็นผล และยังเคารพในความคิดของผู้ใหญ่หลายท่านเสียด้วยซ้ำ ว่าอย่างน้อยก็เป็นจุดเริ่มในการแสดงความคิดเห้นหรือเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ เพื่อให้ได้ช่วยกันคิด แต่น่าจะดีกว่ามาก ถ้าเรายึดเหตุผลหรือข้อมูลที่รองรับ และการแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาโดยเคารพความเป็นมนุษย์ควบคู่กันไปด้วย
แต่ตราบใดที่เรายังคงมีรากฐานการนินทาและหลบมุมอย่างเหนี่ยวแน่น ถึงจะมีเวปสื่อทางเลือกอย่างไร ก็คงเป็นได้แค่ที่ทางระบายอารมณ์
อยากให้กลับมาทบทวนการโพสกระทู้ของแต่ละท่านกันอีกครั้ง ว่าทำไปด้วยความสะใจ หรือ ร่วมกันพัฒนาสู่ความเป็นประชาธิปไตยกันแน่ คำถามแต่ละคำถามสร้าง
"ปัญญา" ก่อให้เกิดการใช้สมองเพื่อการพิจารณาตามเหตุผลปัจจัย หรือไม่?ความแตกต่างหลากหลายของสังคมเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมยึดถือและเคารพมาตลอด โดยเชื่อว่ามันเป็นพื้นฐานอันดีที่สุดต่อการพัฒนาสังคมร่วมกัน เพราะเราต่างก็คือเจ้าของพื้นที่ด้วยกัน แต่ไม่แน่ใจว่าต่อไปความแตกต่างหลากลายที่บวกด้วยอัตตานั้น จะนำไปสู่สิ่งใด
หรือสุดท้าย ความเป็นคนไทยก็เป็นอย่างนี้ มีสังคมแบบนี้ มีการวิพากษ์กันแบบนี้ ผมจะได้เตรียมใจ และเป็นไปแบบนี้
แบบที่ได้กระทำและสืบทอดตกต่อกันมา
?ด้วยความเคารพในความเป็นผู้ใหญ่
หลักสอง ด้อยประสบการณ์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)