Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 27 ธ.ค.2549 ภายหลังจากที่นายเพรียวพงศ์ เจริญวิริยะภาพ อดีตสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ได้ยื่นถวายฎีกา เรื่องกระบวนการคัดเลือกผู้สมควรได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) อันส่อไปในทางไม่สุจริตและไม่เป็นธรรม เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2549 โดยให้เหตุผลประกอบว่า กระบวนการคัดเลือกผู้สมควรได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น สสร.เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ดำเนินไปด้วยความวุ่นวาย สับสน ใช้วิธีการลงคะแนนและกระบวนการคัดเลือกที่ส่อไปในทางไม่สุจริตและไม่เป็นธรรม และมีการคัดค้านทักท้วงโดยสมาชิกสมัชชาแห่งชาติที่อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่อาจนิ่งเฉยดูดายปล่อยให้เหตุการณ์ไม่บังควรผ่านพ้นไป


 


การนำรายชื่อบุคคลจำนวน 200 คนที่ได้รับการคัดเลือกอย่างไม่เป็นธรรมขึ้นทูลเกล้าฯ ย่อมเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท แม้บุคคลบางส่วนอาจมิได้รู้เห็นเป็นใจกับการกระทำที่ไม่บังควรในครั้งนี้เลยก็ตาม จึงประสงค์ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทบทวนกระบวนการคัดเลือก โดยยับยั้งกระบวนการต่อจากนี้ไปจนกว่าจะมีพระบรมราชวินิจฉัยประการหนึ่งประการใด


 


ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จึงได้จัดประชุมที่บ้านเกษะโกมล ของ พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ประธาน คมช. เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.อ.สนธิ ได้เข้าประชุมร่วมกับคณะ คมช.ทั้งหมด เพื่อพิจารณาคัดสรรให้เหลือ สสร. 100 คน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปและจะประชุมกันอีกครั้งในบ่ายวันที่ 27 ธ.ค.นี้


 


การประชุมดังกล่าวได้ยกเลิกสเปคเดิมเกี่ยวกับการสรรหา สสร. รวมถึงการแบ่งสรรบันส่วนตามสาขา และการพิจารณาจากคะแนนสูงสุด แต่จะมีการกำหนดแนวทางสรรหากันใหม่ โดยก่อนหน้านี้ทาง พล.อ.วินัย ภัทธิยะกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าการคัดเลือก สสร.ให้เหลือ 100 คนมีหลักเกณฑ์พิจารณาโดยคัดเลือกตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ ในรูปแบบเฉลี่ยกระจายไปให้ทั่วในแต่ละกลุ่มอาชีพ รวมถึงมีการเฉลี่ยไปยังตัวแทนจากภาคต่างๆ ด้วย ส่วนจะมีการเฉลี่ยอันไหนมากน้อย ต้องดูอีกครั้งหนึ่ง เพราะการคัดเลือกสมาชิก 200 คนที่ผ่านมา มีข้าราชการเข้ามามากถึง 74 คน จึงต้องมีการเฉลี่ยสัดส่วนที่เหมาะสมกว่านี้


 


นอกจากนี้ พล.อ.วินัยได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในกรณีที่มีผู้ถามว่า มีหลักในการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้าไปร่วมร่างรัฐธรรมนูญอย่างไร ซึ่งพล.อ.วินัย กล่าวว่า ต้องดูที่ 100 คนว่าจะเลือกมา 25 คนแล้วจะเป็นอย่างไร และสัดส่วน 10 คน ที่ คมช.คัดเลือก ต้องเพิ่มในสัดส่วนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะลงไปร่วมร่างรัฐธรรมนูญด้วย เพื่อทำให้เกิดกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญดำเนินไปอย่างเรียบร้อยตามห้วงเวลา และคมช.ต้องการผู้ร่างฯ ที่มีความสามารถ เชี่ยวชาญ รวมถึงมีประสบการณ์รอบรู้ เพราะมีเวลาในการร่างรัฐธรรมนูญน้อย แต่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่คงต้องใช้ไปอีกนาน


 


เมื่อมีผู้ถามถึงความพึงพอใจที่ประชาชนจะมีต่อร่างรัฐธรรมนูญ พล.อ.วินัย กล่าวว่า ถึงเวลานั้นต้องลองดูอีกครั้งหนึ่ง แต่คิดว่า คมช.คงไม่สวนกระแสประชาชน ส่วนกรณีที่มีคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบล็อกโหวตนั้น พล.อ.วินัย ยืนยันว่าไม่มีการบล็อกโหวต ทั้งนี้ กรอบเวลาในการคัดเลือกจะไม่ให้เกิน 2 สัปดาห์ ตามที่ ประธาน คมช.ได้ระบุไว้ แม้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเลือกกันวันไหน แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลอยู่


 


ทางด้าน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด หนึ่งในสมาชิก คมช.กล่าวเสริมถึงความคืบหน้าการสรรหา สสร.ว่าขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการสรรหา และจะพยายามทำให้เสร็จสิ้นก่อนที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธาน คมช.จะเดินทางไปประเทศซาอุดิอาระเบีย


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net