จับตาทัพสื่อมวลชนจีนครึ่งร้อยบุกเหนือ ล่องน้ำโขงสำรวจความคืบหน้าสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจร่วมกับไทย นัดหมายเรียงตัวทวงถามความคืบหน้าการค้า การลงทุนการท่องเที่ยว ไล่ตั้งแต่เชียงราย เชียงใหม่ เจ้ากระทรวงที่กรุงเทพ ไปจนถึงลาว แย้ม 2 เส้นทางอนาคตทั้งน้ำโขงและทางบกกรุงเทพ-คุนหมิง แต่รับอุปสรรคยังมาก
ที่มา : นิตยสารรายสัปดาห์พลเมืองเหนือ
จับตาทัพสื่อมวลชนจีนครึ่งร้อยบุกเหนือ ล่องน้ำโขงสำรวจความคืบหน้าสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจร่วมกับไทย นัดหมายเรียงตัวทวงถามความคืบหน้าการค้า การลงทุนการท่องเที่ยว ไล่ตั้งแต่เชียงราย เชียงใหม่ เจ้ากระทรวงที่กรุงเทพ ไปจนถึงลาว แย้ม 2 เส้นทางอนาคตทั้งน้ำโขงและทางบกกรุงเทพ-คุนหมิง แต่รับอุปสรรคยังมาก
สื่อจีนทัพใหญ่บุกเหนือ
นับจากการบุกเบิกเส้นทางล่องแม่น้ำโขงจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน เชื่อมมายังประเทศไทย ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อปี 2535 การนำกองทัพนักข่าวกว่า 50 ชีวิตจากสำนักข่าวหลายแห่งของทางการจีน ล่องเรือมายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 - 23 ธันวาคม 2549 ถือว่าเป็นคณะประวัติศาสตร์ และส่งสัญญานถึงการรุกคืบเส้นทางสายนี้ของจีนอย่างน่าจับตา
โดยสำนักนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลปักกิ่ง โดย Mr.Huang Junxion Director of Information Office of the State Council พร้อมด้วยสำนักข่าวสารของมณฑลยูนนาน นำตัวแทนคณะสื่อมวลชน-นักเขียนจีนหลายสำนักข่าว เดินทางมาศึกษาสำรวจเส้นทางคมนาคมแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง สู่อินโดจีน เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ / การเดินเรือในแม่น้ำโขง รวมถึงการเปิดเส้นทางการค้า - การลงทุน-การท่องเที่ยวจีน-ไทย ผ่านแม่น้ำโขง
คณะฯ ได้ล่องเรือจากท่าเรือกวนเหล่ย สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ถึงท่าเรือเชียงแสน จ.เชียงราย นัดหมายสัมภาษณ์ตัวแทนภาครัฐ-เอกชนไทยที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด - รัฐบาล ตั้งแต่นายอำเภอเชียงแสน ด่านศุลกากร ส่วนควบคุมพืช ตม.เชียงแสน นาย
นอกจากนี้ยังมีกำหนดการเข้าสัมภาษณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ตัวแทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมศุลกากร ที่กรุงเทพมหานคร และยังจะเดินทางต่อไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อพบกับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเส้นทางคมนาคมในสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ
การเข้าพบตัวแทนภาครัฐและเอกชนของไทย ผู้สื่อข่าวจีนได้พยายามสอบถามถึงความคืบหน้าในการพัฒนาเส้นทางการค้าผ่านแม่น้ำโขง หลังจากไทย พม่า ลาว จีน ลงนามในข้อตกลองเปิดใช้แม่น้ำโขงตอนบนเพื่อการเดินเรือพาณิชย์อย่างเป็นทางการแล้ว ว่า รัฐบาลไทย ดำเนินนโยบายใดบ้างที่สนับสนุนให้การเดินเรือสายนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ ประเด็นปัญหาการระเบิดแก่งกลางแม่น้ำโขง ที่ทางการจีนได้ดำเนินการมาตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน จนเหลือเพียง 2-3 แก่งบริเวณเหนือสามเหลี่ยมทองคำ และชายแดนไทย-ลาว ที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุใด มูลค่าการค้าไทย-จีน แท้จริงแล้วมีอยู่เท่าใดกันแน่ ทิศทางการพัฒนาการค้า-การลงทุนในย่านสามเหลี่ยมทองคำในอนาคตของรัฐบาลไทย ภาวะการท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีน โดยเฉพาะความเชื่อมโยงของเชียงใหม่ เชียงราย กับมณฑลยูนนาน
เจิ้ง หมิง รองผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักฝ่ายข่าวรัฐบาลประชาชนมณฑลยูนนานกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างภาคเหนือของไทยและยูนนานจะยิ่งกระชับมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางคมนาคมผ่านแม่น้ำโขง และเส้นทางบกคุณหมิง - กรุงเทพได้รับการพัฒนา การมาเก็บข้อมูลครั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าและคาดว่าน่าจะนำข้อมูลไปเผยแพร่ให้ชาวจีนได้ทราบความสำคัญของเส้นทางคมนาคมสายนี้
ไทยแจงแผนโครงการริมโขงเชื่อแนวโน้มดี
นาย
นาย
นาง
นาย
ทั้งนี้ เชื่อว่า ในอนาคตการค้าระหว่างภาคเหนือตอนบนของไทย กับจีนตอนใต้ จะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากพื้นฐานความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างทั้งสองประเทศ การเปิดเสรีการค้าร่วมกัน และการพัฒนาเส้นทางคมนาคม ทั้งการเดินเรือในแม่น้ำโขง และถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯ รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลที่จะขยายความเจริญสู่ภาคตะวันตกของประเทศให้มากขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อไทยในแง่ของการขยายการค้าการลงทุน
พบยังมีปัญหา
นาย
นาย
นาง
สื่อจีนเปรียบไทยยังต้วมเตี้ยม
หลี่ เชี่ยน ผู้สื่อข่าวสาวสำนักข่าวซินหัว บอกว่า การพัฒนาคมนาคม-การค้าผ่านแม่น้ำโขงมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนตลอด 2 ฝั่งมาก แต่ที่ผ่านมาดูเหมือนว่า ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ขณะที่การเปิดเส้นทางคมนาคม-การค้าจากจีนตอนใต้ ผ่านไปทางพม่า บังกลาเทศ อินเดีย คืบหน้าไปมาก รวมทั้งจีน-เวียดนาม ก็เปิดเส้นทางรถไฟ - ถนนเชื่อมโยงกันได้แล้ว แต่เส้นทางเดินเรือจากจีน - ไทย ส่วนหนึ่งของโครงการเปิดเส้นทางคมนาคมคุนหมิง-กรุงเทพฯ กลับยังมีปัญหาอยู่
หลี่ เซี่ยน มองว่าการเปิดเส้นทางคมนาคม การค้าจีน - ไทย ผ่านแม่น้ำโขง ยังติดปัญหาอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร่องน้ำในแม่น้ำโขง ที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรืออยู่ , มาตรฐานการขนส่งสินค้า ที่แม้ว่าทางการจีนจะลงทุนสร้างท่าเรือกันลันปา สิบสองปันนา อันเป็นท่าเรือรองรับตู้คอนเทนเนอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการขนส่งสินค้าให้ปลอดภัยมากขึ้น มีระบบประกันภัยการขนส่ง ป้องกันสินค้าหนีภาษี หรือสินค้าผิดกฎหมายของประเทศคู่ค้าได้ดีขึ้น เพราะผ่านการตรวจสอบของศุลกากรต้นทาง - ปลายทางอย่างเข็มงวด แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีธุรกรรมขนส่งสินค้าผ่านคอนเทนเนอร์ในแม่น้ำโขงเท่าที่ควร ยังคงใช้ระบบขนส่งแบบเดิมผ่านเรือสินค้าทั่วไป ที่ทำให้สินค้าหนีภาษี - ผิดกฎหมาย มีโอกาสเล็ดรอดเข้าประเทศคู่ค้าได้มาก