ประชาไท - 4 ธ.ค.2549 การนัดรวมพลต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคง (คมช.) และรัฐบาล ในวันที่ 10 ธ.ค. ที่ท้องสนามหลวงของกลุ่มประชาชนและเกษตรกรนั้น ทำให้ในช่วงนี้ทาง คมช.ได้จับตาแกนนำและแผนการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือนั้น คมช.ได้สั่งการให้คุมเข้มเป็นพิเศษมีการขึ้นบัญชีดำหรือแบล็กลิสต์ แกนนำกลุ่มประชาชนแทบทุกกลุ่ม ไม่เว้นแม้แต่แกนนำองค์กรพัฒนาเอกชน หรือเอ็นจีโอ ที่ทำงานด้านการพัฒนาในพื้นที่สร้างความอึดอัดให้กับแกนนำเอ็นจีโอเป็นอย่างมาก
นาย
แกนนำเอ็นจีโอภาคเหนือ เห็นว่า คลื่นใต้น้ำคือกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวโดยไม่แสดงตัว ไม่มีการนำชัดเจน พอถึงวันหนึ่งก็โหมถล่มเหมือนสึนามิ ซึ่งขณะนี้ยืนยันว่าไม่มีแล้ว แม้แต่ในจังหวัดเชียงใหม่ก็ไม่มี นอกจากคมช.จะสืบทอดอำนาจถึงจะมา ที่ประเมินเช่นนี้ไม่ต้องการให้ประมาท แต่วันนี้ทุกกลุ่มสามารถกาหัวได้หมดว่าใครเป็นใคร ในส่วนเอ็นจีโอนั้นทุกกลุ่มได้ยื่นหนังสือถึงคมช.หมดแล้ว หรือกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใครขยับตรงไหนก็รู้ทันทีว่ากลุ่มไหน มีนักการเมืองคนไหนอยู่เบื้องหลัง คมช.อย่าเหมาว่าองค์กรประชาชนทั้งหมดเป็นคลื่นใต้น้ำ
"คมช.เป็นห่วงอำนาจของตัวเองมากเกินไป จนมองคนอื่นเป็นศัตรูไปหมด ผมกลัวว่าคมช.จะบริหารประเทศภายใต้ข่าวลือ ไม่อยากให้คมช.ตีขลุมทุกกลุ่มว่าเป็นคลื่นใต้น้ำไปหมด เพราะจะทำให้สังคมสับสนและมองกลุ่มองค์กรประชาชนที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและให้เกิดการแก้ปัญหาเป็นขบวนการป่วนสังคมเหมือนกันหมด" พันธมิตรฯภาคเหนือ ระบุ
นายสุริยัน วิเคราะห์การชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค. ว่า ไม่คิดว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมมากถึง 3 หมื่นคนอย่างที่นาย
ขณะที่นาย
ที่มา: http://www.komchadluek.com
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)