ประวัติความเป็นมาหมู่บ้านนาอ่อน-ผลกระทบที่เกิดจากภาครัฐ

บ้านนาอ่อน เป็นหมู่บ้านบริวารของหมู่บ้านแปะแซม(ป่าเกี๊ยะ) หมู่ที่ 1 ตำบลเปียงหลวง อำเภอเวียงแหงจังหวัดเชียงใหม่ ระวางแผนที่ 4748 III พิกัด 664827 เผ่าลีซู(ลีซอ) ราษฎรตั้งบ้านเรือนอยู่ 13 หลังคาเรือน จำนวนประชากร 52 คน มีสัญชาติไทยหรือบัตรประจำประชาชน 5 ครอบครัว 11 คน ที่เหลือถือบัตรสีเขียวขอบแดงและบัตรสีฟ้า กำลังรอการพิสูจน์สถานะบุคคล ราษฎรทั้งหมดนับถือศาสนาดั้งเดิม(วิญญาณบรรพบุรุษ) หมู่บ้านตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนป่าเชียงดาว และเขตอุทยานแห่งชาติเชียงดาว เขตชั้นคุณภาพลุ่มน้ำของชุมชนชั้น 3  

หมู่บ้านนาอ่อนเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ เดิมชื่อหมู่บ้านนาอ่อนป่าเกี๊ยะ ต้นตระกูลของราษฎรภายในหมู่บ้านอาศัยทำกินมานานกว่า 30 ปี จากนั้นได้อพยพไปทำกินที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และลูกหลานได้กลับมาก่อตั้งหมู่บ้าน และทำกินในพื้นที่เดิมอีกครั้ง เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ประมาณปี พ.ศ.2537 จนถึงปัจจุบัน

หมู่บ้านตั้งอยู่ระหว่างหมู่บ้านเปียงหลวงกับหมู่บ้านแปะแซม อยู่ติดถนน ระยะทางจากอำเภอเวียงแหงไปถึงหมู่บ้านประมาณ 17 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นดินลูกรัง ราษฎรส่วนใหญ่อพยพมาจากบ้านแปะแซม และเปียงหลวง สาเหตุที่อพยพมาจัดตั้งหมู่บ้านใหม่ เพราะหมู่บ้านแปะแซม หมู่บ้านเปียงหลวงที่เคยอาศัย มีที่ดินทำกินไม่เพียงพอสำหรับปลูกข้าว ข้าวไม่พอกิน สมาชิกภายในหมู่บ้านมักจะเกิดปัญหาความขัดแย้งในที่ดินทำกินเป็นประจำ เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องที่ดินทำกินจึงได้อพยพมาจัดตั้งหมู่บ้านใหม่ในหมู่บ้านนาอ่อน

ตอนเริ่มอพยพเข้ามาใหม่มีราษฎรเพียง 5 ครอบครัว   ต่อมามีสมาชิกจากหมู่บ้านแปะแซม ตำบลเวียงแหง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากไม่มีที่ดินทำกินเพียงพออพยพเข้ามาสมทบด้วยทำให้มีสมาชิกหมู่บ้านเพิ่มขึ้นมาอีกรวม 13 ครอบครัว  

ราษฎรประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่ข้าว ข้าวโพด ปลูกถั่ว และเลี้ยงสัตว์ประเภทหมู ไก่ไว้บริโภค ทำพิธีกรรม อาชีพรองคือ รับจ้างหน่วยอุทยานแห่งชาติเชียงดาว เนื่องจากที่ดินทำกินในหมู่บ้านนาอ่อนมีความอุดมสมบูรณ์มาก สามารถปลูกข้าวได้จำนวนมาก เหลือกินทุกปี หมู่บ้านในบริเวณใกล้เคียงมักจะไปซื้อข้าวในหมู่บ้านไปกินทุกปี   

ความเป็นมาของปัญหาและผลกระทบ

การอพยพหมู่บ้านนาอ่อน ตำบลเปียงหลวงภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2549 ครั้งนี้ ดำเนินการโดยโครงการหลวงบ้านแปะแซมร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้อุทยานแห่งชาติเชียงดาว ทหาร ร.7 พัน 2 อำเภอเวียงแหง การอพยพหมู่บ้านครั้งไม่ได้มีการเตรียมโครงการรองรับแต่อย่างใด เช่น ที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย และสาธารณูปโภคอื่นๆ

อพยพหมู่บ้านครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโครงการหลวงบ้านแปะแซม อำเภอเวียงแหงและอุทยานแห่งชาติเชียงดาวให้เหตุผลว่า ราษฎรตัดไม้ทำลายป่าอุทยานแห่งชาติเชียงดาว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกป่าเพิ่มขึ้น และสามารถอนุรักษ์ป่าไม้ให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ จึงมีความจำเป็นต้องอพยพหมู่บ้านออกจากพื้นที่ในบริเวณดังกล่าวอย่างเร่งด่วน 

ลำดับเหตุการณ์

ประมาณปี พ.ศ.2543 โครงการหลวงบ้านแปะแซม ได้เข้าตั้งโครงการภายในหมู่บ้านแปะแซม เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวและพืชผักต่างๆ โดยมีหมู่บ้านเป้าหมาย 4-5 หย่อมบ้านซึ่งรวมหมู่บ้านนาอ่อนด้วย ช่วงเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านนั้น โครงการหลวงได้มีการอพยพหมู่บ้านหินแตว หมู่ที่1 รวมกับหมู่บ้านแปะแซม ด้วยเหตุเพื่อง่ายต่อการควบคุมและการพัฒนา

ปี พ.ศ.2543-2544 อุทยานแห่งชาติเชียงดาวได้เข้าไปตั้งหน่วยภายในหมู่บ้าน เพื่อปลูกป่า โดยมีราษฎรภายในหมู่บ้านเป็นลูกจ้างสลับกันไปทำงานให้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้ค่าตอบวันละ 80 บาทต่อคน งานที่ได้รับมอบหมาย เช่น ดินใส่ถุง เพาะกล้าไม้ ดายหญ้า กำจัดวัชพืช ฯลฯ การจ่ายเงินของป่าไม้ไม่ค่อยตรงเวลามากนักและบางครั้งก็ไม่ได้รับเงินเป็นเดือนก็ยังมี ในช่วงนี้ป่าไม้พยายามขยายพื้นที่ปลูกป่าเพิ่มขึ้น และเริ่มมีการพูดคุยกับโครงการหลงบ้านแปะแซม และอำเภอเวียงแหงว่า น่าจะอพยพหมู่บ้านนาอ่อนไปรวมกับหมู่บ้านแปะแซม โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ได้หารือกันหลายครั้งเพื่ออพยพหมู่บ้านนาอ่อนโดยราษฎรภายในหมู่บ้านไม่เคยรับรู้มาก่อน

กระทั่งจนถึงเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 เวลาประมาณ 16.00 น. มีเจ้าหน้าที่รัฐนำโดยปลัดอำเภอเวียงแหงฝ่ายรักษาความสงบ ฝ่ายทหาร จาก ร.7 พัน 2 กองกำลังผาเมือง โดย พ.อ.เกษม วังสุนทร (ไม่รู้สังกัด) เจ้าหน้าที่ป่าไม้อุทยานแห่งชาติเชียงดาว อส.อำเภอเวียงแหง ตำรวจภูธรจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอเวียงแหง ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านแปะแซมและผู้ใหญ่บ้านเปียงหลวง หมู่ 1 รวมประมาณ 20 คน ได้ขึ้นไปหมู่บ้านนาอ่อน และแจ้งให้ราษฎรทราบว่า นายอำเภอเวียงแหงมีคำสั่งให้ราษฎรทั้งหมด 13 หลังคาเรือน จำนวนราษฎร 52 คน ให้เตรียมตัวอพยพออกจากหมู่บ้านนาอ่อนก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2549 เมื่อถึงเวลาราษฎรยังไม่อพยพออกจากหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะทำการรื้อถอนเผาบ้านทั้งหมู่บ้าน พร้อมดำเนินคดีราษฎรในหมู่บ้านทั้งหมด  ซึ่งขณะที่แจ้งให้ราษฎรทราบนั้น เจ้าหน้าที่รัฐชุดดังกล่าว ไม่ได้แสดงหลักฐานตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

เหตุผลของการอพยพหมู่บ้านนาอ่อน เจ้าหน้าที่ป่าไม้และอำเภอเวียงแหง อ้างว่าแก่ราษฎรว่า ราษฎรหมู่บ้านนาอ่อนมีการบุกรุกทำลายป่าเพิ่มมากขึ้นทุกปี เพื่อป้องกันไม่ให้ป่าอุทยานแห่งชาติเชียงดาวถูกทำลายมากไปกว่านี้ จึงจำเป็นต้องอพยพหมู่บ้านนาอ่อนเป็นการเร่งด่วน

การอพยพหมู่บ้านนาอ่อนครั้งนี้ ทางอำเภอเวียงแหงและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เตรียมพื้นที่รองรับสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินแต่อย่างใด

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท