บทบรรณาธิการ เว็บไซต์เสียงคนอีสาน (Esanvoice)

http://www.esanvoice.net/esanvoice/know/show.php?Category=bot&No=339

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2549

เรื่องแรกที่ต้องรายงานให้ คมช. และรัฐบาลชั่วคราวของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ทราบเป็นการด่วน เพราะเวลานี้ไปไหนมาไหนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งในระดับแกนนำและไพร่พลมักจะบ่นให้เข้าหูอยู่เป็นประจำถึงความไม่พอใจ 2 เรื่องใหญ่ ๆ ก็คือ การ "เช็คบิล" หรือถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณออกไปให้พ้นเสียจากสังคมไทยทำไมถึงเชื่องช้าเป็นเต่าคลาน และ ภาพบาดตาบาดใจของการพบกันระหว่างป๋าเปรมและพจมานเมื่อสองอาทิตย์กว่า ๆ ที่ผ่านมายังติดตรึงตาตรึงใจมิรู้ลืมจนบัดนี้ เพราะเป็นเรื่องแสลงใจมาก ยอมรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่น่ารังเกียจเช่นนี้ของป๋า

เรื่องที่สองที่ต้องขอทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในวงกว้างก็คือเรื่องของการปฏิวัติและรัฐประหาร โดยหลังจากมีการยึดอำนาจการปกครองจากทักษิณโดยคณะทหารภายใต้ชื่อ คปค. และเปลี่ยนมาเป็น คมช. ในเวลาต่อมานั้น ได้มีนักศึกษา นักวิชาการ ออกมาต่อต้านรัฐประหารครั้งนี้ เพราะเห็นว่าเป็นเผด็จการอำนาจนิยม โดยกระทำการฉีกรัฐธรรมนูญ ล้มประชาธิปไตย ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และอีกหลากหลายเหตุผลในทำนองว่า "ไม่มีวันที่จะเห็นประชาธิปไตยภายใต้เผด็จการทหาร" อย่างแน่นอน

ที่บอกว่าขอทำความเข้าใจก็คืออยากจะบอกว่า บ้านเมืองนี้ปฏิวัติรัฐประหารได้ บ้านเมืองไหนในโลกนี้ก็ปฏิวัติรัฐประหารได้ และการปฏิวัติรัฐประหารก็มิได้เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงจุดจบของประชาธิปไตยอย่างที่คิดหรอก มิหนำซ้ำการปฏิวัติรัฐประหารอาจทำให้บ้านเมืองสามารถ "ผ่าทางตัน" "ชำระล้างสิ่งชั่วร้าย" หรือก้าวหน้ามากกว่าที่จะต้องทนให้บ้านเมืองปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแต่เปลือกเสียอีก

แต่..การปฏิวัติรัฐประหารที่ถูกต้องชอบธรรมต้องตอบให้ได้ว่า "ปฏิวัติรัฐประหารโดยใครและเพื่ออะไร"

และเวลาเกือบสองเดือนหลังจากทำการยึดอำนาจมาจากทักษิณทหารกำลังทำอะไรกันอยู่หรือ ?
เชื่อได้หรือไม่ว่าทหารทำรัฐประหารครั้งนี้เพื่อประชาชน ?

เราเริ่มพบว่า หนึ่ง-ทหาร สอง-รัฐบาลชั่วคราวของสุรยุทธ์ สาม-อดีตนักการเมืองจากพรรคไทยรักไทย สี่-นายทุนที่สนับสนุนทักษิณและพรรคไทยรักไทย กำลังจับมือผสานประโยชน์กัน มีการวิ่งเต้นของอดีตนักการเมืองพรรคไทยรักไทยเพื่อแปรพักตร์และสวามิภักดิ์กับขั้วอำนาจใหม่ ข่าวเช่นว่าแกนนำ "วัง" โน้นวังนี้จากไทยรักไทยกำลังต่อสายกับพรรคการเมืองอย่างชาติไทย ประชาธิปัตย์ ประชาราช หรือพรรคอื่น ๆ เพื่อขอเข้าไปทำงานทางการเมืองต่อ มีปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่ทุกวัน หรือการต่อสายเชื่อมสัมพันธ์ถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทั้งที่เป็นสายทหาร นักการเมือง นักธุรกิจ และข้าราชการ เพื่อขอความช่วยเหลือไม่ให้ทักษิณและพวกถูกยึดทรัพย์ ไม่ให้พรรคไทยรักไทยถูกยุบ หรือถ้าหากจะถูกยุบจริงก็ไม่อยากให้อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยระดับกรรมการบริหารพรรคถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติบทบาททางการเมืองไปด้วย

เราเริ่มพบเห็นข้าราชการและนายทุนที่เคยสนับสนุนการทำงานภายใต้นโยบายของทักษิณและพรรคไทยรักไทยเริ่มมีพฤติกรรมแปรพักตร์และสวามิภักดิ์กับขั้วอำนาจใหม่เช่นเดียวกับอดีตนักการเมืองจากพรรคไทยรักไทย มีปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่ทุกวัน

และสองสามวันมานี้เราก็เห็นความน่ารังเกียจยิ่งขึ้นไปอีก จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ตั้งเงินเดือนจำนวนสูงให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ คมช. และแต่งตั้งนายทหาร คมช. เข้าดำรงตำแหน่งบอร์ดในรัฐวิสาหกิจ (อย่างน้อย 3 แห่ง) ทั้ง ๆ ที่แต่ละคนมีเงินเดือนประจำจากต้นสังกัดทหารอยู่แล้ว

เหตุการณ์ที่เคลื่อนไหวอยู่เหล่านี้เริ่มเห็นเป็นที่เด่นชัดว่า "ยุคทักษิณ" หรือ "หลังทักษิณ" ช่างไม่แตกต่างกันเลย บ้านเมืองไม่ได้ถูกจัดระเบียบใหม่ด้วย "คุณธรรม" ที่มากพอ นักการเมืองเลว ๆ จากพรรคไทยรักไทยที่รับใช้ทักษิณจนวินาทีสุดท้ายก็ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมไทย เตะบอลเชื่อมสัมพันธ์กับประธาน คมช. ด้วยท่าทียิ้มแย้มแจ่มใสทั้ง 2 ฝ่าย ข่าวก็เล่นประเด็นทักษิณอยู่ทุกวันในทำนองว่าองค์กรต่าง ๆ ที่ถูกตั้งขึ้นมาตามประกาศของ คปค. กำลังทำการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นของทักษิณอย่างขมักเขม้น (แต่เอาผิดไม่ได้สักเรื่องเดียว) แต่มีข่าวที่ตามติดการทุจริตคอร์รัปชั่นของหัวหน้า "วัง" ต่าง ๆ ที่เคยอยู่กับทักษิณและไทยรักไทยน้อยมาก ทำเหมือนกับว่าบ้านเมืองนี้ทักษิณเลวอยู่คนเดียว ทั้งที่การทุจริตคอร์รัปชั่นระดับร้อยล้านพันล้าน (หรือแม้กระทั่งล้านสองล้านก็เถอะ) มันเกิดจากการสมคบคิดกันทั้งนั้น

พรรคการเมืองต่าง ๆ เช่น ประชาธิปัตย์ ชาติไทย ประชาราช ที่เคยด่าทักษิณและนักการเมืองพรรคไทยรักไทยด้วยถ้อยคำรุนแรง มาวันนี้กลืนน้ำลายตัวเอง ด้วยความปรารถนาอยากจะรับนักการเมืองที่ตัวเองเคยด่าเข้าพรรค

เขียนมาถึงตรงนี้แล้วก็ต้องขอชื่นชมกับกลุ่มนักศึกษา นักวิชาการที่ต่อต้านรัฐประหาร เพราะ "อ่านเกมส์ขาด" ตรงที่ว่า "รัฐประหารครั้งนี้เป็นเผด็จการทหารที่รับใช้ขุมอำนาจเก่า" และไม่ใช่ "ทหารปลดแอกเพื่อประชาชน" อย่างแท้จริง

มีเพียง "คุณธรรม" เท่านั้น ที่จะทำให้รัฐประหารครั้งนี้แตกต่างไปจากประวัติศาสตร์การปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมาของสังคมไทย ต้อง "ปล่อยวาง" ทุกสิ่งทุกอย่าง อย่ายึดติดกับอำนาจ คืนเงินเดือนที่ได้จากการเป็น คมช. สนช. และบอร์ดรัฐวิสาหกิจไปเสีย เอาทักษิณ ญาติมิตร พวกพ้องนักการเมือง นักธุรกิจที่เกี่ยวข้องเข้าคุกให้ได้ คืนอำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชนชาวไทยกลับคืนมาโดยเร็ว

หากมิเช่นนั้น..คงจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สอง ที่มิใช่ทหารถือปืนใช้อำนาจบาตรใหญ่ขับไล่รัฐบาลทุศีล และตั้งตนเป็นคนทุศีลเสียเอง แต่จะเป็นประชาชนสองมือเปล่ารวมพลังขับไล่ทหารออกไปจากอำนาจการปกครองบ้านเมือง..ในเร็ววันนี้