ประชาไท—10พ.ย. 2549 สำนักข่าว S.H.A.N. รายงานว่า วานนี้ (9 พ.ย.) ทหารพม่าประจำฐานด้านตรงข้ามอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ใช้ปืนค.81 ยิงถล่มเข้าใส่ฐานกองกำลังไทใหญ่ SSA ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน เป็นเหตุให้มีกระสุนตกลงมาในฝั่งไทย 1 นัด สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนทางด้าน SSA ไม่ได้ยิงตอบโต้แต่อย่างใด

แหล่งข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.45 น. เย็นวานนี้ (8 พ.ย.) ทหารพม่าที่ตั้งฐานอยู่บนสันเขาปางเสือเฒ่า ตรงข้ามบ้านเปียงหลวง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ใช้ปืนค. 81 ยิงถล่มเข้าใส่ฐานของกองกำลังไทใหญ่ SSA ฐานที่ 11 ที่อยู่บนดอยไม้ยมเหม็น ตะวันตกของหมู่บ้านเปียงหลวง รวม 3 นัด แต่ทางฝ่าย SSA ไม่ได้รับความสูญเสียและตอบโต้แต่อย่างใด

ต่อมาในเวลาประมาณ 20.15 น. ทหารพม่าหน่วยเดิมได้ใช้ปืนค. 81 ยิงถล่มเข้าใส่ฐาน SSA อีกรวม 5 นัด พร้อมทั้งยิงปืนกลหนักขนาด 54 มม. เข้าใส่อีกหลายชุด แต่ทาง SSA ก็ไม่ได้ตอบโต้อีกเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การยิงถล่มครั้งหลังนี้มีกระสุนปืนค. 81 ได้พลัดตกลงมาในป่าในเขตไทยหนึ่งนัด ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเข้าใจว่าเกิดการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับไทใหญ่และต่างแตกตื่นไปตามๆ กัน

ด้าน พ.ท. สิริ นายทหารของกองกำลังไทใหญ่ซึ่งรับผิดชอบดูแลทางด้านชายแดนอำเภอเวียงแหงเปิดเผยว่า กระสุนปืนค. 81 ที่ทหารพม่ายิงถล่มเข้าใส่ฐาน SSA ครั้งนี้ส่วนใหญ่เข้าเป้า แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับฝ่าย SSA และทาง SSA ก็ไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด ซึ่งเพียงแต่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ในหลุ่มหลบภัยเท่านั้น ส่วนสาเหตุนั้น คาดว่าทหารพม่าอาจต้องการดึง SSA เข้าสู่สนามรบตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง เพื่อหวังกลบข่าวสถานการณ์การเมืองในพม่าที่ขณะนี้กำลังวุ่นวายอยู่

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทหารพม่าที่ยิงถล่มฐานไทใหญ่ครั้งนี้อยู่ในสังกัดกองพันทหารราบเบาที่ 331 จากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ปัจจุบันตั้งฐานเรียงรายอยู่ตามแนวชายแดนไทยด้านตรงข้ามอำเภอเวียงแหง ส่วนกองกำลังไทใหญ่ที่ตั้งฐานอยู่ทางด้านนี้ได้แก่ หน่วยรบเสือข้านฟ้า ซึ่งมีพ.ต.กอสั่นละ เป็นผู้บัญชาการ

ทั้งนี้ เมื่อกลางปี 2545 ด้านชายแดนอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ได้เกิดการสู้รบกันอย่างดุเดือดระหว่างทหารพม่าผสมว้ากับกองกำลังใหญ่ SSA ซึ่งใช้เวลานานกว่าหนึ่งเดือนซึ่งทาง SSA สามารถยึดฐานทหารพม่าได้หลายแห่ง ต่อมาหลังจากที่ทหารพม่าสามารถยึดฐานกลับคืนได้ ก็ได้ขับไล่ชาวบ้านที่อยู่ในฝั่งพม่า(รัฐฉาน) หลายหมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านปางก้ำก่อ บ้านปางใหม่สูง บ้านห้วยยาว ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่หลายร้อยครอบครัวเข้ามายังฝั่งไทย โดยทหารพม่ากล่าวหาว่าให้การสนับสนุนกองกำลังไทใหญ่

ปัจจุบันผู้อพยพดังกล่าวซึ่งมีจำนวนกว่า 600 คน ยังไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่ที่บ้านเดิมได้ และยังคงอาศัยอยู่ในศูนย์ลี้ภัยชั่วคราวที่บ้านกุงจ่อ ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่

--------------------------------------------------------------------------------

ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ข่าวสาละวิน (Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ chuem@cm.ksc.co.th และ snn_news@cm.ksc.co.th พร้อมติดตามอ่านข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าภาคภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org และภาคภาษาไทยใหญ่ได้ที่ www.mongloi.org