เจ้าหญิงไทใหญ่ชี้พม่าใช้นโยบายปกครองแบ่งแยกชนชั้นยิ่งกว่าสมัยอังกฤษ

ประชาไท - 7 พ.ย.2549 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2549 ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์เบอร์มาร์ไดเจสท์ ที่จัดทำและเผยแพร่โดยกลุ่มนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในพม่าได้ตีพิมพ์บทความภาคภาษาอังกฤษที่เขียนโดย เจ้าหญิงนวลอู๋ ธิดาอดีตเจ้าฟ้าขุนส่า เมืองลอกจอก ในรัฐฉาน ซึ่งมีหัวข้อว่า "ถึงเวลาที่จะต้องเผชิญกับความจริง" (Time to face the truth) โดยเนื้อหาของบทความได้เปิดเผยถึงการที่รัฐบาลทหารพม่ามักจะกล่าวหาอังกฤษ และอดีตเจ้าฟ้าของไทใหญ่ว่า ใช้นโยบายในการปกครองที่ผิดซึ่งทำให้ประชาชนในสหภาพพม่าเข้าใจอะไรที่ผิดมาจนถึงปัจจุบัน

บทความดังกล่าวระบุว่า แม้ว่าอังกฤษจะถอนออกจากสหภาพพม่าและบรรดาเจ้าฟ้าต่างๆ ได้มอบอำนาจให้กับรัฐบาลทหารพม่าไปนานหลายสิบปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาหากเกิดมีปัญหาทางการเมืองซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม รัฐบาลทหารพม่าก็ยังไม่หยุดที่จะกล่าวหาอังกฤษและอดีตเจ้าฟ้าว่า ปัญหาเหล่านั้นเกิดจากการวางรากฐานในระบอบการปกครองของเขาในอดีต โดยอังกฤษมักจะถูกกล่าวหาว่า เมื่อครั้งที่ปกครองพม่านั้นใช้นโยบายการปกครองแบ่งแยกชนชั้น จนเป็นเหตุให้เกิดการแบ่งแยกในกลุ่มชาติพันธ์ในปัจจุบัน

ขณะที่อดีตเจ้าฟ้าไทใหญ่ได้ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้วางนโยบายปลูกฝังให้ชนชาวไทใหญ่มีความคิดแยกตัวออกปกครองตนเอง ซึ่งเป็นเหตุให้ชนชาวไทใหญ่มีการเคลื่อนไหวเพื่อต้องการแยกตัวออกปกครองตนเองมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดความแตกแยกในสหภาพพม่า

ทั้งนี้อังกฤษได้คืนอำนาจการปกครองให้แก่สหภาพพม่าเมื่อปี 2491 ซึ่งผ่านมาแล้วรวม 58 ปี และเจ้าฟ้าไทใหญ่เมืองต่างๆ ได้มอบอำนาจให้แก่พม่าตั้งแต่ปี 2502 ซึ่งก็ผ่านมาแล้วถึง 47 ปี

บทความระบุอีกว่า เมื่อครั้งที่อังกฤษปกครองสหภาพพม่านั้นได้ใช้นโยบายการปกครองแบบแบ่งชนชั้นจริง แต่ก็ไม่แตกต่างจากปัจจุบันซึ่งรัฐบาลทหารพม่าเองก็ยังใช้นโยบายนี้อยู่ โดยการปกครองของรัฐบาลทหารพม่าในปัจจุบันไม่เฉพาะทำให้เกิดการแบ่งแยกกลุ่มชาติพันธ์ แต่ยังก่อให้เกิดการแบ่งแยกในชนชาติอีกด้วย ดังจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันได้เกิดความแตกแยกหรือความขัดแย้งภายในกลุ่มชนชาติเดียวกัน ซึ่งย่ำแย่กว่าการปกครองในสมัยอังกฤษ

และการที่ไทใหญ่และกลุ่มชนชาติอื่นๆ ต้องการแยกตัวออกปกครองตนเองก็ไม่ได้เกิดจากนโยบายของอดีตเจ้าฟ้า แต่เกิดจากบรรดานักการเมืองไทใหญ่ในอดีตที่ต่อต้านระบบเจ้าฟ้า อาทิเช่น อูทุนมิ้น ผู้ซึ่งเป็นที่ยอมรับของชาวไทใหญ่ในอดีตและเป็นผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการเมืองหลายเล่มอาทิ "จะแยกหรือจะอยู่ร่วมกัน" "ทุกข์ของรัฐฉาน" และ "รัฐไทใหญ่ที่เท่าเทียมสหภาพ" ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นคนไทใหญ่ทำขึ้นเองไม่ใช่อดีตเจ้าฟ้าองค์ใดแต่อย่างใด และที่สำคัญการที่กลุ่มชาติพันธ์ต่างๆ ต้องการแยกออกปกครองตนเองนั้น เกิดจากการยอมรับไม่ได้ในระบอบการปกครองของรัฐบาลทหารพม่า

โดยตอนท้ายของบทความดังกล่าวได้สรุปไว้ว่า ถึงเวลาที่รัฐบาลทหารพม่าควรให้การยอมรับแล้วว่า ปัญหาต่างๆ ในสหภาพพม่าปัจจุบันเกิดจากการกระทำของตน และควรมอบอำนาจการปกครองให้กับกลุ่มการเมืองที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนแล้ว

ทั้งนี้ เจ้าหญิงนวลอู๋ ปัจจุบันมีอายุ 70 ปี เป็นบุตรธิดาของเจ้าฟ้าขุนส่า เมืองลอกจอก และเจ้าหญิงแหวนติ๊บ ในตระกูลเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุง โดยเจ้าหญิงนวลอู๋ มีผลงานด้านการเขียนมาแล้วหลายชิ้น และผลงานที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุดได้แก่ หนังสือ โลกของฉันที่เลือนหายไป "My vanishing world" ซึ่งเป็นหนังสือเปิดเผยถึงสถานการณ์การเมืองในพม่าในอดีต

--------------------------------------------------------------------------------
ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ข่าวสาละวิน (Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ chuem@cm.ksc.co.th และ snn_news@cm.ksc.co.th พร้อมติดตามอ่านข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าภาคภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org และภาคภาษาไทยใหญ่ได้ที่ www.mongloi.org


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท