Skip to main content
sharethis


ประชาไท - 24 ต.ค.2549 กระแสคัดค้านมิให้ตัวแทนองค์กรสื่อร่วมทำงานกับสภาร่างนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยังไม่ทันคลี่คลาย นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและนักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยได้ออกจดหมายแสดงจุดยืนในการต่อต้านรัฐบาลที่มิได้มาจากการเลือกตั้ง โดยให้เหตุผล 4 ประการซึ่งปรากฏในจดหมายเปิดผนึก ใจความว่า


 


จดหมายเปิดผนึกถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติสายนักวิชาการและนักประชาธิปไตย


 


เรื่อง ขอให้ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ


 


ตามที่คณะรัฐประหารได้มีการประกาศแต่งตั้งบุคคลจำนวน 242 คน เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้ทำหน้าที่เช่นเดียวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ดังเป็นที่ทราบกันดีแล้วนั้น


 


พวกเรา เจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรประชาชน นักวิชาการ และผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มีความเห็นว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้การแต่งตั้งจากคณะรัฐประหาร ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมาจากสถานภาพใดก็ตาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานะที่เป็นนักวิชาการและนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยแล้ว ย่อมไม่สมควรยอมรับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ อันน่ารังเกียจนี้


 


ด้วยเหตุและผลดังต่อไปนี้


 


1.การรัฐประหารไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใดก็ตามย่อมเป็นการกระทำอาชญากรรมต่อระบอบประชาธิปไตยทั้งสิ้น ผู้กระทำต้องได้รับโทษตามกฎหมายบ้านเมืองที่นานาอารยะประเทศไม่ยอมรับและรังเกียจเดียดฉันท์ ตลอดมาทุกยุคทุกสมัย


 


2.การรัฐประหารถือเป็นการกระทำขัดต่อหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน อย่างน้อย 2 ประการ กล่าวคือ


 


ประการแรก ขัดแย้งต่อหลักการว่าด้วยอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน หมายความว่า อำนาจอธิปไตยมีที่มาจากเจตจำนงของประชาชนแต่ละคนในชาตินั้นๆ ซึ่งอำนาจนี้ ไม่มีใครหยิบยื่นให้และไม่มีใครพรากโอนไปจากมนุษย์แต่ละคน ที่เป็นเจ้าของอำนาจนี้ เป็นอำนาจที่มีอยู่ติดตัวมาพร้อมกับการเกิดเป็นมนุษย์ คณะรัฐประหารได้บังอาจใช้อาวุธ ข่มขู่ บังคับ ขืนใจ ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ให้สละอำนาจอธิปไตย โดยประชาชนไม่ยินยอม


 


ประการที่สอง ขัดแย้งต่อหลักการว่าด้วยสิทธิในการกำหนดวิถีชีวิตตนเอง (Self-Determination) หมายความว่าประชาชาติทั้งปวงมีสิทธิที่จะกำหนดสถานภาพทางการเมือง และดำเนินแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ได้อย่างเสรี ประชาชนไทยมีสิทธิและได้ใช้สิทธิในการกำหนดที่จะเลือกรูปแบบทางการเมืองตามเจตจำนงของตนแล้วโดยผ่านการเลือกตั้ง ได้มีรัฐบาลที่มีที่มาตามวิถีทางประชาธิปไตยโดยปราศจากการแทรกแซงจากอำนาจนอกระบบ


 


หลักการดังกล่าวปรากฏในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights-ICCPR) และ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรม (International Covenant on Economic Social and Cultural Rights- ICESCR) ซึ่งเป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีแล้ว


 


3. การรัฐประหารเป็นการใช้อำนาจนอกระบบทำลายรัฐบาลที่มีที่มาจากการเลือกตั้ง เท่ากับว่า คณะรัฐประหารได้ทำลายการกำหนดวิถีทางทางการเมืองของประชาชนโดยเสรี และการรัฐประหารย่อมเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งสองฉบับในข้อ 2 ซึ่งคณะรัฐประหารไม่มีมูลเหตุตามกฎหมายในการยกเว้นความผิด ในการก่อการรัฐประหารได้


 


4. เมื่อคณะรัฐประหาร ที่ไม่มีความชอบธรรมในการได้มาแห่งอำนาจทั้งทางกฎหมายและ ขัดต่อหลักการประชาธิปไตยดังกล่าว องคาพยพที่มีที่มาจากคณะรัฐประหาร ย่อมไม่มีความชอบธรรม เข้าทำนองภาษิตที่ว่า "ผลของต้นไม้ที่เน่าเสียหรือชั่วร้าย ย่อมเน่าเสียหรือมีความชั่วร้ายตามไปด้วย" หรือ ตรงกับภาษิตจีนที่ว่า "งาช้างไม่ได้งอกจากปากสุนัขฉันใด ประชาธิปไตยย่อมมิได้มาด้วยปากกระบอกปืนฉันนั้น"


 


ด้วยเหตุและผลดังกล่าว ในฐานะของกัลยาณมิตรที่อยากเห็นประชาธิปไตยของประเทศไทย มีที่มาจากเจตจำนงเสรีของคนในชาติ จึงขอเรียกร้องให้นักวิชาการและนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย หันหลังให้แก่ระบอบรัฐประหาร ด้วยการลาออกจากการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติทันที และไม่ให้ความร่วมมือใดๆแก่อาชญากรที่กระทำ อาชญากรรมต่อระบอบประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน และขอให้หันหน้าเข้ามาเป็นเสียงแห่งมโนธรรม สำนึกของพลเมืองที่ไม่สยบหรือยอมจำนนและตกอยู่ในการบังคับให้อยู่ในความหวาดกลัว แต่ต้องร่วมมือกันแข็งขืนต่อทรราชย์ อันเป็นวิถีทางสุดท้ายของการได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่ทุกคนต้องการ


 


ด้วยความเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์


 


ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2549


 


1. นาย ศราวุฒิ ประทุมราช  นักปกป้องสิทธิมนุษยชน tuactive@yahoo.com


2. นายสมบัติ บุญงามอนงค์  มูลนิธิกระจกเงา sombat@bannok.com

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net