วิทยากร บุญเรือง
ที่มาของภาพ : Lanna independence media
... ผมรู้สึกตลกไม่ออก ( ทั้งๆ ที่พยายามจะเป็นคนตลกให้ได้ทุกสถานการณ์ ;-) เมื่อได้อ่าน "ข่าว 2 ข่าว" ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวชี้บ่งชุดความคิดหลักของคนใน "สังคม 2 สังคม"
ข่าวแรกเป็นตัวแทนของสังคมที่ยังมีแนวคิดเหยียดความเป็นอื่น เอาเปรียบคนอื่น กีดกันคนอื่น ส่วนอีกข่าวเป็นความพยายามสลายความเกลียดชัง สลายการเอาเปรียบ สลายการกีดกัน เพื่อสร้างความสมานฉันท์อย่างแท้จริงบนโลกใบนี้ โดยกลุ่มคนเล็กๆ ที่หลากหลาย
ที่ตลกไม่ออกเพราะขณะที่ตำรวจไทยกำลังไล่จับแรงงานต่างด้าวในวันออกพรรษา วิ่งไล่ตามกันปุเลงๆ รอบจังหวัดเชียงใหม่บ้านเกิดผม โดยมีชาวเชียงใหม่ส่วนใหญ่ที่ถูกลัทธิ "protectionism*" ตามเชียร์ตำรวจเหล่านั้น
*ซึ่งลัทธิกีดกันคนอื่นแบบนี้ มันได้รับอานิสสงค์จากตำราเรียนประวัติศาสตร์สายดำรงราชานุภาพ และ ภาพยนตร์เรื่อง "บางระจัน" ;-) ที่ให้ความรู้สึกว่าเผ่าพันธุ์ไทยมันยิ่งใหญ่ซะเหลือเกิน! เหล่านี้มันเป็นตัวเพาะบ่มความเป็นชาตินิยม หาคู่ตรงข้ามต่างชาติพันธุ์ --- และมันทำให้เราเกลียดเพื่อนบ้าน - ดูถูกเพื่อนบ้าน มาโดยตลอดในประวัติศาสตร์ชนชาติไทยสมัย Modern
แต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เหล่านักกิจกรรมแนว "อนาธิปไตย" หลายประเทศบนโลกใบนี้ กลับทำในสิ่งซึ่งตรงกันข้ามกับบ้านเรา --- คือพวกเขากำลังรณรงค์ต่อต้านการกีดกันแรงงานอพยพ ผู้อพยพ สร้างความสมานฉันท์ระหว่าง "มนุษย์กับมนุษย์" สร้างสันติภาพอันแท้จริงตามประสาคนตัวเล็กๆ ที่ไม่มีอำนาจวาสนาอะไร พวกเขาร่วมมือกันทำอยู่บนท้องถนน, ในทะเล, หรือแม้แต่บนสะพานระฟ้า ด้วยวิธีแปลกๆ ตามวิถีของนักอนาธิปไตย!
000
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจไทยต้องตามไล่จับแรงงานต่างด้าว โดยที่มีชาวเชียงใหม่บางส่วนช่วยเชียร์อยู่นั้น นักเคลื่อนไหวทั่วโลกกลับร่วมมือร่วมใจกันรณรงค์ต่อต้านการกีดกันแรงงานอพยพและผู้อพยพ ภายใต้ชื่อการรณรงค์ "migration action-day"
การรณรงค์เกิดขึ้นใน 30 กว่าเมืองใหญ่ ทั้งในยุโรปและแอฟริกา แต่ขอย่นย่อและขอนำเสนอพอสังเขปดังนี้...
ที่มาของภาพ : athens.indymedia.org
ในกรุง
มีผู้เข้าร่วมในการรณรงค์ประมาณ 500 กว่าคนรวมทั้งชาวกรีซและผู้อพยพ ... แต่เนื่องจากมีการเลือกตั้งระดับเทศบาลในกรุง
Cotounou (ประเทศ
ที่มาของภาพ : www.noborder.org
กิจกรรมที่ประเทศเบนิน มีการร่างปฏิณญาและจัดตั้งองค์กรทางสังคมในการต่อต้านการกีดกันแรงงานอพยพและผู้อพยพขึ้นในประเทศเบนิน
Freiburg (ประเทศเยอรมัน)
ที่มาของภาพ : www.noborder.org
ที่จตุรัสกลางเมือง
การเปิดกิจกรรมใน
โดยกิจกรรม migration action-day ใน
นอกจากนี้ยังมีการเดินขบวนรณรงค์ภายในเมือง โดยมีผู้เข้าร่วมขบวนประมาณ 250 - 300 คน มีการสร้างรั้วลวดหนามเชิงสัญลักษณ์ (อันเป็นสัญลักษณ์การกีดกันของยุโรป) นอกจากนี้ยังมีการบล็อคการจลาจรบางช่วงด้วย
ช่วงท้ายของกิจกรรม มีการร่างแถลงการณ์ร่วมที่มีความยาวกว่า 100 ฟุต เนื้อหาเกี่ยวกับการให้สิทธิเสรีภาพแก่มนุษย์ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติไหน, การข้ามเขตแดนอย่างถูกต้องตามหลักสิทธิโดยธรรมชาติ, และมนุษย์ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรม เป็นต้น
Gothenburg (ประเทศสวีเดน)
ที่มาของภาพ : www.noborder.org
ที่มาของภาพ : www.noborder.org
กิจกรรมที่เมือง Gothenburg มีการร่างแถลงการณ์ร่วม นอกจากนี้ยังมีการไว้อาลัยให้กับประชาชนที่เสียชีวิตจากนโยบายการสร้างอุปสรรคให้กับผู้อพยพเข้าเมืองของยุโรป และจากเหตุการที่เกิดจากการเหยียดชาติพันธุ์ต่างๆ
ที่มาของภาพ : de.indiymedia.org
นักเคลื่อนไหวใน Lindau ใช้การเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ แสดงให้เห็นถึงการเข้าสู่ผืนแผ่นดินจากทะเล ด้วยการแสดงการล่องแพที่อ่าว Yacht ของเมือง Lindau นอกจากนี้ยังยังมีการแจกใบปลิวรณรงค์อีกด้วย
London (ประเทศอังกฤษ)
ที่มาของภาพ : www.ncadc.org.uk
ที่
ที่มาของภาพ : estrecho.indymedia.org
เมือง
แต่การเคลื่อนไหวในเมือง
Moskow (ประเทศรัสเซีย)
ที่มาของภาพ : ru.indymedia.org
บนถนน Garden ring ถนนสายที่ใหญ่ที่สุดในกรุง
การทำกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเดินขบวนเชิงสัญลักษณ์ สวมหน้ากาก ปิดหน้า ปิดตา ปิดปาก กลุ่มที่ 2 เป็นวงดนตรี samba มีการละเล่นและเต้นรำไปบนท้องถนน ส่วนกลุ่มสุดท้ายเป็นกองทัพตัวตลก ACAB (clown army) ละเล่นบนท้องถนน ทั้งนี้มีการแจกใบปลิวรณรงค์การต่อต้านกีดกันบนท้องถนนอีกด้วย
ส่วนคำขวัญหลักที่ใช้ในกรุง
Rotterdam (ประเทศเนเธอแลนด์)
ที่มาของภาพ : nl.indymedia.org
เช้าวันที่ 6 ตุลาคม นักเคลื่อนไหวได้ทำการปิดล้อมอ่าว
นักปีนป่ายทั้งสองถูกปล่อยตัวหลังจากถูกจับกุมตัวไว้หกชั่วโมง ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ถูกริบไว้ตามระเบียบ
การขัดขืนเชิงสัญลักษณ์ที่
000
ที่มาของภาพ : Resistance Anarchist bulletin ฉบับที่ 84 พฤษภาคม 2006
... ขณะที่เงินทุนในการเก็งกำไรหมุนเวียนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว, เหล่านักธุรกิจ ผู้บริหาร ผู้นำประเทศต่างๆ บินข้ามเข้า-ออกประเทศต่างๆ เป็นว่าเล่น, ห้างสรรพสินค้าข้ามชาติผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วโลก, สินค้าโฆษณาและแฝงไลฟ์สไตล์แบบตะวันตกถูกส่งไปพร้อมกับสัญญาณดาวเทียมผ่านช่อง MTV --- แต่การข้ามพรมแดนเพื่อไปหาสิ่งที่ดีกว่าของคนตัวเล็กๆ กลับถูกกีดกัน / นี่แหละที่เรียกว่า "โลกาภิวัฒน์ซีกเดียว" (ซีกของคนที่มีอำนาจ)
ข้ออ้างในการ "กีดกัน" แรงงานอพยพ ผู้อพยพ ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายในประเทศไทยและทั่วโลกนั้น เหตุผลที่ถูกนำมาอ้างและปลุกระดมอย่างกว้างขวาง คือ ปัญหาการแย่งงาน, ปัญหาสังคม, และเรื่องความมั่นคงของรัฐชาติ
เรื่องของปริมาณแรงงานนั้น ในปัจจุบันการจัดสรรทรัพยากรแรงงานในแต่ละภูมิภาคของโลกยังไม่มีอัตราล้นเกินแต่ประการใด การได้ซึ่งกำลังแรงงานใหม่ๆ จึงเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจที่มีการจัดการในเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ เพียงแต่นายทุนใช้แรงงานอพยพเหล่านี้ เป็นเครื่องมือต่อรองในการกดค่าแรงต่างหาก --- นั่นคือปัญหา!
ปัญหาสังคม ไม่ว่าจะเป็น สุขภาพ อนามัย อาชญากรรม ก็เป็นผลพวงมาจาก นโยบายกีดกันที่ทำให้พวกเขาไม่มี "ที่ทาง" และ "ทางเลือก" มากนัก ดังนั้นต้องให้สิทธิความเสมอภาคแก่พวกเขา เพราะมนุษย์ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรม (Every person has the right to have rights)
ส่วนเรื่อง "ความมั่นคง" ดังที่นำมาอ้างมันคือความมั่นคงของใคร? ความมั่นคงของชนชั้นไหน? เพราะพวกเรา คนส่วนใหญ่ที่ยังเป็นผู้ถูกปกครอง เป็นผู้ลูกค้าของบรรษัทข้ามชาติ เป็นแรงงานให้กับนายทุนผู้กระหายเลือด พวกเราล้วนแล้วแต่ไม่เคยมีความมั่นคงใดๆ ในชีวิตเป็นหลักประกันทั้งสิ้น
สำหรับการขีดเส้นแบ่งโลก มนุษย์ส่วนน้อยที่เรียกว่า "ชนชั้นปกครอง*" ทั้งหลาย พวกคุณกล้าดียังไง ที่เอาไม้บรรทัดกับดินสอมาขีดเส้นแบ่งโลกใบนี้ออกเป็นส่วนๆ เพื่อความสะดวกสบายในการครอบครองอำนาจของกลุ่มตนเอง --- มันไม่ใช่โลกของพวกคุณเพียงกลุ่มเดียว มันเป็นโลกของพวกเราทุกคนต่างหาก!
*ในที่นี้ขอจำกัดความถึงชนชั้นที่สามารถกำหนดแนวทางหลักในสังคมโลกปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ-การเมือง ในแต่ละรัฐชาติเอง หรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลในระดับโลก รวมถึงองค์กรโลกบาลต่างๆ ที่ถูกอุปโลกขึ้นมาโอบอุ้มคนจำนวนน้อยนิดเหล่านั้น!
และท้ายสุดนี้ ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของคนเล็กๆ อย่างพวกเราจะถูกประณามว่าเป็น "นักประชาธิปไตยเพ้อฝัน" - "ซ้ายไร้เดียงสา" - "นักเคลื่อนไหวไร้สาระ" - หรือจะให้เป็นห่าเหวอะไรก็แล้วแต่จะวิจารณ์กันไป ;-) ... ยังไงๆ พวกเราไม่เคยละทิ้งอุดมการณ์ที่เราคิดว่ามันคือสิ่งดี และเราไปไกลกว่าเป็น "นักวิจารณ์สังคม" เพียงอย่างเดียว
เพราะอย่างน้อยที่สุด เราก็ได้ลงมือทำมันจริงๆ เราได้ลงไปสู่ท้องถนน เราได้ล่องแพในทะเล เราได้ปีนสะพาน ... ถึงแม้มันจะเป็นเพียงการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ตามกรอบที่เราพอทำได้ --- แต่ในความคิดของพวกเรา ยังไงมันก็คงดีกว่าการเป็น "นักวิจารณ์ที่แสนฉลาดปราดเปรื่อง" เพียงอย่างเดียว จริงมั๊ยครับ! ท่านผู้เฒ่านักวิจารณ์ทั้งหลาย ;-)
ประกอบการเขียน - แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Resistance Anarchist bulletin ฉบับที่ 84 พฤษภาคม 2006
รายงาน :จับแรงงานข้ามชาติจังหวะทำบุญออกพรรษา เอ็นจีโอหวั่นสังคมวิกฤติหากเห็นบุญเป็นปัญหาความมั่นคง - โดย พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจ http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5349&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)